27 เมษายน 2547 11:52 น.

เพื่อน ก็เหมือนที่นอน

ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม

เราเริ่มต้นทุกเช้าของทุกวันด้วยการลุกจากที่นอน 
......สิ้นสุดชีวิตในแต่ละวันลงบนที่นอน 
ที่จริงมันก็ดูธรรมดา
หากว่าเราจะไม่ใส่ใจอะไร...มันก็คงมีอยู่แค่นั้น 
แต่แท้ที่จริงแล้ว
รายละเอียดส่วนใหญ่มันคือช่วงเวลาที่เรานอนอยู่บนที่นอนของเราต่างหาก
 สำหรับฉัน
เวลาที่เหนื่อยหนักหนาสาหัสมาจากอะไรก็แล้วแต่
ฉันนึกถึงที่นอนเป็นอย่างแรก เพราะที่นอนจะให้ความสบาย
ปลอบโยนเราด้วยสัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยน 
คอยรับแรงกดจากน้ำหนักตัวของเราที่กดลงไป
ไม่ว่าเราจะแค่ล้มตัวลงบนที่นอนเบาๆกับที่นอนแล้วร้องไห้
ในวันที่ต้องการที่ซับน้ำตาสักที่หนึ่ง
หรือแม้แต่วันที่เราโถมตัวลงแรงๆ บนที่นอน
เพียงเพราะว่าเราไม่รู้จะไประบายความโกรธ เสียใจ
หรือคับข้องใจนั้นลงที่ไหนดี ..........
ทุกครั้งที่นอนก็จะมีให้เราเพียงคำตอบเดียว คือ
สัมผัสปลอบโยนที่นุ่มนวล
และให้ความรู้สึกที่สบายใจแก่เรา 

บางทีเราอาจต้องการแค่
ที่พัก หรืออาจแค่อยากได้
อ้อมกอดของใครสักคนไว้ซบหน้าร้องไห้
ฟังดูเหมือนจะแค่นั้น แต่การหาให้ได้ สิ่งนั้น
มันไม่ง่าย 
  อาจมีหลายๆครั้งในชีวิต และหลายๆคนที่รู้สึกสบายใจ
หลังจากผ่านการซบหน้าร้องไห้มาอย่างหนักบนที่นอน
และบางทีที่นอนมันก็ไม่ได้พูดจา
หรือมีคำปลอบใจอะไรให้เรา
แต่หลังจากที่เราได้ทำแบบนั้นแล้ว 
คืนนั้นเราก็สามารถหลับได้อย่างสบายใจขึ้น  ม  า  ก 
ม  า -  ก 
ถึงแม้ในความเป็นจริงปัญหามันจะไม่ได้หมดไปอย่างแท้จริงก็ตาม

	มันก็เหมือนกันกับเพื่อน
ในวันที่เราเหนื่อยหนักหนาสาหัสมาจากที่ไหนก็แล้วแต่
เพื่อนอาจเป็นอ้อมอกเดียว ที่อยู่ให้เราได้ซบหน้าร้องไห้
..
	เพื่อน อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราเหลืออยู่
ในวันที่ไม่เหลือสิ่งใด
เป็นคนที่เรานึกอยากไปหาในวันที่เราไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครแล้ว
และเป็นคนเดียวที่ใจเย็นพอจะปลอบเราด้วยสัมผัสอ่อนโยน
ไม่ว่าวันนั้นเราจะอยู่ในสภาพ พายุอารมณ์ บ้าคลั่ง
หรือตีอกชกหัว พูดจารุนแรงไปกับมันแค่ไหนก็ตาม
...เพื่อนก็พร้อมจะให้อภัยและไม่โกรธ 
และจะคอยเตือนสติ ลูบหัวลูบหลัง จับบ่า
หรือไม่ก็กอดคอร้องไห้ไปพร้อมกับเรา  หรือแม้แต่บางที
แค่การนั่งอยู่เฉยๆ
อยู่เป็นเพื่อนในวันที่เราต้องการแค่ใครสักคน
โดยที่ไม่ต้องมีคำพูดจาหรือปลอบโยน ที่วิเศษเลิศลอย
ที่จะเอื้อนเอ่ยให้เราสบายใจขึ้นได้เลยสักคำ แต่แค่
การอยู่เป็นเพื่อน เพียงอย่างเดียวนั้น
ก็ทำให้วันต่อไปที่เราต้องเผชิญปัญหา มันดูน่ากลัวน้อยลง
...และทำให้เราหลับในวันนั้นได้อย่างสบายใจ ม- า -  ก
ขึ้นเป็นกอง 
	หลายๆคนลุกขึ้นจากที่นอนในตอนเช้า โดยไม่เคยสนใจปัดฝุ่น
ดึงผ้าปูที่นอนให้เรียบตึง เก็บพับผ้าห่มหรือจัดหมอน
หมอนข้างให้เข้าที่
เพราะความรีบร้อนที่จะออกจากบ้านไปทำงานหรือเรียนหนังสือ


