14 กันยายน 2551 06:40 น.
ทรายกะทะเล
ง่วง......ก้ยังหลับตาไม่สนิท
เพราะทนคิดถึงเธอไม่ไหว
จิตใจไม่นิ่งมีแต่แกว่งไกว
จนทำงานไม่ไหว เป็นไข้อ่อนแรง
คนดี...แม้นว่าเอจะเป็นโจรสำหรับคนอื่น
แต่ฉันชื่นชมสมหวังที่ตั้งไว้
ยามใดเธอให้กำลังใจฉันมีใจ
ยามนั้นฉันพร้อมสู้สุดทุ่มเต็มตัว
หรือว่าฉันทำความดีไม่เคยขึ้น
เลยต้องมันกับการอ่อนล้าเมามัว
ฉันรู้สึกไม่อยากจะเอนทางกลัว
เพราะความชั่วที่คนอื่นว่าเพอทำ
แต่สำหรับฉันนั้น.......
เข้าใจและเป็นใตเอเสมอ
ที่ผ่านมาเป้นใจและดีต่อเธอ
ก้เพราะ.......เห็นเธอยังไม่มีใคร
อีกสามเดือนจะปีใหม่แล้ว
ก็เป็นสามปีที่เราคบหาใช่ไหม
คนเราคบกันยี่สิบปีก้ยังมีเปลี่ยนไป
แล้วใจเธอจะเปลี่ยนไปไหมเธอ
หากถามสำหรับฉัน
หากไม่เห็นกันให้นึกว่าฉันอ่อนล้า
มันเหนื่อยและร้องไห้จนหลับทั้งคราบน้ำตา
ไม่อยากให้เธอต้องมากลุ้มใจเพราะเรา
ฉันไม่ได้เป็นคนใจง่าย
เมื่อเห็นใครใครก็ชอบไปหมด
หนักแน่นจำทุกอย่างที่เราประชด
แต่ไม่มีกฎเกณที่จะโกรธกันเลย
คำด่าว่าของเธอนั้นไม่ใช่ประเด็น
เพราะฉันได้เห็นเธอเป็นคนนิ่งเฉย
หากเธออยากพูดออกมาฉันยิ่งชมเชย
ว่าเธอกล้าคนเดียวที่จะว่าฉันต่อหน้ากันและกัน
คนดี.....
ฉันไม่สบายรู้รึป่าวยังเก็ยไปฝัน
ทุกคืนที่ตื่นผวามาทุกๆวัน
เพราะฉันนั้นไม่มีวันที่จะผิดสัญญา............
13 กันยายน 2551 00:25 น.
ทรายกะทะเล
เคยมั้ย
.......
เหงาและซึมเศร้าอยู่คนเดียว
อยากมีคนที่จริงใจกับเรามากๆ มาดูแลเรา...
เคยมั้ย...เหมือนอยู่ในเจตที่อ้างว้าง
เคยมั้ย.....
อยากอยู่กับพ่อแม่ นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
และก้รับใช้ท่าน....
อยากพาท่านไปทานอาหาร
ไปเที่ยวยามแก่
อยากให้ท่านมีรอยยิ้มสดใส
เคยมั้ย....
รู้สึกว่าไม่อยากจะทำอะไรเลยอ่ะได้แต่นอนอยู่บนเตียงคนเดียว
คิด.......
จะทำอย่างไรดีหน้อ......
ให้ลงตัวเผื่อลูกให่เงินพ่อแม่ใช้ และตัวเองมีความสุข
เคยมั้ย......
อาศัยศาสนาแล้ว ทำดีแล้ว แต่คนก็มาองโทษเรา
เราไปทำอะไรให้เค้าน้า
แล้วเคยมั้ย.......
สุดท้อแท้ ไว้ใจใครแล้ว
สิ่งที่ได้รับกลับมา...คือเราเสียอะไรไปหลายแสน เงินที่หามา คนที่เราไว้วางใจก็ขโมยได้
เสียใจ....ที่ไว้ใจ.......
สร้างตั้งแต่เค้ามีเงินเดือนที่เก่า3000 มาอยู่กับเราสบายขึ้นมาก
แต่เค้ากลับ มาทำลายเรา เสียหาย...
เรามีอะไรเค้าก้เอามาเปรียบเทียบ
ตอนนี้การเป็นนายคน
ต้องขอร้องให้พนักงานมาทำด้วยเหรอ
มีแต่กลัวเค้าตกงาน
จึงจ้างต่อ
ถามว่าเราตัดเนื้อเสียไปกี่งานแล้ว.......
ไม่อยากจะให้เค้าออกจากงานเห็นว่าเคยเป็นเด็กที่เราสอนมาก่อน
ตอนนี้สั่งให้ทำอะไรก็ไม่ทำ
เหนื่อย....ใจ
อยากไปพึ่งธรรมะ นั่งที่เงียบๆคนเดียว แล้วมีสติคิดว่าเรากำลังจะกดตัวเราเองให้ตกต่ำรึป่าว
ชาคิที่อล้วเคยทำกรรม มามั้งเลยต้องมาใช้กรรมชาตินี้
ทำความดีไม่มีใครรู้
คนที่อยู่ใกล้ตัว.....กันเค้าย่อมเชื่อ
แต่หากว่า.....
วันนึง.........
เราจะมีโอกาสได้อธิบาย..เค้าก้ไม่มีทางเชื่อ
เค้าเชื่อแต่คนเค้าเอง.........
