18 พฤษภาคม 2552 19:39 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ออกเดินลาดตะเวนคุ้มเขตกั้น
ในใจมั่นห่วงใยถึงไออุ่น
เคยเคียงน้องแนบชมลมอรุณ
หอมละมุ่นเนื้อนางไม่สร่างซา
มาวันนี้ต้องฝ่าดงลุยพงพฤกษ์
ในป่าลึกไร้นวลล้วนภูผา
ทั้งกรำฝนแดดเล่าเผากายา
ยามนิทรากอดปืนไม่ชื่นใจ
ออกตะเวนเดินแถวแนวตะเข็บ
ยามบาดเจ็บเพื่อนยารักษาให้
คิดถึงนวลยามร้างมากลางไพร
ด้วยทรามวัยเคยอ้อนป้อนหยูกยา
ต้องเดินดงพงป่าท่องฟ้ากว้าง
มองเดือนพร่างสร้างอยู่คู่เวหา
เหมือนพีชายเคยพรอดกอดกานดา
ยามนี้ลาห่างน้องมาท่องไพร
ด้วยหน้าที่คุ้มเขตประเทศชาติ
ใจยังมาดมุ่งมั่นมิหวั่นไหว
แม้เสียชีพจักพร้อมยอมพลีไป
เพื่อให้ไทยเป็นชาติดูอาจอง
เขาสั่งพักเมื่อไรจะไปหา
หวานวาจาชายใดอย่าใหลหลง
อวลกลิ่นปรางค์ก่อนเคยเชยอนงต์
แม้นอยู่ดงกลิ่นปรางค์ไม่จางเลย
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ทิพย์โนราห์ พันดาว
10 พฤษภาคม 2552 13:47 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
มันทรมานรู้ไหมคนดี.....
ทุกทุกวินาทีที่คิดถึง
กระวนกระวายอยู่ในห้วงคำนึง
ร่ำร่ำรำพึงอยู่ข้างใน....
มันทรมานรู้ไหมคนดี....
ทุกทุกวินาทียามชิดใกล้
อยากบอกว่าทุกห้องของหัวใจ
ไม่เหลือเผื่อใครมอบไว้แด่เธอ
มันทรมานรู้ไหมคนดี.....
ยามใดที่ใจนี้แอบพลั้งเผลอ
เฝ้าคำนวณชวนคิดถึงแต่เธอ
จนใจมันเบลอเพระคิดถึงเธอมากไป
มันทรมานรู้ไหมคนดี...
กลัวเธอจะหนีไปมีใครใหม่
เพราะไม่อยากจากไปไหนไกลไกล
อยากเก็บเธอไว้ตราบนานเท่านาน
มันทรมานรู้ไหมคนดี.....
กว่าใจดวงนี้จะผสมผสาน
ร้อยถักทอเป็นรักอันตระการ
ต้องผ่านช้ำในวันวานผ่านกี่ฤดู
มันทรมานรู้ไหมคนดี...
หากใจดววงนี้ไร้เธอเคียงคู่
ต้องใช้เวลาอีกนานพอดู
เพื่อซ่อมและดูแลใจที่อ่อนแรง
มันทรมานรู้ไหมคนดี....
หากใจดวงนี้ถูกเธอหน่ายแหนง
จากหัวใจฉันที่เป็นสีแดง
อาจจะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสีดำ
มันทรมานรู้ไหมคนดี...
หากใจดวงนี้โดนเธอทำเจ็บช้ำ
ชีวิตฉันคงมีแต่ความทรงจำ
กับหัวใจช้ำช้ำอีกหนึ่งดวง
ทิพย์โนราห์ พันดาว
8 พฤษภาคม 2552 11:27 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ยามตะวันลออทอทาทุ่ง
ลมโลมทุ่งตะวันรอนดอนโพล้เพล้
รวมหมู่เพื่อนชายหญิงวิ่งฮาเฮ
เล่นตังเต บ้างวิ่งไล่ในท้องนา
บ้างลงนอนทิ้งร่างบนฟางข้าว
ดูแมลงเม่าบินว่อนฟ้อนเวหา
บ้างขุดแห้วหัวใหญ่ใส่กะลา
บ้างจับปลาในคูจับปูดำ
ในตะวันยามเย็นเคยเล่นไหม
ตอนเยาว์วัยไร้เดียงสาช่างน่าขำ
เป็นที่ชีวิตที่หอมหวลชวนจดจำ
ยังเก็บงำแม้ผ่านกาลนานหลายปี
แม้วันนี้อดีตก่อนไม่ย้อนกลับ
ยังซึมซับความสุขใจในน้องพี่
คิดถึงท้องนาเอยเคยยินดี
ร่ายวลีเพราะคิดถึงซึ้งเยาว์วัย
ตังเตคือการเอาไม้หรือของเข็งมาขีดกับดินให้เป็นรูปตารางแล้ว
กระโดดตามตารางโดยยกข้าข้างหนึ่งไว้ ถ้าขาแตะพื้นดินก่อนก็ต้องเปลี่ยน
คนใหม่
6 พฤษภาคม 2552 19:12 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
เก็บซ่อนความรู้สึกลึกลึกข้างใน
ทั้งที่หัวใจอยากเปล่งเสียง
อยากตะโกนให้ลั่น....แผดสำเนียง
ว่า..ชีวิตเราที่เขาร้อยเรียง..หล่อเลี้ยงด้วยความ..ร้าวลึก....
แต่มิอาจตะโกนได้ดังลั่น
ทำได้แต่เพียงเฝ้า..กดดันความรู้สึก
เพราะหัวใจมัน..ยังใฝ่สำนึก..
ถึงความรู้สึก..ผิดชอบชั่วดี
แสร้งเอาเถอะ..แสร้งเอา..
ว่า..ชีวิตเราช่างไร้เศร้า..สุขเหลือที่
อักข้างกายยังมีคน..คอยหวังดี
พร้อมยื่นไมตรี..และคอยมอบกำลังใจ
แสร้งเอาเถอะ...แสร้งเอา..
ว่าไม่เหงา..และไม่เคยหวั่นไหว..
ว่าทางยาว...ยาว..ที่ก้าวออกไป....
โรยไว้..ด้วยกุหลาบสี..ชมพู
แสร้งพอหรือยัง..ชีวิตเอ๋ย..
เพราะ..สิ่งที่เอื้อนเอ่ย..มันช่างหน้าอดสู....
นี่แหละหนา..ตัวกูก็คือกู...
แม้สิ่งที่น่าดู..ยังไม่มีในตัวเอง..
หยิบกระจกขึ้นมาส่อง...
มอง...เฝ้ามอง...มองแล้วช่างโหวงเหวง
นี่นะหรือ..คนที่เชื่อมั่นในตัวเอง
กลับต้องมานั่งร้องเพลง"เดียวดาย"
............เดียวดายอาดูรสิ้นสูญ แล้วทุกๆสิ่ง...........
หมายเหตุ " กู " คือภาษาไท สมัยพ่อขุนรามน๊า.....
ทิพย์โนราห์ พันดาว