20 กรกฎาคม 2545 17:06 น.
ต้ยนุ้ย
เขาเจอเธอในงานเลี้ยงแห่งนึง
..เธอดูโดดเด่นมาก
..และมีคนมากมายรุมล้อมเธอ
..ในขณะที่เขาดูเป็นผู้ชายธรรมดาคนนึง
..ไม่มีใครใส่ใจเขาเลย
..และหลังงานเลี้ยงเลิก
..เขาได้มีโอกาสชวนเธอไปทานกาแฟต่อ
..เธอประหลาดใจมาก
..แต่ท่าทีที่สุภาพของเขา ทำให้เธอตอบตกลง
..พวกเขานั่งในร้านกาแฟดีๆแห่งนึง
..เขาดูประหม่าจนพูดอะไรไม่ออก
..เธอรู้สึกอึดอัดมาก
..จนคิดในใจว่า
..ได้โปรดให้ฉันกลับบ้านเหอะ
.....แต่ทันใดนั้น.....
..เขาถามบ๋อยว่า ขอเกลือป่นได้ไหม
..อยากเอามาใส่ในกาแฟ
..ทุกคนในร้านหันมาจ้องเขาด้วยความประหลาดใจ
..เขาอายจนต้องก้มหน้า
..แต่ก็ยังเติมเกลือลงในกาแฟ และก็ดื่มมันเสียด้วย
..ทำให้เธอต้องถามเขาอย่างอดไม่ได้ว่า
..ทำไมชอบกาแฟรสชาติแบบนี้
..เขาตอบว่า เมื่อเขายังเด็ก
..บ้านเกิดเขาอยู่ริมทะเล
..เขาเป็นลูกน้ำเค็ม
..เล่นกับทะเลทุกวัน เคยชินกับรสเค็มของเกลือ
..เหมือนกับรสชาติของกาแฟเค็ม
..เพราะฉะนั้นเมื่อทุกครั้งที่เขาได้ลิ้มรสกาแฟเค็มๆ
..เขาก็จะคิดถึงวัยเด็ก
..คิดถึงบ้านเกิด
..เขาคิดถึงพ่อแม่ทียังอยู่ที่นั่น
..เขาเล่าไปก็น้ำตาไหลอาบแก้ม
..เธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ
..นั่นเป็นความในใจลึกๆของเขา
..ผู้ชายคนไหนที่กล้าบอกว่าเขาคิดถึงบ้าน
..แสดงว่าเขาต้องรักครอบครัวอย่างมาก
..และมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว
..ดังนั้นเธอก็เริ่มประทับใจในตัวเขา
..เริ่มชวนเขาคุย
..เล่าถึงบ้านเกิดของเธอบ้าง
..ชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวของเธอ
..เธอกับเขาคุยกันถูกคอมากขึ้นเรื่อยๆ
...และจากการเริ่มต้นที่ดี
..ทำให้เขากับเธอคืบหน้าความสัมพันธ์ต่อไป
จนทีสุด เธอก็ค้นพบว่า
..เขาคือผู้ชายแบบที่เธอต้องการอย่างแท้จริง
..เขาใจกว้าง อ่อนโยน อบอุ่น และดูแลเป็นอย่างดี
..เขาเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่เธอเกือบจะมองข้ามเขาไป!
..ต้องขอบคุณกาแฟแก้วนั้น
..และชีวิตรักที่สวยงามเช่นนี้ ก็เหมือนดังเรื่องทั่วไป
..เมื่อเธอตกลงใจแต่งงานกับเขา
..และก็มีความสุขมาโดยตลอด....
..โดยทุกๆครั้งที่เธอชงกาแฟให้กับเขา
..เธอต้องใส่เกลือลงไปในกาแฟให้ทุกครั้งไป
..เธอรู้ว่านี่เป็นกาแฟที่เขาชอบมากที่สุด
หลังจากนั้นอีกสี่สิบปี
..เขาก็จากเธอไป
..ทิ้งจดหมายไว้ให้เธอฉบับนึง
..ข้างในมีใจความว่า
ที่รัก อภัยให้ผมด้วย
ที่ต้องโกหกคุณชั่วชีวิต
มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมโกหกคุณ เรื่องกาแฟเค็มนั่น
จำวันแรกที่เรามีนัดกันได้ไหม
ผมประหม่ามากในตอนนั้น
จริงๆแล้วผมต้องการน้ำตาล แต่ผมพูดผิดเป็นขอ
เกลือ ซึ่งมันยากที่จะกลับคำในตอนนั้น ผมจึงต้อง ปล่อยมันไป ซึ่งผมไม่คิดว่า นั่นจะทำให้เราได้เริ่มต้นการพูดคุยกัน ผมพยายามที่จะสารภาพกับคุณหลายต่อหลายครั้ง แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะสารภาพออกไป ทำให้ผมสัญญากับตัวเองว่า จะไม่โกหกอะไรคุณอีกแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้ผมจากไปแล้ว ผมไม่ต้องหวาดกลัวอะไรอีก ดังนั้นจึงเล่าความจริงในจดหมายฉบับนี้
..แท้จริงแล้วผมไม่ได้ชอบทานกาแฟรสเค็มเลยแม้แต่น้อย มันรสชาติค่อนข้างแย่ทีเดียว แต่ว่าผมทานมันตลอดทั้งชีวิตตั้งแต่ได้รู้จักคุณ ผมไม่เคยนึกเสียใจในสิ่งที่ทำเพื่อคุณเลย การได้พบคุณเป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดชีวิตของผม ถ้าผมได้มีโอกาสมีชีวิตอีกครั้ง ผมก็ยังอยากจะได้พบคุณ และมีคุณเป็นภรรยาผมอีกครั้งเช่นกัน แม้ว่าผมจะต้องดื่มกาแฟรสเค็มอีกตลอดชีวิตก็ตาม!
....น้ำตาของเธอหยดใส่กระดาษจดหมายจนเปียกชุ่ม
และหลังจากนั้น หากมีใครถามเธอว่า กาแฟรสเติมเกลือรสชาติเป็นเช่นไร
เธอก็จะตอบเสมอว่า " มันหวาน "
แล้วหากคุณใส่ดูบ้างละจะมีรสอย่างไร...
20 กรกฎาคม 2545 16:56 น.
ต้ยนุ้ย
เริ่มเลยละกันผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาธรรมดาไม่หล่อ ไม่ขี้เหร่จัดว่ากลางๆ โดยปกติเป็นคนขี้อาย ครับไม่เคยจีบใครก่อน แต่ก็มีสาวๆมาชอบเหมือนกันโดยที่เป็นคนขี้อายก็เลยไม่มีแฟนสักที ก็เอาแต่เรียนผมจัดว่าเป็นคนที่เรียนดีคนหนึ่ง จนเรียนจบเริ่มทำงานก็เริ่มรู้สึกเหงาเวลาที่เห็นคนเดินจับมือกันในขณะที่เราต้องเดินคนเดียว แล้วเธอก็ผ่านเข้ามาในชีวิตผม เธอก็ทำงานที่เดียวกับผมนั่นเอง ตอนนั้นใครที่เคยมีรักแรกพบก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกับผมแน่ๆ เราสองคนสนิทกันเร็วมาก ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเธอเองก็ปิ๋งผมเหมือนกัน ด้วยความที่ใจมันตรงกันเราก็เลยเป็นแฟนกันหลังจากที่รู้จักกันเพียงเดือนครึ่งเท่านั้น หลายคนอาจบอกว่ามันเร็ว แต่ว่าทุกอย่างมันลงตัวไปหมด เราคุยกันทุกเรื่องจนมาถึงเรื่อง sex