เคยมั้ย........
เรากำลังจะสนุกกับงานแต่แล้วด้วยความที่ทุ่มแรงใจแรงกายสุดตัวไหนจะเรื่องงานบ้าน ไหนจะลูก ไหนจะงาน
ที่สุด....
ก็ต้องขึ้นเขียงโดนวางยาให้เค้าผ่าตัด
เคยมั้งคิดว่าคุ้มรึป่าวกับการที่เราต้องทรมานกับการนั่งปวดท้องทุกวัน
แล้วเคยมั้ย....
เมท่อรู้ตัวเองว่า..ไม่รักดีเอง.....และไม่เชื่อฟังคำสอนของพ่อแม่เอง
สุดท้าย......
ก้ไม่เหลือใคร
นอกจาก....
นั่งจับเข่ามองผู้คนเดินไปมาอย่างมีความสุข
และเป็นไปได้มั้ยที่เราช่วยคนอื่นติดมากกว่าเรื่องของเรา
เคยมั้ย...หัวใจเต้นแรงมาก
จับตรงด้านหัวใจมันเต้นแรงจนแทบจะหายใจไม่ออก......
เมื่อรู้ว่า......
คนที่เราดีกับเค้า
เห็นใจเค้า....และให้มากกว่าที่เคาคิดเมื่อเค้าอยากที่จะมีแต่ได้
เด็กๆยังคิดเลยว่า.....
คนเห็นแก่ตัวในโลกนี้...
หากฟ้ามีตา คงจะเห็นเราบ้างว่า เราทำอะไร เพื่อคนอื่นได้ แต่คนอื่นทำเพื่เราไมได้สักสิด
เหนื่อย...........................
มันช่างมากมายเหลือเกิน........
11 กันยายน 2551 05:28 น.
ทรายกะทะเล
หลับตาแต่ใขตื่น หน้าชื่นแต่ใจตรม
บื้มชื่นแต่อกตรม ขื่ขมมแต่ใจชา
ตกต่ำไปทั้งใจ มอดไหม้ไปทั้งตา
แข็งแกร่งแต่แรงล้า เชิดหน้าว่าอดทน
หลับตาและหลับใจ หลับได้เพี่ยงบางหน
ไฟฟอนยังร้อนรน ใจคนยังน้อไฟ
8 กันยายน 2551 07:16 น.
ทรายกะทะเล
คนไทยอย่า ทำร้ายกันเองเลย
บางคนทำเฉยเมยไม่บอกกล่าว
คนที่ทำมาหากิน ร้องไห้กันระนาว
คนไทยเองสาวไส้ให้กากิน
งานเลี้ยงยังไงก็มีวันเลิกลา
อย่าไปพาบ้านเมืองฉุดลงเหวหิน
อย่าให้ได้ต่างชาติได้กล่าวยิน
ไทยเรายังไม่สิ้นไร้อดตาย
ในน้ำมีปลาในนามีข้าว อย่าทำผิด
เท่าที่คิดทำอะไร ส่องดูตัวในกระจก
ทำอะไรมือสามสี่ก็ทำบ้านเมืองตก
ทำทำไม อย่าไปเน้นอย่างนั้นเลย
เลือกคนเดียวมาช่วยกล่าววาจา
ไม่นินทากันเองส่องเสียดเฉย
บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้ออย่าทำเลย
ไปนั่งสมาธิกันเถิด รู้ไหมใครเศร้าใจ
ท่านคนนึงเสียหายไปเท่าไหร่
คำว่าไม่เป็นไร นิ่งได้ที่ไหน
วันหนึ่งประมุขท่านต้องกล่าวให้หยุดไป
มีสองคนเท่านั้นก้พออย่างสร้างสถานการณ์............
7 กันยายน 2551 11:59 น.
ทรายกะทะเล
เพียรพินิจไม้แคระในกระถาง
ถูกบรรจงคัดวางอย่างเมหาะเจาะ
ทั้งมะสัง ข่อย ตะโก นามเคยเพราะ
เรืยกชื่อใหม่เสีย เสนาะ ว่า บอน ไซ
ไม่เรียกร้องมากมายให้วายวุ่น
แค่แดดอุ่น น้ำพอดี ก้อยู่ได้
แม้เนิ่นนานน้ำไม่มีไม่เป็นไร
เพราะบอนไซนั้นเล่ารู้ปรับแรง
ยามน้ำน้อยค่อยดูดกลืนจากปลายใบ
หยิบมาใช้พอให้ได้สังเคราะป์แสง
เมื่อใช้นอ้ยก็มีเหลือเผื่อเปลี่ยนแปลง
เจ้าจึงแกร่งอยู่คู่ฟ้า ทุกคราไป
ยามถูกดัดไปมาทั้งขวาซ้าย
ทึ่งเหลือใจเจ้าโอนอ่อนพร้อมเอนไหว
รู้ถ่อมตน ปรับตัว และหัวใจ
คือบอนไซ ต้นไม่แห่งปัญญา
อันชนใดหยิ่งทะนงว่าคนใหญ่
ควรเพืงพิศบอนไซดูเถิดหนา
พึ่งทำตัวเล้กเข้าไว้ ลด อัตตา
พลันปัญญา ....เรื่องของกู...จักน้อยลง
ชอบกลอนนี้มากค่ะ ชื่นชมบอนไววัดโพธิ์ค่ะ