28 กันยายน 2551 10:15 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
สุขเมื่อคราฝนเยือนเหมือนฟ้าสั่ง
สายฝนหลั่งพร่างพรูเย็นทั่วหล้า
โลกทั้งโลกโชกชุ่มชอุ่มตา
ทั้งต้นไม้ใบหญ้าทั่วหล้ายัง
อีกไม่นานกาลเวลาถึงคราเปลี่ยน
กาลหมุนเวียนเปลี่ยนพาน่าใจหาย
อากาศเย็นหนาวเยือนเริ่มกล้ำกราย
ช่างโหดร้ายเหลือดีที่กันดาล
หลายเผ่าชนบนภูเขาชาวเราด้วย
ต้องล้มป่วยด้วยโรคภัยไข้เหน็บหนาว
อากาศแห้งแล้งน้ำตอกย้ำถัย
โลกทำร้ายเพราะพวกคนทำลายเอง
ทั้งบุกรุกทำลายป่าแผ้วตัดถาง
ทำทุกอย่างตามใจปรารถนา
การบุรุกจุดไฟไม่ไว้หน้า
หาของป่ามาขายทำลายกัน
ทำลายป่าทำร้ายโลกอย่างไม่คิด
จนวิกฤตวิปริตไปทั่วหล้า
ทั้งพายุฟ้าฝนผลตามมา
ไม่นำพาถึงความผิดที่ทำกัน
ทุกระดับอัปยศอดสูยิ่ง
ทำลายสิ่งที่โลกสร้างหาได้คิด
คนรากหญ้าทั้งพ่อค้าธุระกิจ
คนไม่คิดรวมทั้งพวกนักการนักโกงนักกินเมือง
ใช้อำนาจใช้เงินอิทธิพล
ทำการปล้นทรัพย์สินแผ่นดินสิ้น
จนเกิดภัยวิบัติทั่วแผ่นดิน
ผู้หมดสิ้นประสพภัยไม่เหลียวเคยมอง
คนที่เห็นคนที่รู้คนที่พบคนทำผิด
ยังป้องปิดปกปิดคนทำชั่ว
ถึงเวลาวิปริตภัยถึงตัว
ยังไม่รู้ดีชั่วน่ากลัวใจ.
20 กันยายน 2551 07:55 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
เมื่อวันวานผ่านไปจำได้ไหมคนดี
เสียงนั้นเหมือนดนตรีเส้นสาย
ใครหนอช่างฝังใจในอารมย์ขมขื่นไว้
ฝังในใจคล้ายต้องการฝันกลับมา
ความรักใช่แต่จะจรรโลงโลกให้งดงามเท่านั้น
แต่ก็ส่งผลให้โลกกลายเป็นนรกของคนเป็นได้เช่นกัน
ความรักหากมิยึดติดมั่นกับความใคร่ผูกพันธ์
ความรักนั้นคือมิตรภาพที่ยั่งยืน
เสียดายตามหารักไม่ถูกทางอย่างฝัน
คิดว่าใจเขาใจเราคงเช่นกัน
มิยั่งยืนนานกาลเวลามาแย่งทำลาย
เสียเวลารักใคร่เสียเยื่อใยสัมพันธ์
20 กันยายน 2551 06:15 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
โลกต้องการคนดีในสังคม
โลกชื่นชมคนทำดีมีเหตุผล
โลกวุ่นวายมากมายเพราะใจคน
โลกสับสนเพราะคนไม่ทำดี
ซือนามิ บอกอะไรให้คนคิด
ปลิดชีวิตมากมายยังไม่ฉงน
ยังคิดทำกรรมอีกฤาหลีกพ้น
ใจมืดมนต์จนปัญญาตาบอดเอง
ต่อแต่นี้ควรเตรียมใจ ในครั้งสอง
จับตามองให้ดีภาพที่เห็น
ดูแมงเม่าเร่าร้อนซ่อนกองเพลิง
ทำเป็นเหลิงเก่งกล้าบ้าตามกัน
