10 พฤษภาคม 2554 12:26 น.

ใคร...ก็ตามที่ไม่มีความสุขกับชีวิต..

ทรายกะทะเล

ฝึกความไม่มีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข   
 
    
 
         สภาวะข้าวยากหมากแพงมักเกิดขึ้นสลับหมุนเวียนกับสภาวะปรกติอยู่ตลอด ในบางช่วงข้าวของก็มีมาก หาซื้อง่าย จะขายก็คล่อง จึงเป็นแค่สภาพการณ์ในแต่ละเวลาเท่านั้น แต่เวลานี้เราต้องอยู่ในสภาวะที่อะไรก็แพงแถมบางอย่างยังหายากอีก แต่เชื่อว่าต้องมีสิ่งอื่นที่ใช้แทนกันได้โดยไม่จำเป็นต้องไปขวนขวายเอาของแพงมาใช้ เช่น น้ำมันหมูในยุคหนึ่งเคยมีราคาแพง เราก็หาน้ำมันพืชหรือน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว มาใช้แทน ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารดีกว่าด้วย

ในเมื่อวันนี้ราคาน้ำมันปาล์มแพงและหาซื้อยาก ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ก็น่าจะลองเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยน้ำมัน หันไปทำอย่างอื่นที่ไม่ต้องใช้น้ำมันหรือใช้น้อยๆก็ยังพอช่วยได้ ดีต่อสุขภาพของเราด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้จริงๆก็คงต้องลดปริมาณลงสักนิด

ส่วนสินค้าตัวอื่นที่แพงจนรายจ่ายของเราเพิ่มขึ้นก็ต้องรัดเข็มขัดให้กระชับขึ้น เพราะเหมือนฟางเส้นสุดท้ายในภาวะคับขัน หากใช้เกินขอบเขตเราก็แย่ แนวทางแก้ปัญหาประการแรกต้องช่วยเหลือตัวเองก่อน หากคิดแต่จะรอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยคงต้องรอนานหน่อย เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ว่าจะเป็นรัฐบาลฮิตาชิ คือเปิดปุ๊บติดปั๊บ

แม้ท่านรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงจะบอกว่าหลังจากนี้ชาวบ้านสามารถซื้อได้ไม่อั้น เพราะรัฐบาลนำน้ำมันปาล์มสำรองออกมาขายแล้ว ประเด็นนี้นักข่าวหลายสำนักไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะชาวบ้านเดือดร้อนมาตั้งนานรัฐบาลยังไม่คิดทำ แล้วทำไมถึงมาคิดทำเอาตอนนี้

ฉะนั้นเราเตรียมตั้งท่ารับปัญหาเหล่านี้กันไว้เถอะ เรื่องของแพงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เรื่องสินค้าขาดตลาดไม่มีขายก็มีอยู่เรื่อยๆ เราจะต้องทำตัวให้สามารถอยู่กับความไม่มีให้ได้ ไม่ใช่พอไม่มีนิดเดียวก็นั่งห่อเหี่ยว นั่งทุกข์กันแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้แสดงว่าเรื่องของแพง เรื่องของไม่มี ของหมด ของหายาก สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกำหนดชีวิตเราไม่ให้มีความสุขอย่างนั้นหรือ

อาตมากล่าวมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่าอะไรแพงก็ให้เลี่ยงไปเลือกใช้ของถูกเสียอย่างเดียว แต่กำลังจะชี้ให้พวกเรารู้จักอยู่กับสิ่งที่ไม่มีให้ได้ ลองคิดถึงคนที่ต้องทำมาหากินอยู่บนดอย อยู่ในป่าในเขา คนเหล่านั้นขาดแคลนสิ่งต่างๆมากกว่าพวกเราเป็นร้อยเท่าพันเท่า แต่ทำไมพวกเขาถึงอยู่กันได้

อาตมานึกถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก ตอนนั้นไม่เคยรู้จักนมกล่อง ไม่รู้จักน้ำขวด เจอน้ำขังบนรอยเท้าควายที่ย้ำทิ้งไว้เป็นแอ่งๆยังเอามือช้อนน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อประทังความหิว นั่นก็ทำให้อยู่ได้

ตอนนั้นไม่มีอะไรมาอำนวยความสะดวกให้ชีวิต โทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์ไม่มีแต่ก็อยู่ได้ ฉะนั้นเราต้องหัดอยู่กับความไม่มีให้ได้ เราต้องฝึกให้ชีวิตของเราอยู่ได้ สมมุติวันหนึ่งอาบน้ำแต่สบู่ไม่มี เราก็ลองฝึกไม่ใช้สบู่แล้วหาวิธีการอื่นดู ไม่ว่าจะใช้มือขัด น้ำถูก หรืออะไรก็แล้วแต่ ลองฝึกดูสัก 6 เดือนว่าเราจะอยู่ได้หรือไม่

หากเราเป็นคนเคยตัว ไม่รู้จักการฝึกตน สบู่หมดวันเดียวก็โวยวาย แสดงอาการทุรนทุราย ถ้าหากอาบน้ำแล้วไม่มีสบู่ใช้เราจะทำอย่างไร จะอยู่ได้หรือไม่

ฉะนั้นเราอย่าให้ความไม่มีมาทำลายตัวเรา

เราต้องหัดฝึกความไม่มีไว้เสียบ้าง ต้องฝึกให้อยู่ได้ บางอย่างไม่มีสักวันสองวันก็น่าจะอยู่ได้ บางอย่างไม่มีสักอาทิตย์หนึ่งก็ควรที่จะอยู่ได้ เราต้องฝึกตั้งท่ารับความไม่มีไว้บ้าง แล้วเราจะอยู่กับความไม่มีได้อย่างไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน

แต่ถ้าเราไม่ฝึก คิดแต่จะต้องอยู่อย่างเดิม หากวันใดชีวิตเกิดไม่มีสิ่งนั้นสิ่งนี้แล้วทำให้เราอยู่ไม่ได้ ต้องโมโหโทโส ต้องเครียด ต้องตีอกชกตัวเขกหัวร่ำไห้ อย่างนี้ชีวิตคงไม่ดีแน่ คนเราบางครั้งต้องฝึกซ้อมอยู่บ่อยๆ ขนาดจะเข้ารับปริญญายังต้องฝึกซ้อมกันก่อน พอถึงเวลารับจริงก็ทำได้เป็นขั้นเป็นตอน หรือการรับตำแหน่งอะไรก็คงไม่ต่างกัน เพราะจะต้องมีการฝึกซ้อม

หากเราจะซ้อมรับความจริงของโลกใบนี้ว่ามีทั้งขาขึ้นขาลง มีได้มีเสีย มีบวกมีลบ มีถูกมีแพง มีสมบูรณ์ก็ต้องมีขาดแคลน ฉะนั้นเราจึงควรตั้งท่าฝึกซ้อมรับกันไว้ให้ดี

บางครั้งเราอย่าไปคิดแย่ๆทุกเรื่อง เมื่อข้าวของแพงก็ต้องแพง ปล่อยมัน แต่เราต้องคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะอยู่ได้ ไม่ใช่คิดแต่จะโวยวาย คิดดูว่าเราจะบริโภคอย่างอื่นที่ไม่แพงได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์ทรมานใจ ยิ้มได้แม้ต้องเจอกับข้าวของที่แพงเหลือเกิน

เราจะไม่ต้องมานั่งอกสั่นขวัญแขวนกับการขึ้นๆลงๆของราคาสินค้า ควรปรับตัวตามมันไปแล้วเราก็จะชำนาญในการปรับตัว ครั้งต่อไปเชื่อว่าเราจะรู้และเข้าใจเพราะเห็นว่าอะไรเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่ความขาดแคลน ความไม่มี และจะต้องเจอแน่