บางคนแค่พับผ้าห่มให้เข้าที่..จัดหมอนนิดหน่อยก็ออกจากบ้าน

	บางคนก็รีบร้อนจนกระทั่งลืมเก็บที่นอนในบางวัน  
	บางคนหนักกว่านั้น..ถึงขั้นที่ไม่เคยเก็บที่นอน
ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า เดี๋ยวก็ต้องกลับมานอนอีกอยู่ดี

	แต่ก็ยังมีอีกหลายๆคนที่ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นที่นอน 
ดึงผ้าปูจนเรียบตึง จัดหมอน จัดผ้าห่มให้เข้าที่เข้าทาง 
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ระหว่าง ใส่ใจ กับ ไม่ใส่ใจ 
	การดูแลเพื่อนก็เหมือนกับการดูแลที่นอน
บางที่เจอกันทุกวันอยู่ด้วยกันบ่อยๆ
ก็อาจหลงลืมที่จะใส่ใจ
เรามีเพื่อนอยู่กับเราจนดูเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา
แต่หากครั้งหนึ่งที่เราต้องขาดไป
เราอาจเพิ่งจะเรียนรู้ได้ว่า
แท้ที่จริงแล้วของที่อยู่กับเราเหมือนเป็นของตายนั้น 
บางอย่างมันก็สำคัญกับเรามากๆ
ถึงขั้นขาดไปไม่ได้เหมือนกัน ...

การที่เพื่อนมันอยู่กับเราตลอดโดยที่เราไม่เคยต้องเรียกร้อง
บางทีมันก็ทำให้เราหลงลืมที่จะใส่ใจมันให้มากให้สมกับที่มันคอยอยู่เพื่อดูแลเรา

	ทะเลาะกับมันไปบ้าง หรือมันพูดจารุนแรงกับเราไปบ้าง
แล้วจะเป็นไรไปถ้าวันนี้เราจะเดินไปขอโทษมันก่อน 
	วันนี้เราอาจยุ่งมากๆ ไม่ค่อยมีเวลา แต่จะเป็นไรไป
ถ้าเราจะตัดเวลาจากการนอนสัก 5 นาที
แล้วโทรไปถามว่ามันยังสบายดีอยู่หรือเปล่าในวันนี้ 
	แล้วจะดีแค่ไหน ถ้าวันนี้เราเดินเข้าไปบอกมันว่า
เราขอบคุณที่มันยังอยู่เป็นเพื่อนเรา ว่า
เราดีใจแค่ไหนที่มีเพื่อนอย่างมัน มันอาจจะดูแปลกๆ
เพื่อนมันอาจหาว่าเราเพี้ยน
แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นการดูแลความสัมพันธ์ที่ดีอีกรูปแบบหนึ่ง

	ดูแลเพื่อนให้ดีกว่านี้หน่อย
..ให้สมกับที่เขายังเป็นคนหนึ่งในคนกลุ่มสุดท้าย
ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเรา เหมือนๆพ่อ แม่  ญาติ
พี่น้อง  
....จะเป็นไรไปถ้าเราจะตื่นเช้าขึ้นอีกสัก 10 นาที
มาปัดฝุ่นที่นอน
จัดหมอนจัดมุ้งเพื่อการกลับมานอนอีกครั้งอย่างมีหระสิทธิภาพมากที่สุด

	หมั่นซักผ้าปูที่นอนกันซะบ้าง  
เพราะมันอมน้าตาเรามาบ่อย บางทีบ่อยเกินไป มากเกินไป
มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน นะ
                    If  u touch me soft and gentle.
                                                    If u  look at me and smile at me.
                                            If u listen to me talk sometimes before u talk.
                                                          I will  grow, really grow.                         
                                                                      (Bradley)
			
		แค่คุณสัมผัสฉันเบาๆอย่างนุ่มนวล 
		แค่คุณมองฉันและยิ้มให้ฉัน
		แค่คุณฟังฉันสักหน่อยก่อนที่คุณจะพูด
		ฉัน ก็จะเติบโต และเติบโตอย่างแท้จริง.....