หักห้ามใจคิดอะไรนึกถึงพ่อ
อย่าทดท้อกับเหตุการณ์อันสับสน
คอยตั้งใจทำสิ่งดีเพื่อตัวตน
ใช้เหตุผลบนความยุติธรรม
อย่าไปรู้ดูแล้วนิ่งอย่าวิ่งหา
ดวงชะตาของทุกคนอยู่บนฐาน
จะยากดีมีจนข้นแค้นกัน
อดีตผ่านนั่นสิที่บอกเรา
กรรมคือการกระทำปัจจุบันนั่นคืออดีตของเดี๋ยวนี้
นิ่งคิดใคร่ครวญตรองตริติดตามวิถีตนกระทำนั้น
นิสสัยไป่แจ้งแหล่งกรรมตน
หนีไม่พ้นผลนั้นการคิดการกระทำ
ใยทำไม ฅน ต้องทุกข์ทรมาน
ไม่หลงซมซานฆ่ารันฟันแทงแบ่งแย่งทรัพย์สิน
คอยให้อภัยดับโกรธ อภัยโทษหมดมลทิน
เงี่ยหูยินคนพร่ำด่าบ้า หรือคนไม่ทันคน
ฅน ความเป็น ฅน ของฅนอยู่ที่จิตใจ
กราบนบหมอบไหว้ขอใช้ส่วนบุญกุศลเขา
ใจรู้อยู่เขาทำดีมากกว่าเราหลายเท่า
ความดีเขาคือบารมีที่ทำมา
เหมือนเหตุการบ้านเมืองที่เกิดขึ้น
ลึกตื้นหนาบางกิเลสเขา
กรรมใดใครก่อก็ดังเงา
ติดตามตนเจ้าของนั้นตลอดกาล
มองทุกสิ่งไว้ใช้สติ
ตัวตนเราสิอย่าริทำอย่างเขา
วัวควายโดนสนสะพายดอกเจ้า
ทนเจ็บร้าวลึกในจึ่งได้เดินตาม.
12 กันยายน 2551 13:51 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
จะมีใครบ้างไกล้ชิดเป็นมิตรแท้
อยามที่แย่สิ้นไร้ใจรานร้าว
เหลือแต่ความหลังที่ว่างเปล่า
มันช่างเหงาเดียวดายใจหายจริง
กำลังใจมันหดหายไปไหนหมด
คาวมรันทดรุมเร้าจนเร่ารอ้น
มันไม่ผิดไปจากบทละคร
พอถึงตอนเราแสดงหมดแรงใจ
วันนี้ยอมรับว่ารับบทหนัก
ตั้งใจมากเกินไปก็ไม่รู้
ยอมเจ็บปวดทนได้ไว้เพื่อสู้
ยอมเพื่ออยู่พิสูจน์ให้คนดู
แต่ยังดีมีลานกวีให้
ละบายใจอารมย์ทั้งขมหวาน
ทั้งศาลาคนเศร้าไว้พักกัน
เหมือนเป็นศาลของใจตายทั้งเป็น.
12 กันยายน 2551 13:15 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
ทำลายรักศรัทธาไม่ได้คิด
ใช้ชีวิตร่วมทางหวังสร้างสรร
ให้ถึงฝั่งทางขึ้นสวรรค์กัน
แต่มาพลันพลิกเรือให้ล่มกลาง
เสียดายวันเวลาผ่านมายิ่ง
เสียดายจริงความตั้งใจที่ใฝ่ฝัน
เสียดายรักรากใยใบกิ่งก้าน
ทั้งวิมานม่านเตียงคู่เคียงกาย
ตามไม่ทันสังคมในยุคนี้
มันขยี้ยับเยินเกินกว่าแก้
วัตถุนำวิถีชีวิตแท้
จิตใจแย่แม้เยื่อใยไร้แรงทาน.
ได้แต่เพียงภาพถ่ายไว้เคียงข้าง
เพราะทุกอย่างเร็วเกินไปตัดใจไหว
ทุกข์เจ็บปวดรวดร้าวคละเคล้าไป
หยุดหัวใจให้พักตั้งหลักแรง