5 กุมภาพันธ์ 2546 15:25 น.
ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
ฟังสิคนดี..ฟังเสียงลมไหว
ได้ยินรึเปล่าเสียงใบไม้ไกว..ร่วงลงสู่ผืนหญ้า
แมลงปอกางปีกบินกลางแสงแดดบนนภา
ได้ยินคำรักหรือเปล่าที่ฉันกระซิบมาผ่านลมรำเพย
มองสิคนดี มองที่ผืนฟ้า
โปรดอย่ารินน้ำตากับความเหว่ว้า..เงียบเฉย
วันที่เธอเหงา--ฉันยังรอซับน้ำตาอย่างวันเก่าที่คุ้นเคย
เพียงเธอเอื้อนเอ่ย--
จะติดปีกบินไปในสายลมรำเพยเพื่ออยู่ข้างเธอ
4 กุมภาพันธ์ 2546 14:10 น.
ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
ดอกไม้และใบ้ไม้ยังไม่ได้รวมอยู่บนต้นเดียวกันอย่างเช่นทุกวันนี้
มันต่างก็แยกกันอยู่ อีกทั้งเหล่าใบไม้ก็ไม่ได้มีแต่สีเขียว
หากแต่มีหลากหลายสีสันงดงามนัก แต่ดอกไม้กลับมีเพียงสีขาวเท่านั้น
ใบไม้รวมอยู่กับหมู่ใบไม้ด้วยกัน มีแต่ความร่าเริง มีนิสัยรักสนุก
ต่างจากดอกไม้ที่อยู่อย่างเงียบเหงาเดียวดาย
แม้จะอยู่รวมกันคุยกันกับหมู่ดอกไม้ด้วยกัน
แต่ดอกไม้แต่ละดอกต่าง มีความคิด และวาดฝันเป็นของตัวเอง
เธอเฝ้ารอบางสิ่งบางอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
บ่อยครั้งที่เธอมองไปที่ใบไม้แล้วนึกอยากเป็นส่วนหนึ่งของสีสันสวยงามนั้นบ้าง
แต่ดอกไม้ ดอกเล็กและเสียงเบาเกินกว่าที่จะเรียกใบไม้ให้หันมา
กระทั่งวันหนึ่ง ...
ใบไม้เกิดรู้สึกเบื่อสีสันของตัวเองขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นดอกไม้น้อยสีขาวบริสุทธิ์ดอกหนึ่งเข้า
ใบไม้ไม่รู้จักสีขาวมาก่อน เขาไม่รู้ว่าสีขาวเป็นอย่างไร
เพราะใบไม้ต่างก็มีสีสันกันทุกใบ
ใบไม้เกิดหลงใหลในความอ่อนหวานละมุนละไมของดอกไม้น้อยในทันที
แต่ในความอ่อนหวานนั้นดูเหมือนจะมีความเหงาแฝงอยู่ด้วย
ใบไม้จึงเข้าไปถามดอกไม้ว่า
ดอกไม้ เธอช่างมีสีขาวสวยเหลือเกิน
แต่ทำไมเธอจึงดูเงียบเหงาอย่างนี้เล่า
ดอกไม้น้อยแหงนมองใบไม้กิ่งใหญ่แข็งแรงก่อนจะตอบกลับไปว่า
สีขาวซีดอย่างนี้หรือสวย ฉันอยากจะมีสีสันอย่างเธอบ้างจัง
มันคงจะทำให้ฉันมีชีวิตชีวาขึ้นมาก
ใบไม้ได้ฟังแค่นั้นก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นหน้าที่ของเขา
ที่จะต้องช่วยเหลือดูแล และปกป้องดอกไม้น้อยดอกนี้
เขาจึงบอกเธอไปว่า มาซิดอกไม้ ฉันช่วยเธอได้นะ
ถ้าเพียงเธอมาอยู่กับฉัน ฉันจะทำให้เธอมี ชีวิตชีวาขึ้นเอง
ดอกไม้น้อยไม่รอช้ารีบตอบตกลงในทันที
เมื่อดอกไม้ไปอยู่กับใบไม้แล้ว ใบไม้ก็ให้การดูแลเธออย่างดี
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพื่อเธอ
