10 ธันวาคม 2548 09:26 น.
ทัดหทัย
หลังความมืดครอบฟ้าราตรีหนึ่ง
ม่านหมอกจึงสบโอกาสอาจฉกฉวย
เสแสร้งปลอบคนเหงาเฝ้าเอออวย
เหมือนล้นด้วยน้ำใจเปี่ยมไมตรี
เธอก็คือหมอกนั้น ณ วันผ่าน
แค่ต้องการกั้นขวางกลางวิถี
สิ่งเธอมอบมิใช่ความไยดี
แต่มากมีเล่ห์กลปนหลุมพราง
เป็นหมอกที่คลี่ตัวทั่วทุกแห่ง
เพื่อยื้อแย่งครอบครองแทรกช่องว่าง
มาบังตาผู้คนซ่อนหนทาง
แทนสว่างกลับยืดช่วงมืดมน
เธอก็มีความหมายแค่สายหมอก
สามารถหลอกใครบ้างเป็นบางหน
เมื่อแดดอุ่นอาบหวังลบกังวล
ย่อมหลุดพ้นมุมสลัวของหัวใจ
เพียงแดดจ้าฟ้าแจ่มแซมรักหวาน
ฤๅต้องการหมอกหนามาเฉียดใกล้
พอเถิดนะม่านหมอกเลิกหลอกใคร
หลีกทางให้แก่คนที่มีรักจริง
7 ธันวาคม 2548 15:54 น.
ทัดหทัย
" แทบเท้าเธอนี่ไงหัวใจฉัน
จะเหยียบมันก็ได้ฉันไม่ว่า "
และแน่วแน่เช่นนั้นแทนสัญญา
คือคำท้าที่ฝากเอ่ยจากใจ
เป็นจุดเริ่มที่รักถักทอหวัง
เป็นพลังยึดมั่นมิหวั่นไหว
เป็นการเชื่อมวิญญาณสานเยื่อใย
เป็นสื่อให้คนตระหนัก " เรารักกัน "
" หัวใจเธอที่วางตรงข้างเท้า
จะหยิบเอามาไว้ข้างใจฉัน "
จำหลักรอยถ้อยคำผูกสัมพันธ์
จึงเชื่อมั่นต่อเธอเสมอมา
เทิดเธอเท่าเจ้าชีวิตทรงสิทธิ์ขาด
มีอำนาจออกปากพิพากษา
อยู่หรือตายได้ทั้งนั้นตามบัญชา
รักหรือฆ่าเป็นที่สุดไม่อุทธรณ์
26 พฤศจิกายน 2548 09:44 น.
ทัดหทัย
เช้าวันที่มีหมอกเคลียดอกไม้
ทุกลมไล้ราวมีดมากรีดผิว
ต้นลมแล้งระย้าช่อล้อลมปลิว
เรียงเป็นทิวทักทายริมรายทาง
คือว้าเหว่แห่งวันอันเหน็บหนาว
บนช่วงก้าวที่ไร้ใครเคียงข้าง
คิดถึงคนเคยปลอบใจบอบบาง
บัดนี้ห่างเกินหวงแม้ห่วงใย
น้ำค้างพรมลมพลิ้วก็หวิวหวาด
จนมิอาจสะกดกลั้นความหวั่นไหว
อยู่ปลายโลกโศกรุมสุมหัวใจ
สะอื้นไห้ทุกคราวลมหนาวเยือน
กี่ปีแล้วหนอเราต้องเหงาหงอย
น้ำตาปรอยมาแต้มจนแก้มเปื้อน
กับคืนวันอ้างว้างรักลางเลือน
ฝันก็เฝื่อนยิ้มก็ฝืนกล้ำกลืนทน
เช้าวันนี้หมอกหนากว่าวันอื่น
น้ำค้างชื้นจนฉ่ำเหมือนน้ำฝน
เป็นเช้าที่หัวใจใครหนึ่งคน
ทั้งมืดมนทุกข์ตรมจมน้ำตา
22 พฤศจิกายน 2548 12:30 น.
ทัดหทัย
จนปากกาหนึ่งด้ามหมดน้ำหมึก
แค่บันทึกความรักได้สักเสี้ยว
โดยรักนี้มีเสนอเธอคนเดียว
คอยเธอเหลียวมาอ่านพอผ่านตา
บอกให้เธอตระหนักว่ารักมาก
จริงใจจากหัวใจคนไร้ค่า
และอยากขอแค่เศษความเวทนา
จากนางฟ้าผู้สถิตเหนือจิตใจ
บรรทัดท้ายบันทึกหมึกเปลี่ยนสี
อาจเทวีอ่านเจอเผลอสงสัย
จึงต้องแจงสาเหตุตามเลศนัย
ความเป็นมาเป็นไป...ฟังให้ดี
พอหมึกหมดกระทันหันทิ้งฝันค้าง
ยอมเชือดกลางหัวใจเลือดไหลปรี่
มากเกินกว่ารอยหมึก..บันทึกนี้
เลือดคนที่ทุกชาติเป็นทาสเธอ
20 พฤศจิกายน 2548 12:28 น.
ทัดหทัย
นาทีที่เธอเหงาเท่านั้นหรือ
ฉันจึงคือคนที่มีความหมาย
พอวันที่มีพร้อมคนล้อมกาย
ฉันก็คล้ายเศษขยะเธอละเลย
เป็นอย่างนี้มานานเกินการนับ
จนใจปรับปวดปร่าเป็นชาเฉย
แค่ขาดความอบอุ่นจนคุ้นเคย
แล้วลงเอยตรงที่ภักดีเธอ
ฉันยังอยู่ตรงนี้...ตรงที่เก่า
ยังคอยเฝ้าใส่ใจห่วงใยเสมอ
เยี่ยงทาสที่บุญน้อยคอยบำเรอ
แม้คอยเก้อกี่ครั้ง.....ก็ยังคอย