******อุทิศแด่ ทุกๆ ความเป็นเพื่อนบนโลกใบนี้ค่ะ********				
27 เมษายน 2547 11:50 น.

อันนี้ไม่เอาค่ะ เอาอันข้างบนนะ ...

ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม

เราเริ่มต้นทุกเช้าของทุกวันด้วยการลุกจากที่นอน 
......สิ้นสุดชีวิตในแต่ละวันลงบนที่นอน 
ที่จริงมันก็ดูธรรมดา
หากว่าเราจะไม่ใส่ใจอะไร...มันก็คงมีอยู่แค่นั้น 
แต่แท้ที่จริงแล้ว
รายละเอียดส่วนใหญ่มันคือช่วงเวลาที่เรานอนอยู่บนที่นอนของเราต่างหาก
 สำหรับฉัน
เวลาที่เหนื่อยหนักหนาสาหัสมาจากอะไรก็แล้วแต่
ฉันนึกถึงที่นอนเป็นอย่างแรก เพราะที่นอนจะให้ความสบาย
ปลอบโยนเราด้วยสัมผัสนุ่มนวลอ่อนโยน 
คอยรับแรงกดจากน้ำหนักตัวของเราที่กดลงไป
ไม่ว่าเราจะแค่ล้มตัวลงบนที่นอนเบาๆกับที่นอนแล้วร้องไห้
ในวันที่ต้องการที่ซับน้ำตาสักที่หนึ่ง
หรือแม้แต่วันที่เราโถมตัวลงแรงๆ บนที่นอน
เพียงเพราะว่าเราไม่รู้จะไประบายความโกรธ เสียใจ
หรือคับข้องใจนั้นลงที่ไหนดี ..........
ทุกครั้งที่นอนก็จะมีให้เราเพียงคำตอบเดียว คือ
สัมผัสปลอบโยนที่นุ่มนวล
และให้ความรู้สึกที่สบายใจแก่เรา 

บางทีเราอาจต้องการแค่
ที่พัก หรืออาจแค่อยากได้
อ้อมกอดของใครสักคนไว้ซบหน้าร้องไห้
ฟังดูเหมือนจะแค่นั้น แต่การหาให้ได้ สิ่งนั้น
มันไม่ง่าย 
  อาจมีหลายๆครั้งในชีวิต และหลายๆคนที่รู้สึกสบายใจ
หลังจากผ่านการซบหน้าร้องไห้มาอย่างหนักบนที่นอน
และบางทีที่นอนมันก็ไม่ได้พูดจา
หรือมีคำปลอบใจอะไรให้เรา
แต่หลังจากที่เราได้ทำแบบนั้นแล้ว 
คืนนั้นเราก็สามารถหลับได้อย่างสบายใจขึ้น  ม  า  ก 
ม  า -  ก 
ถึงแม้ในความเป็นจริงปัญหามันจะไม่ได้หมดไปอย่างแท้จริงก็ตาม