ถ่ายทอดออกมาเป็นสีสันสวยงามให้กับดอกไม้
แล้ววันหนึ่งเมื่อดอกไม้น้อยมองลงไปในลำธาร
เธอก็เห็นเงาตัวเองเปลี่ยนเป็นดอกไม้สีสวยที่มีชีวิตชีวา
แต่เมื่อหันไปมองที่ใบไม้ เขากลับกลาย เป็นสีเขียวที่ดูอบอุ่นนัก
ดอกไม้น้อยถามใบไม้ว่า ใบไม้ นี่ฉันแย่งสีสันในชีวิตเธอมารึเปล่านะ
ใบไม้ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า ไม่หรอก ทุกวันนี้เธอคือสีสันในชีวิตฉัน
ฉันไม่ต้องการสีสันอะไรอีกแล้ว
ฉันมีเพียงความสบายใจที่ได้เห็นเธอมีความสุข
จากนั้นมา ดอกไม้กับใบไม้ก็อยู่ร่วมกันเป็นต้นไม้ที่อบอุ่น
บนรากของความรัก ที่หยั่งลึกลงไปในผืนดินของหัวใจ
ด้วยเหตุนี้ ใบไม้จึงมีสีเขียว
สีเขียวที่มองแล้วให้ความรู้สึกสบายตา เพราะเมื่อเรามองดูสีเขียวเมื่อไร
เราจะรับรู้ได้ถึงความสบายใจของใบไม้ที่เห็นดอกไม้น้อยของเขามีความสุข
ส่วนดอกไม้ ขาวที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ อ่อนหวาน ละมุนละไมนั้น
ดอกไม้คงไม่อยากให้ความรู้สึกเหล่านี้หายไป
จึงยังคงมีดอกไม้สีขาวให้เราเห็นมาจนทุกวันนี้ด้วยเช่นกัน ...
3 กุมภาพันธ์ 2546 17:55 น.
ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
เมื่อคนแห่งความโลเล2 คนมาพบกัน
นั่นหมายถึงฉันต้องเป็นฝ่ายไปใช่ไหม
เค้าคนใหม่ที่พบเธอเพียงไม่ทันไร
กับฉันคนเก่าที่เป็นของตาย ไม่มีความหมายมากกว่าคำลา..
กับเธอที่มีแต่ความโลเล
พร้อมจะปล่อยหัวใจลอยเร่..ให้กับคนที่เอื้อมมือคว้า
คงไม่มีอะไรมากไปกว่าน้ำตา..
และขอบคุณกับบทเรียนล้ำค่า..
ที่ฉันต้องแลกมันมาด้วยหัวใจ
3 กุมภาพันธ์ 2546 17:51 น.
ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
เธอกลับมาบอกว่าคิดถึง
แล้วฉันควรต้องซึ้งกับคำนี้แค่ไหน
กับวันที่แม้แต่ความทรงจำหรือหัวใจ
ก็แตกร้าวแหลกทำลายไม่เหลือดี
คิดบ้างหรือเปล่าเมื่อวันที่จากไป
ว่าทิ้งความปวดร้าวทุกข์ใจไว้ให้ใครทางนี้
ถึงไม่เคยสำนึกแต่..ลึกๆ..ความละอายก็ควรมี
กับการซมซานกลับมาขอคืนดี--
ไม่นึกเลยนะว่าเธอจะกล้าลดศักดิ์ศรียอมทำ
3 กุมภาพันธ์ 2546 17:43 น.
ถนนสายเก่า รองเท้าคู่เดิม
ไม่รู้ทำไมต้องเป็นทะเล
ที่จะต้องแบกรับความว้าเหว่ของใครต่อใครไว้
ที่ให้คนเหนื่อยล้า หนีมารักษาใจ
และโยนภาระความเศร้ามากมายให้ทะเล
....ถ้าทะเลมีความรู้สึก
บางทีอาจได้แค่ภูมิใจอยู่ลึกๆที่ได้เป็นเพื่อนคนช่างเหงา ว้าเหว่
แต่คงแสนเศร้า ในวัน ที่คลื่นว่างเปล่าซวนเซ แต่ไม่มีใครจะอยู่เพื่อ ปลอบโยน
และรับฟังความว้าเหว่เลยสักคน