30 ธันวาคม 2551 23:23 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
ฟ้าใหม่คือดวงตา
ที่สบมาบอกความใน
รักเธอมากเพียงใด
กำหนดไว้ด้วยเขตฟ้า
รักเราคือสายลม
คอยพัดพรมห่มแก้วตา
รักเราคืออุษา
ที่ทอแสงอันสดใส
ฟ้าใหม่คือจุดเริ่ม
และจะเติมเต็มหัวใจ
ปีนี้หรือปีไหน
จงมั่นใจ...ฉันรักเธอ ฯ
นวสมฺวตฺสรวาเร ธีมตฺเต ภูยายุหฺ
ในวาระปีใหม่นี้ ขอปัญญาอันงามจงเกิดแก่ท่านทั้งหลาย
27 ธันวาคม 2551 14:27 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
ความรักบ้า!
๑ ความรักบ้า!
มาหลอกลวงให้ร้องไห้
มาชักจูงจนหลงไป
มาฝังใจไม่จืดจาง
๒ มาสร้างฝันให้เฟื่องฝัน
ให้สรรใฝ่อยู่ไม่สร่าง
มาให้หลงในเงาราง
วิ่งคว้าพลางจนคะมำ
๓ ความรักบ้า!
เห็นน้ำตาแค่ของขำ
เจ็บแล้วใจต้องให้จำ
อย่าไปย้ำให้อับอาย
๔ ความรักช่างลวงล่อ
ให้เพ้อพ้อไม่เว้นวาย
คิดถึงเขาจนแทบตาย
ขณะเขาคิดถึงใคร
27 ธันวาคม 2551 14:23 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
พเนจร
๑ ท่ามทางอ้างว้างวเนจร
เหนื่อยอ่อนจวนเจียนหลับใหล
แวดล้อมว้าเหว่วังเวงใจ
เจียนจวนสิ้นไร้เรี่ยวแรง
๒ ทางกรวดหินกราดที่โกรธเกรี้ยว
เวียนลดวนเลี้ยวแล้งแห้ง
ตรวยโตรกโคกผาศิลาแลง
ลาดหลั่นเดือดแดงด้วยดินดาน
๓ กางกั้นหนทางว้างระทม
ทีละก้าวหลุบจมในดินกร้าน
ทีละป่ายค่อยปีนบนผาราน
ทีละคลานค่อยคืบข้ามขอบเขา
๔ ตะวันรอนล้าลงตรงขอบฟ้า
หม่นเมฆขยิบตาในฝุ่นเถ้า
นักเดินทางก้าวย่ำลงเบาเบา
ฝุ่นก็ฟุ้งปลิวเป่าขึ้นบดบัง
๕ นักเดินทางมาทิศ ไม่รู้ทาง
เดินกลางถนนไร้คนหยั่ง
ค่อยค่อยเหยียบทีละก้าวตามกำลัง
แววตาฉายหวังอยู่เต็มตา
๖ ไร้คนร่วมเคียงเดินข้าง
ใช่อ้างว้างกลางโลกหล้า
มุ่งไปแม้ไร้ทางมา
วเนจรใช่ว่าไร้ทางไป
๗ ท่ามทางอ้างว้างวเนจร
กลางดินดอนเถื่อนทางร้างคนใกล้
จักเดินมุ่งหน้าต่อไป
ต่อไป... ต่อไปแม้ไม่เห็นทาง
20 กันยายน 2551 18:35 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
๑ ความห่างไกลทำให้เราคิดถึง
ความห่างไกลทำให้ซึ้งความโหยหา
ความห่างไกลทำให้รู้รสน้ำตา
ความห่างไกลให้รู้ค่าการพบกัน
๒ ความห่างไกลช่วยพิสูจน์คำพูดหวาน
ความห่างไกลช่วยผสานริ้วความฝัน
ความห่างไกลให้ร่ำร้องปองหากัน
ความห่างไกลเติมใจฉันด้วยใจเธอ
๓ ความห่างไกลใช่เช่นศัตรูร้าย
ความห่างไกลช่วยสลายความผิดเผลอ
ความห่างไกลทำให้คอยอยากพบเจอ
ความห่างไกลทำละเมอเหม่อรำพึง
๔ ความห่างไกลทำให้ฉันเพ้อพร่ำ
ความห่างไกลยิ่งช่วยย้ำคำคิดถึง
ความห่างไกลทำให้ใกล้ยิ่งตราตรึง
ยิ่งห่างไกลยิ่งรู้ซึ้ง...คำว่ารัก
1 เมษายน 2551 13:07 น.
ทาสกวีแลเทพธิดากวี
สาย 'น้ำ' นิรันดร์
๏ จากนิรันดร์กลั่นกลายเป็นสายน้ำ
ค่อยเซาะซึมสืบตามท่ามขุนเขา
ละมัยหยาดรินหยดรดเบาเบา
จากหัวใจหม่นเศร้าแห่งสายธาร
๏ จากหยดน้ำหยาดงามเป็นธารน้ำ
รินไหลตามเส้นทางไร้ผู้ผ่าน
กร้านหินกร้าวเกาะแก่งทรมาน
เป็นปราการด่านคั่นกั้นทางไป
๏ แต่ธรรมชาติแห่งสายน้ำ...
ย่อมไหลตามเส้นทางที่สร้างใหม่
สร้างจากหยาดเรี่ยวแรงแห่งหัวใจ
ทลายล่วงขวากภัยอย่างลำพอง
๏ เจ้าเหนื่อยยากเหลือเกินหนอสายน้ำ
อุปสรรคคุกคามให้ขัดข้อง
ความขื่นขมตรมเศร้าเข้าครอบครอง
จนสายน้ำเจิ่งนองทั้งสองตา
๏ แต่สายน้ำที่ไหลผ่านใต้ธารดาว
สุกสกาวกระจ่างใสไร้ฝุ่นฝ้า
เมื่อสายน้ำจ้องมองธารดารา
เจ้าก็กลับงามสง่ากว่าดวงดาว
๏ ธารดารางามเพียงแต่ดารา
ประดับฟ้าวิบวับเพียงจุดขาว
แต่เจ้างามด้วยแสงเดือนและแสงดาว
สุกสกาวกลางน้ำงามเหลือเกิน
๏ เสียงหยาดน้ำยามไหลในสายน้ำ
เสนาะท่ามสงัดงำแห่งโขดเขิน
ดุจน้ำเพชรใสสะอาดไม่ขาดเกิน
หล่นกระทบจานเงินกระจ่างเงา
๏ เส้นทางแห่งสายน้ำ...
คือตำนานงดงามแห่งขุนเขา
ไหลเซาะสร้างทางผ่านโลกทึมเทา
เพื่อลบล้างความเศร้าทุรนทุราย
วันนี้...
๏ แม้สายน้ำเจ้าไหลไกลนิรันดร์
แต่ตำนานเจ้านั้นมิเหือดหาย
ประดับเด่นท่ามดาวอันพราวพราย
ขอเสียงสาย น้ำ กระจ่างกลางใจคน
อาลัยแด่ ศิราณี ทองนิยม อดีตผุ้แข่งขัน The Star
แด่เธอผู้กล้าฝัน...
แด่วัยวันอันขมขื่น ...
แด่น้ำตาทุกค่ำคืน...
แด่ความรื่นรมย์อันนิรันดร์...