12 ตุลาคม 2545 00:26 น.

จดหมายจากหัวใจ

ต้ยนุ้ย

เขาชอบผู้หญิงขาว สวย หุ่นดี ซึ่งคือสิ่งที่ฉันไม่มี ฉันมีแต่ตรงกันข้าม คือ 
หุ่นก็ไม่ดี ไม่สวย ไม่ขาว แต่ฉันนิสัยดี เขาเคยบอกฉันว่าเขารักใครยาก 
ตรงนี้ทำให้ฉันคิดได้ว่าเขาคงไม่ชอบฉันแน่นอน แต่ฉันกับเขาคุยกันไปได้
ระยะหนึ่ง และฉันกับเขาก็ได้เจอกันเป็นครั้งแรกก็รู้สึกดี ฉันเจอเขาครั้งแรก
ฉันเริ่มชอบเขามากขึ้น แต่ฉันรู้ดีเขาไม่ชอบฉันเลย แต่ไม่นานกี่วันจำไม่ได้
ฉันก็ได้ช่วยเขาทำงานส่งอาจารย์ ฉันกับเขาเริ่มสนิทกันคุ้นเคยกันมากขึ้น
          หลังจากที่เราเจอกันและฉันทำงานให้เขาได้ 1 เดือน ฉันกับเขาและ
เพื่อนๆฉัน และเพื่อนเขาก็ไปเที่ยวกันเป็นค่าจ้างการทำงานเพราะฉันกับ
เพื่อนต้องการให้เขาไปเที่ยวด้วยแล้วพวกเราก็ได้ไปกัน ที่หาดแม่รำพึง 
ตอนที่พวกเราไปฝนตกทั้งวันไม่ดีเลย แล้วพอไปถึงที่พักฉันคิดว่าฉันจะได้
นอนกับเพื่อนฉัน แต่เปล่าเลย ฉันได้ไปนอนกับเขา ฉันคิดในใจฉันเสร็จ
เขาแน่ และในคืนนั้นฉันไม่คิดว่า ฉันกับเขาจะมีอะไรกัน 
           หลังจากวันนั้นอะไรๆก็เปลี่ยนไปสำหรับตัวฉันที่เหมือนจะกลายเป็น
รักเขา แต่ฉันไม่รู้ว่าเขารักฉันหรือเปล่า หลายเดือนผ่านไป อย่างว่าฉันได้
คบกับเขาเป็นแฟนแล้วก็ต้องมี ทะเลาะโกรธกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ฉันก็
รักเขา เขาสิไม่ได้รักฉันเลย กับกลายเป็นว่ารำคาญฉันมากกว่า ที่เขาอยู่
เพราะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาทำ
           เวลาผ่านไป 7  8 เดือนฉันก็ได้รู้ว่าที่ผ่านมาเขาไม่ได้รักฉันเลย 
ฉันรักเขาข้างเดียว แต่ฉันก็ทำทุกอย่างเพื่อเขา ให้เขาพอใจ เขามีน้องๆหลาย
คนทีเดียว ฉันไม่ชอบสักเท่าไหร่ เพราะน้องๆชอบเขารักเขาทั้งนั้น และที่
สำคัญน้องๆของเขาอยากได้เข้าเป็นแฟนด้วย จึงทำให้ฉัน รำคาญและ
เบื่อมากๆ แล้วเขาก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ จนปัจจุบัน
          ปีกว่าผ่านไปแล้วฉันรู้อะไรๆมากขึ้น ในส่วนที่เป็นเขากับฉัน
 ฉันมีความรู้สึกว่า เขาก็ดีกับฉันเหมือนกัน แต่ในสายตาฉันเขาเป็นคนที่
น่ารักคนหนึ่ง เขาขี้งอน ขี้น้อยใจ แม้เขาจะไม่ยอมรับก็ตามทีแต่พฤติกรรม
มันฟ้องน่ะ ฉันรู้จักเขามากขึ้น และฉันก็รักเขามากขึ้น
          และฉันก็รู้ว่าเขารักฉันมากแค่ไหน เขาก็รู้ว่าฉันรักเขาแค่ไหน 
ฉันไม่มีอะไรแล้ว อยากบอกว่า ตูนรักเกียร์ น่ะ ไม่สิเรารักกัน ขอให้เกียร์
รักตูนคนเดียวและทุกๆที่ ที่มีเกียร์ก็มีความสุขแล้วสุดที่รักของตูน

                                              รักเกียร์ 
                                                  ตูน				
14 สิงหาคม 2545 22:48 น.