	มันก็เหมือนกันกับเพื่อน
ในวันที่เราเหนื่อยหนักหนาสาหัสมาจากที่ไหนก็แล้วแต่
เพื่อนอาจเป็นอ้อมอกเดียว ที่อยู่ให้เราได้ซบหน้าร้องไห้
..
	เพื่อน อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เราเหลืออยู่
ในวันที่ไม่เหลือสิ่งใด
เป็นคนที่เรานึกอยากไปหาในวันที่เราไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครแล้ว
และเป็นคนเดียวที่ใจเย็นพอจะปลอบเราด้วยสัมผัสอ่อนโยน
ไม่ว่าวันนั้นเราจะอยู่ในสภาพ พายุอารมณ์ บ้าคลั่ง
หรือตีอกชกหัว พูดจารุนแรงไปกับมันแค่ไหนก็ตาม
...เพื่อนก็พร้อมจะให้อภัยและไม่โกรธ 
และจะคอยเตือนสติ ลูบหัวลูบหลัง จับบ่า
หรือไม่ก็กอดคอร้องไห้ไปพร้อมกับเรา  หรือแม้แต่บางที
แค่การนั่งอยู่เฉยๆ
อยู่เป็นเพื่อนในวันที่เราต้องการแค่ใครสักคน
โดยที่ไม่ต้องมีคำพูดจาหรือปลอบโยน ที่วิเศษเลิศลอย
ที่จะเอื้อนเอ่ยให้เราสบายใจขึ้นได้เลยสักคำ แต่แค่
การอยู่เป็นเพื่อน เพียงอย่างเดียวนั้น
ก็ทำให้วันต่อไปที่เราต้องเผชิญปัญหา มันดูน่ากลัวน้อยลง
...และทำให้เราหลับในวันนั้นได้อย่างสบายใจ ม- า -  ก
ขึ้นเป็นกอง 
	หลายๆคนลุกขึ้นจากที่นอนในตอนเช้า โดยไม่เคยสนใจปัดฝุ่น
ดึงผ้าปูที่นอนให้เรียบตึง เก็บพับผ้าห่มหรือจัดหมอน
หมอนข้างให้เข้าที่
เพราะความรีบร้อนที่จะออกจากบ้านไปทำงานหรือเรียนหนังสือ


บางคนแค่พับผ้าห่มให้เข้าที่..จัดหมอนนิดหน่อยก็ออกจากบ้าน

	บางคนก็รีบร้อนจนกระทั่งลืมเก็บที่นอนในบางวัน  
	บางคนหนักกว่านั้น..ถึงขั้นที่ไม่เคยเก็บที่นอน
ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า เดี๋ยวก็ต้องกลับมานอนอีกอยู่ดี

	แต่ก็ยังมีอีกหลายๆคนที่ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นที่นอน 
ดึงผ้าปูจนเรียบตึง จัดหมอน จัดผ้าห่มให้เข้าที่เข้าทาง 
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันย่อมให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน
ระหว่าง ใส่ใจ กับ ไม่ใส่ใจ 
	การดูแลเพื่อนก็เหมือนกับการดูแลที่นอน
บางที่เจอกันทุกวันอยู่ด้วยกันบ่อยๆ
ก็อาจหลงลืมที่จะใส่ใจ
เรามีเพื่อนอยู่กับเราจนดูเหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดา
แต่หากครั้งหนึ่งที่เราต้องขาดไป
เราอาจเพิ่งจะเรียนรู้ได้ว่า
แท้ที่จริงแล้วของที่อยู่กับเราเหมือนเป็นของตายนั้น 
บางอย่างมันก็สำคัญกับเรามากๆ
ถึงขั้นขาดไปไม่ได้เหมือนกัน ...

การที่เพื่อนมันอยู่กับเราตลอดโดยที่เราไม่เคยต้องเรียกร้อง
บางทีมันก็ทำให้เราหลงลืมที่จะใส่ใจมันให้มากให้สมกับที่มันคอยอยู่เพื่อดูแลเรา

	ทะเลาะกับมันไปบ้าง หรือมันพูดจารุนแรงกับเราไปบ้าง
แล้วจะเป็นไรไปถ้าวันนี้เราจะเดินไปขอโทษมันก่อน 
	วันนี้เราอาจยุ่งมากๆ ไม่ค่อยมีเวลา แต่จะเป็นไรไป
ถ้าเราจะตัดเวลาจากการนอนสัก 5 นาที
แล้วโทรไปถามว่ามันยังสบายดีอยู่หรือเปล่าในวันนี้ 
	แล้วจะดีแค่ไหน ถ้าวันนี้เราเดินเข้าไปบอกมันว่า
เราขอบคุณที่มันยังอยู่เป็นเพื่อนเรา ว่า
เราดีใจแค่ไหนที่มีเพื่อนอย่างมัน มันอาจจะดูแปลกๆ
เพื่อนมันอาจหาว่าเราเพี้ยน
แต่เชื่อเถอะว่ามันเป็นการดูแลความสัมพันธ์ที่ดีอีกรูปแบบหนึ่ง

