8 มิถุนายน 2551 09:13 น.
ทรายกะทะเล
ด้วยเหตุว่าขอปลง องค์สังขาร
อยู่ไม่นาน ทานอะไร ก็ไม่หอม
อยู่กับผินผ้าเช็ดหน้า ขอมาเมื่อใจยอม
เก็บกลิ่นออม ไอเพื่อนึกถึงครา
ขอหลับตา พักสักหน่อย ค่อยไปตื่น
ไม่ระรื่นขอเดียวดาย ไม่กังขา
แม้นจะต้องอาศัย กาลเวลา
ชีวิตที่เราน่า จะเป็น เช่นตื่นกัน
ไม่วันจะผิดสัจจะที่ให้ไว้
ขอเพียงให้ คิดถึงกัน ได้เสกสรรค์
วันเวลาหากมืดมนต์ให้ดลกัน
เธอเป็นแสงตะวัน ส่องฟ้าให้ทางเดิน
ชีวิตฉันธรรมดา ไม่ใช่สุข อย่างที่เธอคิด
ฟ้าลิขิตให้เราได้มาเจอ เหมือนทรัพย์สิน
ที่มีอยู่ พูดตรงไป ตรงมา พาได้ยิน
ให้ได้ยิน ว่าเธอ ก็คอยห่วงใย
หากฉันหลับไปเลยยังไม่ตื่น
ช่วยปลุกคืนฟื้นชีวิตฉันได้ไหม
จะอยู่เคียงข้างเธอตลอดไป
ถึงแม้นไกล ใจก็ใกล้ ไม่ลืมเลือน
เจ็บช้ำนักใจเราอยากร้องไห้
ไม่มีใครมาได้เห็นใจแม้นเหมือน
อยากให้เธอมาแกะดู ใจฉันอย่าแชเชือน
มีแต่คิดเรื่องเธอกลาดเกลื่อนอยู่ในใจ
อีกไม่นาน ก็ไมมีอุปสรรค
ขอทำบุญ ทายทัก ปักใจฤทัยใส
แจ่มเจิดจ้าฟ้าใส แม้นฝนก็ผ่านไป
จิตหนักแน่นในใจ แม้นตาหลับไปนาน
ขอสวรรค์จงเมตตาข้าฯน้อยพลอยทุกข์นัก
ให้ดลใจ ให้เธอเห็นประจักในใจให้ประสาน
ใจสานใจคงอยู่คู่ไปนาน
กอดผ้าเช็ดหน้า ผืนนั้น ใจเดียวกัน
เหนื่อยใจนัก พักสักนิด จิตแจ่มใส
แล้วจะไปให้ดู ว่า ที่ทำตามเธอนั้น
ให้ทำบุญตักบาตร ไหว้พระกัน
ส่งสัญญาณให้กัน ใจต่อใจ............เมื่อเจอกัน
7 มิถุนายน 2551 22:36 น.
ทรายกะทะเล
ฉันเปรียบเหมือนโดนรุมกักขังไว้
ใจอยากไปหาเธอวันโหยหา
ไม่เคยเสแสร้งเจ็บปวด กันเรื่อยมา
สิ่งที่ว่า บอกกับตัวเอง ทำดีสุดแล้วเอย
ทำไมหนอ ไม่พอ อย่างที่หวัง
ทุกคืนวันอยากให้เป็นที่เฉลย
ปากบอกว่า อยากเจอ มีแต่เธอ
ไม่อยากเก้อ โทรไป แล้วอยู่กับใคร
รู้มั้ยว่าฉันอึดอัด มากนักจักตายแล้ว
เธอก็ยังเข้าใจผิดชิดสงสัย
ว่าฉันไม่อยากเจอเธอ มาคิดได้อย่างไร
ทั้งที่ใจคิดถึงเธอ ทุกเช้าแก้วตาใจ
ไม่เคยหวั่นไหว ไปหาใครคนอื่น
เคยสัญญาว่าจะชื่นชมเธอเฉลยไข
แม้นเธอสุขสนุกสนานกับใครใคร
เป็นห่วงฉันบ้างไหม ฉันผิดตรงไหนกัน฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿฿
6 มิถุนายน 2551 21:49 น.