กล่องเปล่า...

ต้ยนุ้ย

วันที่ครอบครัวเขาเคยอบอุ่น มีพ่อ แม่ น้อง พร้อมหน้า แม้ครอบครัวของเขาอาจจะไม่รวยมากมาย แต่เขาเคยได้ในสิ่งที่เขาอยากได้  มีในสิ่งที่เขาอยากมี พ่อทำงานบริษัท แม่เป็นแม่บ้าน คอยดูแลบ้านช่องและอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้สามียามกลับจากทำงาน เขาจำได้ว่า เขาเคยรบเร้าให้แม่ซื้อขนมปังกล่องนี้ให้ เมื่อตอนที่พ่อและแม่พาเขาไปห้างพาต้า รสชาดของขนมปังอาจไม่อร่อยมากมายนัก แต่กล่องของมันสวยงามยวนใจ ล่อให้เด็กอยากเป็นเจ้าของ กล่องขนมปังกลม ๆ ที่พิมพ์ลายหุ่นยนต์ ตัวการ์ตูนสวยงาม เมื่อขนมปังหมดไป แม่บอกให้เขาเก็บออม เอาค่าขนมที่เหลือจากการไปโรงเรียนมาเก็บไว้ในกล่องขนมปังนี้ เขาเชื่อแม่ .. ห้าบาท สิบบาท เก็บไว้ในกล่อง  วันนั้นพ่อกลับมาบ้านพร้อมบอกแม่ว่าโดนไล่ออกจากงาน แต่แม่เป็นผู้หญิงเข้มแข็ง แม่บอกว่าเราจะสู้ด้วยกัน 
แม่ตื่นแต่เช้า ทำกับข้าว ให้พ่อเข็นออกไปขาย  เขาและน้องไปกับพ่อ ช่วยพ่อเดินเสริฟข้าว เช็ดโต๊ะ ล้างจานเขายังจำได้ถึงวันฝนตก ไม่มีที่ให้หลบฝน วันที่ต้องช่วยพ่อเก็บของวิ่งหนีตำรวจ ได้เงินบ้าง ขาดทุนบ้าง แม่ให้ค่าขนมเขาไปโรงเรียน  แม่บอกเงินเหลือ เขาเชื่อแม่ .. แต่เงินที่มีเหลือน้อยลง 1 บาท ห้าบาท เก็บไว้ในกล่อง จนถึงวันที่เงินทุนทั้งหมดที่มีหมดไป เพราะของขายไม่ดีบ้าง  บางทีวิ่งหนีตำรวจข้าวของหกกระจายบ้าง วันนึงพ่อบอกว่าได้งานใหม่แล้ว แต่ต้องไปอยู่ที่บ้านเจ้านาย พ่อบอกให้เขาดูแล แม่และน้อง แล้วพ่อจะส่งเงินมาให้  ความหวังกลับมาสู่ครอบครัวของเขาอีกครั้ง  พ่อหายไปหนึ่งเดือน วันนั้นพ่อให้คนส่งจดหมายพร้อมเงินมาให้ พ่อบอกว่าสบายดี เจ้าของบ้านนี้ดีกับพ่อมาก เก็บเงินนี้ไว้ใช้จ่ายนะลูก ๆ  เขายิ้ม แม่ยิ้ม น้องยิ้ม  เขาได้เงินค่าขนมจากแม่เพิ่มขึ้น  ท้องเขาอิ่มขึ้น  เงินเหลือ เขาเชื่อแม่ .. ห้าบาท สิบบาท .. เก็บไว้ในกล่อง  ผ่านไปสามเดือน ข่าวคราวของพ่อหายไป  แม่ไม่รู้จะไปตามที่ไหน และเริ่มล้มป่วยลง เขากับน้องเริ่มหางานทำ  มีคนชวนไปขายดอกไม้ตามร้านอาหาร 