วันนี้อยากให้ยืนสู้กับมันด้วยความท้าทายว่าเราจะอยู่ได้ ต่อให้แพงกว่านี้ก็จะอยู่ให้ไหว นั่นแหละถึงจะถือว่าเกิดมาเป็นมนุษย์ผู้ไม่เสียที และโชคดีที่มีหลักพระธรรมคำสอนทางศาสนามาช่วยเยียวยา

เจริญพร

ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 6 ฉบับ 300 วันที่ 26 กุมภาพันธ์  4 มีนาคม พ.ศ. 2554 หน้า 25 คอลัมน์ พระพยอมวันนี้ โดย พระพะยอม กัลยาโณ				
8 พฤษภาคม 2554 08:16 น.

5เมษายน ...แม่จากไป แต่กาย ใจยังคงอยู่....

ทรายกะทะเล

มืดแปดด้าน ทำอย่างไรไม่ฟื้นแล้ว
คงไม่แคล้วสิ่งที่เหลือเบื่อใจหาย
แต่ยังคงมีกำลังใจให้บุพการีต้องไม่วาย
ให้รักษาใจกายให้ยั่งยืน...........

คิดถึงแม่ขึ้นมา..น้ำตามันก็ไหล....				
4 พฤษภาคม 2554 00:20 น.

5เมษา54 วันที่เศร้าหนัก

ทรายกะทะเล

เสียงเงียบกริบในใจ...พูดไม่ออก
ใจไม่บอกว่าเป็นอน่างไรอะไรนี่
เกิดอะไรขึ้นกับแม่ฉันทุกนาที
ก่อนแม่สิ้นคงทร ระมาน กายนี้ จิตใจครวญ

แม้นอยู่อยู่น้ำตาก็ออกมาไหล
ไม่เข้าใจเข้าไปกอดโอ้แม่จ๋า กลับมาหวล
อย่าทิ้งพวกเราทั้งปวง ขาดใจกำสรวญ
น้ำตาเอ่อโผลกอดเรียกจวนเสียงสั่นน้ำตานอง

ถามแพทย์ว่า ขอป้ำหัวใจครั้งที่สาม
พ่อก็ตามใจฉันให้รักษากลับมาครอง
แพทย์บอกจะพยายามจะทำรักษาลอง
แต่ที่ป้ำใช้มือจ้องไม่มีเครื่องอะไรเลย

มีแต่เส้นขีด_________ไม่มีคลื่น^^^^^^///LL_____
ใจฉันตื่นเผยไปไม่อยากให้เปิดเผย
ไม่ใช่ไม่ใช่ผลออกมาไม่ดีเลย
แพทย์บอกช่วยสุดสุดเอ่ยแล้วว่าไม่ทันการ

พยายามกั้นน้ำตาไม่ให้ไหล
แต่หัวใจแทบสลายออกจากฉัน
ร่างแม่ซีดสัมผัสอยากให้ทัน
เข้าไปบอกแม่จ๋าฟื้นได้ไหมยังไม่ลา

สิ่งใดท้ายที่ทำได้ มองหน้าพ่อ
บอกว่าพ่อจ๋าเข้ากอด่างพ่อต้องแข็งขา
ขาดพ่อไปอีกคนหนูไม่อยากอยู่ต้องขอลา
จากไปกับพ่อด้วย ช่วยกันอยู่ให้แข็งแรง

แม่ไปแล้วถึงแม้นไม่ได้บอก
ใจช้ำชอก จดจำหน้าแม่นี้ เอ่ยคำไม่สดใส
เข้าแทบทรุดอ่อนไปหมดหมดกำลังใจ
ขออยู่ข้างเคียงพ่อไว้ ไม่ไปไหนตลอดกาล

วันเผาแม่....ก่อนเผาขอมองหน้า
ก่อนต้องจากอำลา เปิดโลง อยากเห็นผ่าน
เข้าไปหอมหน้าผากแม่แม่จ๋า.....รักจับใจ

..............ไว้เขียนต่อ..........ทำใจ ยังไม่ได้...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟทรายกะทะเล
Lovings  ทรายกะทะเล เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงทรายกะทะเล