27 ตุลาคม 2551 12:53 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
มองเห็นนกผกผินบินเคียงคู่
เฝ้ามองดูจนลับตาน่าอิจฉา
ตะวันดับลับเหลี่ยมจรดแนวป่า
แล้วตัวข้าอ้างว้างอย่างตามเคย
เหงาจริงๆยิ่งกลางไพรในป่ากว้าง
มันอ้างว้างอย่างนี้มีใครเหมือน
กลางค่ำคืนยืนมองฟ้ามีแต่เดือน
เมฆคล้อยเคลื่อนเดือนลับกลับมืดลง
เงียบสงัดลมพัดพลิ้วริ้วรอยคลื่น
ลมสะอื้นดังใจข้าว้าวุ่นนัก
ผิงกองไฟในป่าหนาวมากมาก
น้ำค้างพรากจากฟ้ามาชะโลม
เย็นยะเยือกเลือกได้ก็ไม่ว่า
ชะง่อนผาอาศัยหลบฟ้าฝน
แต่ความหาวเย็นนั้นจำต้องทน
ยิ่งกังวลบนดอยจะคอยใคร
มีก็แต่หัวใจนักต่อสู้
ยังไม่รู้อยู่รอดไปถึงไหน
มองความมืดล้อมรอบมิวางวาย
อันตรายรอบตัวกลัวไม่เป็น.
27 ตุลาคม 2551 12:15 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
ขอยอมรับความจริงสิ่งเหล่านี้
เคยคิดหนีทีไรไปไม่พ้น
เพราะหัวใจของเรายังเป็นคน
หนีวังวนห้วงรักยากจริงๆ
เคยบอกปัดปฏิเสธเหตุผลลับท์
แต่ใจกลับรานร้าวเศร้าขื่นขม
ทรมานสุดทนจนระบม
แอบสาสมความคิดปิดบังใคร
จะบอกใครให้รับรู้ยังอ้อมแอ้ม
กลัวเสียแต้มเชิงชายอายขวยเขิน
เอาสิน่า ฝืนอย่างนี้ทุกข์เหลือเกิน
คงบังเอิญมีใคร ปลอบใจแทน
มองฟ้ากว้างยังมีที่เวิ้งว้าง
พอมีหวังสร้างฝันนั้นอีกหน
โลกใบนี้เป็นอย่างเราใช่เพียงคน
สลัดพ้นไม่ยอมแพ้แม้หมดทาง.
24 ตุลาคม 2551 13:32 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
วันเวลาเนิ่นนานผ่านเร็วมาก
ไม่ออกปากชื่นชมคารมณ์หวาน
แม้นเวลานาทีผ่านเนิ่นนาน
ทนขมหวานผ่านมาน่าชื่นชม
แต่ก็แอบชื่นใจในตัวเจ้า
ที่คอยเฝ้าห่วงใยเสน่หา
แม้นขมขื่นมากมายที่ผ่านมา
รักไม่กล้าเอ่ยคำทำเป็นเมิน
น้อยใจสิที่ทำเหมือนไม่คิด
ที่แท้จิตมอบให้ไม่ห่างหาย
ความห่วงหาอาทรซ่อนในใจ
มิแพล่งพรายให้รู้ดูท่าที
สิ่งที่คิดจริงใจให้กับเจ้า
คือการเฝ้าฝันถึงวันที่หมาย
อนาคตสดใสให้ดังใจ
เป็นเป้าหมายให้รักที่สมบูรณ์
ได้พักผ่อนตอนเหนื่อยที่เคยผ่าน
ลิ้มรสหวานผ่านขมเหมือนข่มขืน
ขอให้พักผ่อนได้อย่างยั่งยืน
เพราะกล้ำกลืนฝืนทนตลอดมา
วันนี้พี่คนที่ไม่มีหวาน
ก่อนจากกันวันจากฝากของขวัญ
เป็นรางวัลย์ชีวิตชั่วนิรันดร์
เพื่อปลอบขวัญกำลังใจให้ทดแทน.
24 ตุลาคม 2551 12:43 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
ลมเย็นพลิ้วแผ่วผิวกายสะท้าน
หนาวหรือนั่นวันนี้ที่คอยหา
ใกล้เวียนจบครบรอบพฤศจิกา
ปลายตุลาเจียนลับวสันต์เลือน
แดดรอนๆตอนใกล้จะพลบค่ำ
เสียงสายน้ำซัดซ่าแทรกผาหิน
ลมเย็นๆพัดมาอุรายิน
หวังถวิลเสาะหามาแสนนาน
ชอบมากๆหากถึงเวลานี้
ในหนึ่งปีหนทนรอหนาว
ผ่านร้อนฝนชนชื่นใจอีกคราว
ฤาหน้าหนาวมีอะไรใจต้องการ
อดีตยังฝังใจให้ลำลึก
ความรู้สึกมากมายใครหยั่งถึง
มีแต่ใจใฝ่หาที่ตราตรึง
เฝ้าคิดถึงหนึ่งในใจวกวน
ไม่เคยลืมไม่มีเลือนเหมือนเพิ่งผ่าน
ใจต้องการนั่นเพราะใจเสน่หา
ในอดีตที่ผ่านกาลเวลา
แทบจะหาดูได้ย่างยากเย็น
สาวแสนสวยด้วยเสื้อผ้าที่หนานุ่ม
แพรพรรณหุ้มเรือนกายใหัสีสรร
งามยิ่งนักเหลือจักพรรณานั้น
ถ้อยคำหวานผ่านใจด้วยไมตรีทั้งจริงใจในรอยยิ้มไร้เหลี่ยมเล่ห์
มีเสน่ห์ในดวงตาดูสดใส
อีกรอยยิ้มแย้มยวนจัญจวนใจ
ใครเห็นใครครั่งไคร้ด้วยใจจริง
เป็นตำนานกล่าวขานในวันนี้
แต่คนที่พบนั้นวันที่เห็น
แม้นผ่านมาเหมือนอดีตที่ซ่อนเร้น
แต่ก็เป็นความหลังที่ฝังใจ.
สาวชาวป่าปากไม่แต่งแป้งไม่ทาช่างน่ารัก
งามพลิ้งพักตร์ยิ้มแย้มแก้มนวลใส
โชลมขัดผิวด้วยสมุนไพร
หอมกลิ่นกายเพียงเท่านั้นเอง.
8 ตุลาคม 2551 06:44 น.
ถ. ดอกฝิ่น ม่อนเงาะ
เหมยช้าง พร่างพรมพื้นยอดหญ้า
เยือกเย็นกายาสั่นสะท้าน
มีคู่อยู่แนบแอบอิงบ่หวั่น
ที่หนาวสั่นนั้นคู่บ่อยู่ตวย
หนาวเหนือเนื้อนั้นแทบสลาย
อย่าถามใจนั้นถึงขั้นไหน
ลองทดลองแรมร้างห่างคู่ใจ
นอนร้องให้โหยหา ว่าไม่จริง
กอดหมอนนอนข้างไม่ต่างขอน
ไม่อุ่นอ่อนอ้อยอิ่งจริงๆหนา
อีกไม่หอมกลิ่นไอของกายา
หนาวนี้กว่าหมดคงหดตายแน่เรา