17 กรกฎาคม 2552 17:46 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
อยากมีตังค์ เป็นหอบ ช็อบให้เรียบ
แต่งตัวเนี๊ยบ ยิ้มสะหยาย สไตล์เกาหลี
ขี่วอลโว่ ซิ่งซีตรอง กินของดี
เป็นเทพี ชายแซง แย่งกันชม
อยากมีบ้าน หลังโตโต โก้เป็นบ้า
"ไปไหนมา" ใครก็รัก ทักกันขรม
อยากมีฮอล์ ลำโต นั่งโต้ลม
เอาไว้ชม ทิวทัศน์ แถวพัทยา(ดูเด็กๆ)
แต่ตอนนี้ มีสี่บาท ขาดอีกสอง
ม่าม่าซอง ยังไม่พอ ท้อหนักหนา
เสื่อก็เก่า ยีนส์ก็ขาด ช่างบาดตา
ปวดอุรา เพราะโดนทิ้ง เจ็บจริงใจ...เฮ้อ เบื่อจัง
ทิพย์โนราห์ พันดาว
17 กรกฎาคม 2552 15:46 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
บรรจงร้อย สร้อยกรุ่น พิกุลแก้ว
ระดาแพรว พรมดื่น บนผืนหญ้า
บรรจงเรียง ร้อยรัก ถักมาลา
หอมศรัทธา ธรรมผ่อง ส่องทางใจ
ร่องรอย อารยะธรรม นำสถิตย์
เนรมิต เล่าขาน สู่กาลใหม่
งามคุณค่า อุโบสถสถาน สานใจ
ถักสายใย สืบสาน ม่านวัฒนธรรม
กนกอ่อน ลายปั้น ช่างชั้นเลิศ
งามบรรเจิด ปั้นลม ดูคมขำ
พุดตาลงาม เรียงราย คล้ายประคำ
แม้ด่างดำ ยังอร่าม งามในตา
เครื่องถ้วยชาม โบราณ ณ กาลเก่า
ประดับเนาว์ กลางใจ ในบุปผา
ดอกดวงเด่น ระยับ ประดับประดา
คล้ายมาลา รายรอบ กรอบแสงธรรม
บรรจงร้อย สร้อยกรุ่น พิกุลหอม
พวงพยอม ในทางธรรม ช่วยนำฝัน
พาหัวใจ ใครหนึ่ง ที่ซึ้งกัน
ร้อยเรียงขวัญ ฉันท์หญ้าน้อย.. ที่.. ร้อยพิกุล
ทิพย์โนราห์ พันดาว
17 กรกฎาคม 2552 15:29 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
อ้อมกอดไหน อุ่นเท่า เรากอดแม่
อุ่นรักแท้ อุ่นทรวง ความห่วงหา
อุ่นอาทร แห่งใจ ในมารดา
หอมเมตตา อุ่นอก ยามกกนอน
อ้อมกอดกรุ่น เพื่อนกัน ในวันจาก
จำต้องพราก จากกัน ในวันก่อน
สายใยรัก สัมพันธ์ มิสั่นคลอน
อุ่นอาวรณ์ มิขาด หยาดน้ำใจ
อ้อมกอดแห่ง หัวใจ ยามได้รัก
เพียงพลาดพักต์ ก็ร้อนรน ทนไม่ไหว
อุ่นสัมผัส รัดรึง ซึ้งสุดใจ
กี่หมื่นใคร หมายมั่น มิหันมอง
ไม่ว่าชน ชั้นใด หวังไออุ่น
ร้าวเป็นจุล ยังคว้า มาสนอง
หวังอุ่นหนึ่ง อุ่นใด ในครอบครอง
ไม่ติตรอง เมามัว เพียงชั่วยาม
อ้อมกอดไหน อุ่นเท่า เรากอดแม่
อุ่นรักแท้ ยังมีไหม ใจอยากถาม
อุ่นอันใด ไม่รันทด และงดงาม
หรือนิยาม อุ่นไอ ไร้ตัวตน
ทิพย์โนราห์ พันดาว