ทรายกะทะเล
ร้องไห้เพราะเหนื่อยล้า
ในตาน้ำตาไหล
ทุกอย่างที่ในใจ
ชอกช้ำหทัยตลอดมา
บอกมาเพราะใครแกล้ง
สำแดงตนจนอย่างโหยหา
อย่างที่มีคราบน้ำตามา
ส่งมาไม่มีใครเช็ดให้บ้างเลย
4 มิถุนายน 2551 22:00 น.
ทรายกะทะเล
นึกถึงวันเก่าเก่า มาเล่าสู่
เราเคยสู้กับชีวิต อย่างกล้าหาญ
แต่ใยมีคนพาลมาระราน
หญิงบางคน ชอบพาลสู่ตัวเรา
ทำทุกอย่างให้เรา ตกหลุมพราง
ดั่งหุ้นส่วนบอกอ้างขึ้นมาว่าเราเขลา
ตกหลุมพรางเขาได้ โง่นะเรา
ช่างซึมเซา เราไม่อยากเอ่ยถึงมัน
ก่อกำเนิดเกิดมาก็ผิดกันแล้ว
สกุลเราไม่แคล้วมีในชื่อซอยนั่น
ออกจะดังอยู่แถวไหน หากบอกก็รู้ทัน
ไม่อยากหวั่น ไหวอีก หลีกทางเดิน
พอมาหลีกให้ไป ก็เข้าใส่
มาระรานไรอะไรกันไม่ยักเขิน
หน้าด้านด้านมาทำให้เราต้องอยากเมิน
หญิงไม่เขิน อัปรีย์ มีทำไม
ทำให้ฉันอ่อนไหว ใจต้องช้ำ
ดูใจเธอดำทั้งที่ตัว มาผลักใส
เป็นเพราะเธอคนเดียวที่ทำให้ช้ำใจ
ฉันคนเดียว ที่เหนื่อยรู้ไหมเธอ
หญิงอย่างเธอต้องเอาพวกคนต่างชาติ
หากมีญาติรู้ไว้ว่าคนไทยก็ไม่เผลอ
คนไทยไทย ใครจะเอาคนอย่างเธอ
มาเสนอหน้า ยกให้เธอ ชนะไป
บอกกันแล้วนะว่าอย่ามายุ่งอีก
หากไม่หลีกทางที่ฉันต้องเดินหน้าไปที่ไหน
อย่างเธอนั้น มาทำให้ ฉันปั่นป่วนไป
รู้แล้วใยไม่รีบไป.......อย่ามาเลย...มาราวี
ถึงทำยบุญทั้งชาติก็ไม่เห็น
เธอไม่เคยอยากเป็นรองใครให้ฉันหนี
อุตส่าห์ หลีกทางให้แล้วยังตาม มาราวี
หากไม่มีอะไรทำ.......ทำให้ฉันอ่อนไหว.......จำไว้เลย.......
3 มิถุนายน 2551 23:46 น.
ทรายกะทะเล
ยามเราเครียด จากสิ่งไหน ให้จำไว้
เมื่อยามใด เล่นกีฬา พาให้หาย
ให้พลังดี ทั้งใจและร่างกาย
ให้ความหมาย ส่วนคิด คนเป็นคน
การแข่งขัน คนที่เล่นทำดีที่สุดแล้ว
ก็ไม่แคล้วนึกเสียใจยามแพ้ผล
บ้างก็ชนะ รักที่จะ พัฒนาตน
มีให้ผล เป็นยารักษา ใจและร่างกาย
เหงื่อที่ออก บอกออกไปว่าระบาย
ให้ร่างกายเลือดหมุนเวียนเลือดฝาดหมาย
หากจะเป็นนักกีฬา เป็นต้นไป
ขอให้มีวินัย ในตน พร้อมก็พอ.......