11 กันยายน 2547 16:23 น.
ถิ่นไท
เมืองนอก ต่างจากเมืองใน
เมืองนอก เมืองใจ ใครๆ ก็มา
เมืองนอก นอกจากเมืองใน
เมืองนอกไป เมืองในเข้ามา
เมืองไหน ๆ ก็เป็นเพียงเมือง
ความรุ่งเรือง และเสื่อมโทรมมีคู่กัน
เพียงแค่ฉัน อยู่นอกแต่เมืองใน
หลายคนใฝ่ เมืองนอกออกจากเมืองใจ...........
ทารกน้อย อยู่เมืองในอาศัยมารดา
คราออกมา เจอเมืองนอก ก็บอกว่า โสภี
บางฤดี ก็เกือบโสภา บางเวลาก็ไม่สถาพร............
11 กันยายน 2547 16:04 น.
ถิ่นไท
จากก้อนดิน ก้อนหิน ริ่มสายน้ำ
มาตามทาง ที่animal ตอนสาย ๆ
อาศัยริมพุ่มไม้ ปิดบำกาย
หิวก็กระหาย ก็ได้น้ำข้างริมทาง
แต่กาลเนิ่นนาน ผ่านมา
สายธารา เริ่มเหือดแห้ง น้ำจางหาย
หญ้าริมธาร เคยเขียวสดที่งดงาม
ก็เสื่อมทรามเพราะ น้ำขาด หยาดหยดดิน
หลายครั้งหลายครา ฉันถวิล
มีตกดิน เหิรฟ้า น่าฉงน
หลายครั้งหลายคราต้องอดทน
ฝึกกมล เตรียมใจ ไปสู่ฝัน...........
11 กันยายน 2547 15:51 น.
ถิ่นไท
ตอนเมื่อฉัน เป็นเด็ก ตัวยังเล็ก ๆ
ฉันเคยเก็บเหล็ก เศษพาสติก ไปขาย
นั้นเป็นหนทางสุดท้าย ที่ฉันจะมีกิน
ฉันไม่เคยถวิล ว่าจะได้เรียนหนังสือ
เพียงมีอาหารมื้อต่อมื้อกิน ก็สุขินพอ
มาตอนนี้ ฉันจากบ้านมา
ไกลสุดลูดหูลูกตา ถ้าจะมอง
และฉันไม่เคยลืม อดีตที่ผ่านมา
ฉันแอบเห็นน้ำตา เด็ก ๆ ในแดนไกล
เดี่ยวนี้ก็สุขใจ เพราะฉันได้แบ่งปันความสุขที่ฉันมี
ให้เด็ก ๆ พ้นราคี มีโอกาส เรียนหนังสือ
ทั้งยึดถือในทางดี.............
ฉันเห็นว่า การแบ่งปัน เป็นสุขขั้นพิเศษ
แสนดีเลิศ ไม่เป็นภัย หากใจใส
ไม่เห็นแก่ได้เกินไป ในครรไล
มีกินมีใช้ รู้จักแบ่งปัน..............
11 กันยายน 2547 15:32 น.
ถิ่นไท
เมื่อฉัน อยู่.............ดูยังเป็นฉัน
เมื่อฉันไป........ใจก็ยังไกลฉัน
เมื่อฉัน มา........น้ำตา ใครหล่น
เมื่อฉันไม่อดทน น้ำตาคือ ฉันเอง
เมื่อฉันไม่ร้องเพลงปลอบใจ ใครจะอยู่ไกล........ไกฉัน