ต้องบอกก่อนว่าตอนนั้นผมยังไม่เคยมีอะไรมาก่อน และ อยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่าคนที่ยังไม่เคย ก็ยังหวังให้คนรักยังบริสุทธิ์อยู่เหมือน ในความคิดของผมมันคงเป็นอะไรที่สวยงามถ้าได้มีอะไรครั้งแรกด้วยกัน ซึ่งตอนนั้นผมก็เลยถามตรงๆไปว่าเธอเคยมีอะไรแล้วหรือยัง ซึ่งเธอก็อึ้งไปพักหนึ่งแล้วตอบว่า "ถ้าเราตอบว่าเคยแล้ว เธอจะยังรักเราอยู่หรือเปล่า" ตอนนั้นใจผมก็เต้นมากแต่ฝืนตอบไปว่า รักสิ แล้วเธอก็บอกว่าเธอเคยแล้วกับแฟนเก่า ซึ่งเธอบอกว่าเพราะความหล่อ และ คารมดี ทำให้เธอยอม ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นผมเหมือนทั้งโลกหยุดนิ่ง และอึ้งไปนานเลยบอกว่าปวดหัวแล้ววางสายเข้านอนเลย ตลอดทั้งคืนคิดฟั้งซ่านไปหมด คำถามมีเต็มหัว ทำไมเธอง่ายจัง ทำไมถึงยอม นึกภาพบัดสี ระหว่างแฟนเก่ากับเธอ ทั้งหมดนั้นทำให้ผมรับไม่ได้ คุณต้องเข้าใจนะว่าผู้ชายที่ยังไม่เคยส่วนมากจะคิดเหมือนผม(กลุ่มผมส่วนมากเป็นเด็กเรียนดีเรื่องอย่างนี้ไม่ค่อยยุ่งนักทำให้หลายคนยังซิงๆอยู่) เพื่อนผมแต่ละคนก็คิดอย่างผมทั้งนั้น คืนนั้นก็เลยตัดสินใจว่า เอาล่ะ มันคงจบลงแล้ว พรุ่งนี้จะไปบอกเลิกกับเธอ ทั้งๆที่ผมรักมาก และเจ็บมาก ผมหลับพร้อมกับน้ำตาท่วมหมอน
พอตอนเช้าเจอเธอที่ที่ๆ ทำงาน คำแรกที่เธอพูดคือเมื่อคืนเป็นอะไรหรือเปล่า ภาพที่ผมเห็นก็คือ เธอยังสวยเหมือนวันแรกที่ผมเจอ ยังน่ารัก ยังยิ้มแย้ม ยังแจ่มใส ไม่ต่างจากวันแรกที่ผมตกหลุมรัก ผมเลยคิดได้ว่าที่เรารักมันคือสิ่งเหล่านี้ต่างหาก ไม่เกี่ยวกับเรื่อง sex เลย เรื่องที่จะบอกเลิกก็หมดจากหัวไปทันที
ทุกวันนี้ก็คบกันมากว่า 7 ปีแล้วและผมคิดว่ารักครั้งนี้จะเป็นรักครั้งแรกและครั้งเดียวของผม เป็นพลังที่ทำให้ผมมีชีวิตอยู่ เป็นจุดหมายปลายทาง เป็นแรงบันดาลใจ ผมยอมรับว่าบางครั้งนานๆทีก็นึกถึงเรื่องเธอกับแฟนเก่าบ้างซึ่งทุกครั้งผมจะหงุดหงิดใจมาก จนพาลไปทะเลาะบ่อยๆโดยไม่ได้บอกเธอว่าผมโกรธเรื่องอะไร ดูเธอเสียใจมาก แต่เธอก็ยังดีกับผมเสมอมา
จนวันนี้ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า ผมเลิกคิดแล้วเรื่องเธอจะมีอะไรกับใครมาก่อน มันไม่สำคัญเลย เพราะสิ่งที่เธอให้ผมนั้นมันมีค่ามากกว่าแค่เยื่อบางๆ เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตผม นั่นคือ ความรัก ความห่วงใยที่เธอให้ผม
เธอคือแรงบันดาลใจให้ผมก้าวเดินต่อไป สิ่งเดียวที่ผมต้องการจากเธอคือขอให้ผมเป็นคนสุดท้ายของเธอ
...ผู้ชายที่ได้เป็นรักแรกของผู้หญิง อาจจะเป็นคนโชคดี
แต่ผู้ชายที่ได้เป็นรักสุดท้าย สิ เป็นคนโชคดีที่สุด...
...ตอนนี้ผมก็ยังรักเธอและจะรักตลอดไป แม้เธอจะไม่อยู่ฟังคำนี้ก็ตาม...