	ดูแลเพื่อนให้ดีกว่านี้หน่อย
..ให้สมกับที่เขายังเป็นคนหนึ่งในคนกลุ่มสุดท้าย
ที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเรา เหมือนๆพ่อ แม่  ญาติ
พี่น้อง  
....จะเป็นไรไปถ้าเราจะตื่นเช้าขึ้นอีกสัก 10 นาที
มาปัดฝุ่นที่นอน
จัดหมอนจัดมุ้งเพื่อการกลับมานอนอีกครั้งอย่างมีหระสิทธิภาพมากที่สุด

	หมั่นซักผ้าปูที่นอนกันซะบ้าง  
เพราะมันอมน้าตาเรามาบ่อย บางทีบ่อยเกินไป มากเกินไป
มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน นะ
                    If  u touch me soft and gentle.
                                                    If u  look at me and smile at me.
                                            If u listen to me talk sometimes before u talk.
                                                          I will  grow, really grow.                         
                                                                      (Bradley)
			
		แค่คุณสัมผัสฉันเบาๆอย่างนุ่มนวล 
		แค่คุณมองฉันและยิ้มให้ฉัน
		แค่คุณฟังฉันสักหน่อยก่อนที่คุณจะพูด
		ฉัน ก็จะเติบโต และเติบโตอย่างแท้จริง.....

******อุทิศแด่ ทุกๆ ความเป็นเพื่อนบนโลกใบนี้ค่ะ********				
11 เมษายน 2547 02:21 น.

...โต๊ะ กับเก้าอี้.....

ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม

โต๊ะกับเก้าอี้ 
โต๊ะกับเก้าอี้ ก็คือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งในบ้าน
ที่แทบจะทุกบ้านต้องมี .....
แต่ละบ้านก็จะมีโต๊ะและเก้าอี้แต่ละแบบไม่เหมือนกัน
แตกต่างกันตามการใช้งานและฐานะของผู้เป็นเจ้าของ
โต๊ะกับเก้าอี้นั้นเป็นของคู่กันที่ไม่จำเป็นต้องใช้คู่กันในทุกครั้ง
บางทีเราอาจแค่ต้องการนั่งบนเก้าอี้
และบางทีเราก็อาจแค่ต้องการโต๊ะไว้วางของเพียงอย่างเดียว

