4 กรกฎาคม 2552 10:40 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
แว่วเสียงแคน ไผอ้อน มาวอนสาว
ร่ายเรื่องราว ผ่านโขงกั้น ให้หวั่นไหว
เสียงแคนย้ำ หยอกสาว ว่าหนาวใจ
ผ่านแนวไพร ฉ่ำซึ้ง ถึงในทรวง
เสียงแคนอ้อน วอนสาว ว่าหนาวนัก
อยากได้รัก ห่มขวัญ ในชั้นสรวง
เสียงแคนเอื้อน เอ่ยขาน คร้านคำลวง
แผ่วเพลงทวง ห่วงซึ้ง หนึ่งสัญญา
ณ ริมโขง ฝั่งสาว ก็หนาวหนัก
นั่งรอรัก ด้วยใจลอย คอยทีท่า
มิอาจลืม ริมโขงค่ำ พร่ำสัญญา
อุ่นแววตา จากสองใจ ยามใกล้กัน
มองตะวัน ยามค่ำ ย่ำยอแสง
ขอบฟ้าแดง ส่งหัวใจ ข้ามโขงฝัน
เพียงสายน้ำ กั้นกลาง ระหว่างกัน
สายสัมพันธ์ จากหัวใจ ยังไหลรวม
แว่วเสียงแคน ไผอ้อน มาวอนสาว
ทุกครั้งคราว คล้ายใยรัก ถักทอสวม
ดุจดอกรัก ผลิบาน แห่งลานทรวง
ฝากดาวดวง ทวงห่วงใย ...คนไกลกัน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
25 มิถุนายน 2552 16:40 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
เหนื่อยหน่ายในความรู้สึก
อัดอั้นลึกลึกข้างใน...
เหนื่อยหน่ายจริงหนอหัวใจ
ใยรุ่มร้อนรานร้าว...
มิอาจหยั่งรู้ใจตัวเอง
ว่าอ่อนไหวฤาแข็งกร้าว
เพียงอยากฝากบางคำ..เบาเบา
ว่าร้าวหนาวหนัก นักแล้ว......
ณ ตอนนี้เธออยู่แห่งไหน
เธออยู่ไกลใช่ไหม...ดวงแก้ว
ฝั่งใจนี้ มืดมน ไร้วี่แวว
ไม่เหลือแล้ว ...แก้วที่เคยส่องทาง
อยากหลับตานิ่งนิ่ง อยู่อย่างนี้
เพื่อคิดถึงคนดี ...ที่เหินห่าง
จะรอวันสองคนบนเส้นทาง
รอแสงสว่าง...ดวงแก้ว...กลับคืน
ยังเหนื่อยหน่ายในความรู้สึก
แม้ในใจลึกลึกอยากจะ..ขัดขึน
แต่ยิ่งทำ..ก็ยิ่ง...กล้ำกลืน
น้ำตายังชื้น ....ทุกคืนคราง
ทิพย์โนราห์ พันดาว
25 มิถุนายน 2552 16:27 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
บรรจงเจียนหมาก จีบพลูบุหรี่พร้อม
ดาวเรืองล้อม ธูปเทียน บนพานใหญ่
ยกเหนือหัว บูชาครู อย่างตั้งใจ
เพี่อสืบใน งานกวี ศรีสุนทร
ขอวจี จงดล คนทั้งหลาย
ไม่ว่าหญิง หรือชาย อย่าถ่ายถอน
ให้วจี งดงาม หวามทุกตอน
ให้ขจร ขึ้นชื่อ เลิ่องลือชา
ยามสัมผัส วรรคใด ซึ้งในจิต
ให้ผูกมิตร หลงด้วยเล่ห์ เสน่หา
ให้ผูกพัน อย่าร้างรอน กลอนโนราห์
ขอวาจา ครูกลอน สุนทรดล
ให้กลอนกานท์ ก้าวไกลในทุกแห่ง
อย่าอ่อนแรง ไร้ศรัทธา ทุกคราหน
ขอมงคล วจีเลิศ เกิดกับตน
ทุกข์ใดยล ให้พ้นรอด ปลอดอุรา
บรรจงเจียนหมาก จีบพลู บุหรี่พร้อม
ศิษย์ขอน้อม สานกวี อันมีค่า
ให้เลื่องลือ ดั่งครูกลอน พร่ำวอนมา
ขอตรึงตรา สุนทรซาบ ตราบนิรันด์
ทิพย์โนราห์ พันดาว
22 มิถุนายน 2552 22:16 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
" หนึ่งขอฝากปากคำทำหนังสือ
ให้สืบชื่อชั่วฟ้าสุธาสถาน
สุนทรอาลักษณ์เจ้าจักวาล
พระทรงสารศรีเสวตเกศกุญชร
อนึ่งมนุษย์อุตริติต่างต่าง
แล้วเอาอย่างเทียบคำทำอักษร
ให้ฟั่นเฟือนเหมือนเราสาบในกาพย์กลอน
ต่อโอนอ่อนออกชื่อจึงลือชา "
สุนทรภู่
เจียนหมากจีบพลูบุหรี่พร้อมอภิวาท
วางเหนืออาสน์ บูชาครู ผู้ยิ่งใหญ่
กวีเอก กวีโลก ผู้โศกใจ
ทุกบทใน กลอนซึ้ง ตรึงใจคน
สองกรกราบ ก้มลง แทบตรงบาท
อภิวาท สุนทรภู่ ครูที่หมาย
ขอน้อมตัว เป็นศิษย์ มิคิดกลาย
ต่อชนม์วาย ใจอยู่ คู่กวี
คิดประดิษฐ์ กาพย์กลอน วอนประสาท
มิบังอาจ เทียบครูกลอน สุนทรศรี
ขอประสาท วิชาสอน กลอน กวี
ให้วลี งดงาม ตามคำครู
สองกรกราบ ซ้ำลง ตรงแทบบาท
อภิวาท ครูกลอน สุนทรภู่
ต่อนี้ไป ศิษย์นี้ มีคุณครู
คอยสอนอยู่ ไกลลิบ ทิพย์พิมาน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
22 มิถุนายน 2552 20:22 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
อุษาสาง ทาบผ่าน ริมม่านฟ้า
หมู่วิหค ส่งวาจา ภาษาเสียง
มองทิวเมฆ ละลิ่วไกล ดูไล่เรียง
บ่งบอกเพียง อรุณสาง จวนพร่างพราย
ใยลมเงียบ เยียบเย็น มิเห็นพัด
เคยสะบัด ยอดยาง มาห่างหาย
หรือลมเย้า หลอกเล่น ให้เห็นอาย
จึงมิกราย มาพรม เป็นร่มใจ
แว่ววิหค ดงไกล ไหวหวีดเสียง
กรีดสำเนียง ร้าวทรวง ถึงห้วงไหน
วิหคเอย เพียงขาน กล่อมธารไพร
ดูหรือใจ ใยแปลบ แสบระบม
สุรีย์สาด แสงทา นภาขอบ
ใจยังมอบ ความซึ้ง กึ่งความขม
แด่คนไกล คราวที่ผ่าน ลานระทม
หวังเคียงชม ไขว่คว้าคว้าง ต้องร้างลา
อุษาแสง ทาบผ่าน ม่านฟ้าแก้ว
สว่างแล้ว ขวัญฤดี อย่าหนีหน้า
ฝากความรัก ผ่านไพรพง ส่งมอบมา
หวังทุกครา ว่าตราตรึง ซึ้งเหมือนเดิม
ทิพย์โนราห์ พันดาว