14 กรกฎาคม 2552 15:37 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ที่ห่างหายหน้าไป ไม่ให้เห็น
เหมือนจะเป็นโรคหน่าย คลับคล้ายฝัน
นั่งบ่นเบื่อเหลือใจ ในบางวัน
อีกแบงค์พันไม่มีจ่าย เนตรายเดือน ฮะฮะ..ฮิ้ว
วันนี้กลับบ้านกลอน ย้อนคืนถิ่น
หอมไอศิลป์ กวีกรอง จากผองเพื่อน
ยามได้อ่าน กวีกานท์ ทุกบ้านเรือน
เหมือนได้เยือนโลกใหม่ สมใจปอง
เคยคิดจากบ้านกลอน ไม่ย้อนกลับ
นอนไม่หลับ กระสับส่าย คล้ายเศร้าหมอง
คิดถึงบทกวีแก้ว แว่วทำนอง
หลายร้อยกรอง ซ่านซึ้ง ตรึงไม่ลืม
เป็นกวีคนยาก ที่อยากเขียน
ไม่ได้เรียน เอกไทย ยังใฝ่ฝืน
เฝ้าเกลาคำ กวีใจ ในค่ำคืน
เพื่อให้รื่น ชื่นใจ ยามได้ชม
จนทั้งเงิน ทั้งรัก ให้หนักจิต
ขาดมิ่งมิตร เคียงข้าง บนทางขม
เขียนกวี มีแต่เศร้า เหงาระทม
เพราะอารมณ์ คนเขียน ไม่เปลี่ยนแปลง
ที่ห่างหายหน้าไป ไม่ให้เห็น
ในบางเย็นนั่งปวดใจ ให้แสลง
คิดถึงบทกวีหนึ่ง ซึ้งอย่างแรง
ยังคลางแคลง ในใจเอย ไม่เคยลืม
ทิพย์โนราห์ พันดาว
13 กรกฎาคม 2552 19:36 น.
ทิพย์โนราห์ พันดาว
ตั้งแต่วัน.ที่เรา..หันหลังให้กัน
ในความฝัน..ก็ว่างเปล่า
ไร้ความรัก..ไร้เรื่องราว
มีแต่ความ..ปวดร้าว..เหงา..เข้าซ้ำเติม
ฉันแสร้ง..ไม่สนใจ
แก้ลงตัดใจ..หาคนใหม่..เริ่ม..
ครั้งแล้ว..ครั้งเล่า..ยัง" เหงา" เหมือนเดิม
ไม่มีใครมาเติมคำว่า" เรา" ได้
ป่ายปีน..กี่โคนรุ้ง..ด้วยใจมุ่ง
จะคว้าไขว่
กี่แสงดาวที่พราวไกล.. แต่..
สิ่งสุดท้ายคือ "เจ็บ" เสมอมา
จับมือกับใคร..หลายคน.. หวังเพื่อ
ฝ่าให้พ้น.. สู่วันข้างหน้า..
แล้วก็..ล้มลง..ในทุกครา
เพราะสิ่งที่ไขว่คว้า ..มิสมปารถนา
เลยสักครั้ง..
ความเดียวดาย..และ..อ้างว้าง
รายรอบอยู่..ท่ามทาง..ทั้งสองฝั่ง
มีเพียง..หนึ่งคน..กับ..หนึ่งใจ
ที่ไร้พลัง.. เฝ้าคอยหวัง .ที่...จะก้าวเดิน
เจ็บอกใจ..แทบขาด
ยังหมายมาด..มุ่งจะเหิน
กางปีกงาม..ที่บอบช้ำ...เหลือเกิน..
บินเผชิญ.แกร่งกล้า. ทายท้า...ตะวัน..
ลมแรง..หรือเหน็บหนาว..
กี่เศษดาว ...กี่ซากฝัน
ไร้น้ำค้าง ...ไร้ตะวัน
กี่ไอฝัน..ที่มืดมน...
ในวันนี้.. บอกกับใจ
กี่พงไพรก็...จะฝ่าไป..ให้พ้น
เพื่อแสวงหา...สิทธิเสรี... ดั่งใจดล
ในผองชน ..แห่งอาณาเขต...ประเทศใจ..
ทิพย์โนราห์ พันดาว