แต่...ถ้ามันอยู่ด้วยกันก็จะดูสมบูรณ์แบบได้มากกว่า
และประโยชน์ใช้สอยมันก็จะมากกว่าด้วย 
เหมือนกับผู้หญิงกับผู้ชายที่เป็นของคู่กัน
....อย่างไรอย่างนั้น 
มีเพื่อนคนหนึ่งถามฉันต่อว่า แล้วตกลงผู้หญิงหรือผู้ชาย
ใครกันที่เป็นโต๊ะ ใครกันที่เป็นเก้าอี้ ฉันตอบไปว่า 
โต๊ะน่าจะเป็นผู้ชาย และเก้าอี้น่าจะเป็นผู้หญิง
เพราะโต๊ะสามารถมีเก้าอี้ ได้มากกว่าหนึ่ง แต่ถ้า
เมื่อไรก็ตามที่เก้าอี้ริจะมีโต๊ะมากกว่าหนึ่งจะดูไม่งาม
และสังคมจะรุมประนามทันที (ฮา) 
แล้วเพื่อนคนเดิมมันก็ถามต่ออีกว่า 
ก็แล้วจะมีโต๊ะสักกี่ตัวในโลกนี้
ที่มันอยากจะมีเก้าอี้แค่เพียงตัวเดียว
ฉันก็เลยตอบมันไปว่า
ก็โต๊ะเขียนหนังสือไงแก...แกเคยเห็นใครวางเก้าอี้ไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือมากกว่าหนึ่งตัวกันบ้าง
ไม่เหมือนโต๊ะกินข้าวกับโต๊ะรับแขก พวกนี้เจ้าชู้
มีเก้าอี้ตั้งเยอะ บางบ้านก็ 4 ตัว บางบ้านก็ 6
ตัวหรืออาจมากกว่า  อ๊ะ
..แต่โต๊ะเครื่องแป้งเค้าก็รักเดียวใจเดียวเหมือนกันนะ
..มีเก้าอี้ตัวเดียวเหมือนกัน มันเสริมให้
เออ..จริงว่ะ 
อาจเป็นเรื่องของขนาดก็ได้มั้งแก..ก็โต๊ะกินข้าวน่ะมันมีขนาดใหญ่
มันก็เลยต้องการเก้าอี้มากๆ เพื่อมาเสริมบารมี
เหมือนคนรวยๆชอบมีอีหนูเยอะๆไว้ประดับบารมี
ส่วนโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้งน่ะ ขนาดมันไม่ใหญ่
เหมือนคนฐานะปานกลางไปจนถึงยากจน
จะมีเมียมากกว่าหนึ่งก็เลี้ยงไม่ไหว  
มันอธิบายเสียยืดยาว แล้วฉันก็ฮาอีก ในความช่างคิดของ
ทั้งมันและฉัน 
	มานั่งนึกแล้วก็อดขำไม่ได้
ในความเหมือนโดยบังเอิญระหว่างโต๊ะกับเก้าอี้
และความสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับชาย 
	มาพูดถึงเก้าอี้กันบ้าง  เพื่อนมันถามฉันต่อว่า
แล้วแกว่าเก้าอี้แบบไหนในโลกวะ
ที่มันจะชอบมีโต๊ะมากกว่าหนึ่ง
มันเล่นเอาฉันคิดนานอยู่เหมือนกัน
ก็เก้าอี้ล้อเลื่อนไงวะ พวกนี้ชอบเลื่อนไปโต๊ะโน้น
ย้ายมาโต๊ะนี้ เปลี่ยนโต๊ะอยู่เรื่อย
คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นมันบ้างที่ขำ
เค้าเรียกมีรักสำรองเผื่อเลือกใช่ไหมแบบนี้ มันว่า
	คงยุ่งน่าดูถ้าเก้าอี้ล้อเลื่อนมาเจอกับโต๊ะกินข้าว
เราก็เลยไม่เคยเห็นใครเอา
เก้าอี้ล้อเลื่อนมาตั้งกับโต๊ะกินข้าวเลยสักที
มันก็คงเหมือนการที่แม่เหล็กขั้วเดียวกันมันจะผลักกันนั่นแหละ
เราเลยไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นัก
ที่ผู้หญิงไวไฟจะมาจับคู่กับผู้ชายเจ้าชู้
โดยมากถ้าอีกฝ่ายเจ้าชู้ อีกฝ่ายจะสงบสยบอยู่เสียมากกว่า
มันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ ไปด้วยกันรอด 
ในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน
ฉันว่าเราไม่จำเป็นต้องเป็นโต๊ะกับเก้าอี้ที่สวยหรูงดงามมากมายอะไรนัก
แค่พอดูได้ ใช้งานได้ มันก็ไม่น่าเกลียดอะไรแล้วล่ะ 
เอาแค่แบบโต๊ะเขียนหนังสือ มีโต๊ะหนึ่งเก้าอี้หนึ่ง 
นั่งแล้วรู้สึกสบาย ถ้าเหนื่อยนักก็ฟุบหน้าหลับตาพักได้
หรือถ้าจะสวยงามก็ขอให้มันดูสวยงามแค่อย่างโต๊ะเครื่องแป้ง
ที่ดูดีสวยงาม เพราะหมั่นดูแลกันและกัน
เป็นกระจกคอยสะท้อนซึ่งกันและกัน
อยู่ร่วมกันโต๊ะหนึ่งเก้าอี้หนึ่งอย่างเข้าใจ 
	อย่าให้ต้องเป็นเหมือนโต๊ะกินข้าว ที่ยิ่งใหญ่ร่ำรวย
แต่ก็ไม่สามารถดูแลเก้าอี้ที่มีได้อย่างทั่วถึง
กว่าจะแบ่งความห่วงใยมาใส่ใจแต่ละที
ก็คงต้องรอจนเหงาเฉาตายกันไปเสียก่อน
หรือไม่จำเป็นต้องสวยงามหรือหรูหรา ถึงขนาดโต๊ะรับแขก
ที่มีเอาไว้แค่เพียงอวดชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมา
ใครเห็นใครพบก็สบายใจ แต่เก้าอี้(โชฟา)นี่สิช้ำ
ต้องโดนโถมโดนทับไม่รู้จักเท่าไหร่ เพราะใครๆก็พากันแวะ
	ถ้าจะมีความรักฉันอยากรักแบบโต๊ะเขียนหนังสือ
หรือโต๊ะเครื่องแป้งก็พอ ไม่ยิ่งใหญ่ ไม่หรูหรา
แต่อบอุ่นพอให้บ้านน่าอยู่อาศัย
ฉันว่าถ้าแท้จริงแล้วคนเราวัดคุณค่ากันจากภายในจิตใจ
โต๊ะกับเก้าอี้ก็คงไม่ต่าง
ตรงที่เราวัดคุณค่ามันจากประโยชน์ใช้สอยมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก

บางทีเก้าอี้อาจขาหักขาโยกไปบ้างนะ
ถ้าตั้งเองไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อาศัยพิงเก้าอี้เอาก็ได้
ก็ไหนๆเราก็คู่กันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ 
หรือบางที
โต๊ะอาจสึกมีรอยบิ่นรอยขีดข่วนไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
เพราะเก้าอี้เค้าจะคอยบดบังให้เอง
ความจริงแล้ว
คนเรารักกันมันไม่ต้องการองค์ประกอบอะไรที่มากมายเลย
แค่หมั่นเติมเต็มซึ่งกันและกันก็พอแล้ว
เพราะโต๊ะกับเก้าอี้ที่ไม่เข้าชุดกัน
เมื่อจับมาวางคู่กัน
ประโยชน์ใช้สอยมันก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป
แค่ความสวยงามมัน(อาจจะ)ลดน้อยลงไปเท่านั้นเอง
แล้วบ้านของคุณเองล่ะอยากให้มีโต๊ะกับเก้าอี้แบบไหนเคยคิดเอาไว้บ้างหรือเปล่า.........
อับราฮัม ลินคอร์น เคยกล่าวไว้ว่า
คนเราจะมีความสุขได้เสมอทุกเมื่อถ้าตั้งใจจะให้ตนเองมีความสุข
ในความเป็นจริงเราไม่สามารถเลือกได้ดังใจเราทุกอย่าง
ถ้าคุณเป็นเก้าอี้
คุณไม่มีทางรู้ได้ในทั้งหมดทุกส่วนว่าโต๊ะของคุณเขาจะเป็นอย่างไร
คุณอาจไม่จำเป็นที่จะต้องชอบในทั้งหมดของโต๊ะของคุณ
และถ้าคุณเองเป็นโต๊ะ
คุณก็คงไม่มีทางที่จะพอใจในทุกส่วนที่เก้าอี้ของคุณมีเพราะความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง
ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้.... ฉันเชื่ออย่างนั้น หากแต่
ศิลปะสุดยอดของการอยู่ร่วมกันคือ การให้อภัย  
อะไรที่เค้าขาดไปบ้างเราก็หมั่นเติม
อะไรที่เค้าเกินไปบ้างเราก็เอามาเติมให้เราเอง 

ถ้าเป็นแบบนี้เราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างงดงามมากกว่าไหม.....
    
  เป็นแค่โต๊ะกับเก้าอี้ก็พอแล้ว
        ไม่ต้องเป็นแสงดาวที่วามแววแต่แยู่ไกลถึงบนฟ้า
        อยากให้รักเราง่ายและอยู่ใกล้แค่ปรายสายตา
        เหมือนโต๊ะกับเก้าอี้ที่เสมอมาเป็นของคู่กัน 
        ไม่ต้องเป็นโต๊ะกับเก้าอี้ชุดหรู
        แค่วางไว้แล้วบ้านจะมีกลิ่นความอบอุ่นอวลอยู่พอน่าฝัน
        วันใดอยู่ห่างก็ยังทำหน้าที่ได้ตามวิถีของมัน
        แต่ถ้าใกล้ก็จะหมายถึงความครบครันที่มากขึ้นไป
        อยากให้เรารักกันอย่างโต๊ะกับเก้าอี้ 
        เป็นอิสระในชีวิต หน้าที่ แต่แสนจะดูดีเมื่ออยู่ใกล้
        ให้เราผูกพันแต่ยังเหลือที่ว่างระหว่างกันไว้หายใจ
        เนื้อที่พอให้รักได้เติบใหญ่ระหว่างกลาง				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
Lovings  ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
Lovings  ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
Lovings  ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม