20 กรกฎาคม 2550 17:43 น.
ทานพอ
เพ้อไปตามอารมณ์
อร่ามเหลืองเรืองรองงามผ่องผุด
เปรียบประดุจทองทาประสาศิลป์
ทิวแถวทางข้างถนนอยู่บนดิน
ไม่เคยสิ้นกลิ่นหวนให้ชวนชม
ภมรหอมตอมถึงคนึงจิต
ให้หวนคิดถึงลำดวนนวลงามสม
มวลหมู่ชายหมายมากอยากเชยชม
อยากดอมดมเด็ดดวงพวงสีทอง
ย่างเย็นย่ำค่ำแล้วแว่วปักษา
ส่งเสียงมาร่อนเรียงเคียงคู่สอง
แอบอิจฉาว่าปักษีมีคู่ครอง
แต่เราหมองยืนมองนกร้องเพลง
ห้วงแห่งกาลผ่านผันนั้นกำหนด
เป็นเกณฑ์กฏโรยร่วงพวงโหวงแหวง
เหลือเพียงก้านคดข้องอตัวเอง
ตามบทเพลงแห่งเวลานั้นพาเดิน
ภมรหายเห็นเรียงรายแค่ปลายกิ่ง
ด้วยไร้สิ่งเย้ายวนชวนสรรเสริญ
จึ่งหน่ายแหนงแครงหนีทำทีเมิน
ดั่งร่อนเหินห้วงหาวไปดาวไกล
นาย ทานพอ
14 กรกฎาคม 2550 07:45 น.
ทานพอ
มนุษย์
หวนคำนึงถึงมนุษย์สุดอนาถ
เทียบชั้นชาติผงาดเหนือเวหา
สัตว์ประเสริฐงามเลิศเฉิดกายา
กลับสิ้นค่าต่ำช้าเพราะอารมณ์
เดียรฉานที่คลานขนานพื้น
มีดาษดื่นถูกยื่นชื่อคือขม
เดียรฉานผู้คลานติดโคลนตม
กลับไม่บ่นความชั่วให้มันตน
ลองคิดดูหมู่ชนคนประเสริฐ
ผู้งามเลิศเกิดสูงทุ่งเวหน
เทวดาเดินดินแต่ถิ่นบน
ทานประเสริฐเลิศล้นที่หนใด
นาย ทานพอ
13 กรกฎาคม 2550 20:18 น.
ทานพอ
คิดถึง
จับปากกาบรรเลงเพลงอักษร
แม่งามงอนตอนนี้เธออยู่ไหน
จากกันมาคิดถึงบ้างหรือไม่
จำจากไกลหัวใจคิดถึงเธอ
หรีดหริ่งเสียงสำเนียงเพียงประสาน
นั้นบันดาลเรียงร้อยถ้อยคำศิลป์
ฝากลมพาไปหาแม่ยุพิน
ว่าพี่กินน้ำตาเป็นอาจิณ
นาย ทานพอ
7 กรกฎาคม 2550 18:17 น.
ทานพอ
ต่างก็แปลก
รักแรกเริ่มเรียนรู้ดูแปลกนัก
ต่างก็หักห้ามใจไม่เป็นสอง
ช่างฉ่ำหวานน้ำตาลยังเป็นรอง
พี่มีน้องน้องมีพี่มีสองเรา
รักเริ่มร่วงแรกรู้ดูแปลกนัก
ไร้น้ำหนักโลเลเฉกเช่นเสา
หลักปักเลนโอนเอนเหมือนรักเรา
พี่มีเขาน้องมีเขาเราแยกทาง
นาย ทานพอ
7 กรกฎาคม 2550 18:08 น.
ทานพอ
จากเพื่อน
เพื่อนจำพรากจากโลกให้โศกศัลย์
ยิ่งจาบัลย์เคยร่วมสุขสนุกสนาน
มาลาเพื่อนเลือนลับกับวันวาน
ห้วงแห่งกาลผ่านผันนั้นพาจร
เพื่อนทำบุญร่วมน้อยจึงพลอยลับ
เหลือเพียงศัพท์วาจาอนุสรณ์
ยามยลยินมิสิ้นโศกโลกอาวรณ์
อกสะท้อนอ่อนเผลี้ยจะเสียคน
เคยสำเหนียกเสียงเพื่อนเอื้อนคำหวาน
เคยส่งสารสื่อเศร้ากล่าวหลายหน
เคยพาทีว่ามีสุขทุกข์ระคน
เคยกังวลร่วมเรียนเพียรวิชา
ด้วยโลกเคลื่อนเลื่อนเวียนเขียนคำจาก
น้ำตาหลากเอ่อล้นจนท่วมหน้า
แต่โลกเวียนเปลี่ยนใหม่ไปกี่ครา
เพื่อนยังตราตรึงจิตสนิททรวง
นาย ทานพอ