เขาจูงมือน้องไป . คืนหนึ่ง คืนหนึ่ง เขาต้องเดินไปตามร้านอาหาร  ตั้งแต่สองทุ่ม ถึงตีสอง ตีสาม น้องเหนื่อย ยุงกัด  เขาเหนื่อย ยุงกัดเขาเช่นกัน  เขาบอกน้องให้อดทน แม่ไม่สบาย  ถ้าเราไม่ทำ เราจะเอาอะไรกินกัน  เขาคิดถึงพ่อ พ่อหายไปไหน ????  เขาพยายามเก็บเงินต่อไปเหมือนเดิม ห้าบาท สิบบาท ห้าบาท สิบบาท เขาหันไปมองแม่และน้องที่นอนหลับเคียงกัน  อาการของแม่ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น  ข่าวคราวจากพ่อยังไม่มีมา วันนี้เขาและน้องไปขายดอกไม้เหมือนเคย ที่ร้านอาหารหรูหรา ใหญ่โต ซึ่งเขารู้ว่าคนที่จะมากินได้นั้นต้องมีเงิน  เขาลูบท้องเบา ๆ วันนี้ตั้งแต่เช้า เขาพึ่งได้กินข้าวไปหนึ่งมื้อ  ช่างมันเถอะ ทำยังไงได้ ถ้าเขาอิ่ม น้องกับแม่ก้อต้องอด  เงินในกล่องเกือบจะเต็มแล้ว . เขายิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก พรุ่งนี้จะได้พาแม่ไปหาหมอซักที  แม่ไม่รู้ว่าเขามีเงินเก็บ เขาจะทำให้แม่ประหลาดใจ และภาคภูมิใจในตัวเขา .. 
เขาจูงมือน้องตรงเข้าไปที่โต๊ะ ๆ หนึ่ง  ดูจากท่าทางแล้ว คงจะมาเลี้ยงวันเกิดกัน ไม่แน่วันนี้เขาอาจจะโชคดีขายดอกไม้ได้มาก  เอามาหมดนั่นเลยไอ้หนูลุงเหมาให้เมีย  เอ๊ะ ทำไมเสียงช่างคุ้นเคยจริงนะ  ใช่แล้ว เสียงเหมือนพ่อของเขา !!!!  เขาเงยหน้าดู  พ่อ พ่อครับ เขาและน้องทิ้งดอกไม้โอบกอดชายคนนั้นไว้อย่างแนบแน่น 
อะไรน่ะศุภเกียรติ !!! 
เสียงแหลมสูงกราดเกรี้ยวของหญิงสาวดังขึ้นปานฟ้าร้อง หญิงสาวหน้าตาสวยงาม แต่บัดนี้บูดบึ้ง เคียดขึ้ง  เสื้อผ้า เครื่องประดับ มองดูก้อรู้ว่า เป็นของดีราคาแพง  ไม่มีอะไรครับคุณหนู .. เด็กบ้านี่จำคนผิด  พ่อ !!!!!! .. สายตาที่พ่อมองเขาเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก บัดนี้ สีและสภาพของมันได้ซีดจางไปตามเวลา เขาไม่พูดอะไร จับมือน้องแล้วลุกหนี  เอ้าไอ้หนู เอาไปร้อยนึง . ทีหลังอย่าจำคนผิดแบบนี้อีกนะเอ็ง  น้องจะยื่นมือไปรับ แต่เขาดึงมือน้องไว้ แล้วฉุดน้องให้วิ่งออกไปจากที่นั่นโดยไม่หันมองเบื้องหลัง  เขากลับมาบ้าน . ร้องให้ . เล่าให้แม่ฟัง  แม่ไม่พูด  กุมมือเขาร้องให้  น้องคงเหนื่อยมาก หลับไปแล้ว  เขาบอกแม่ว่าเขามีเงิน  เขาจะเลี้ยงแม่ เลี้ยงน้อง  พรุ่งนี้เขาจะพาแม่ไปหาหมอ ..  เขาเทเงินทั้งหมดออกจากล่องขนมปังเก่า ๆ จากสีแดงสด กลายเป็นสีแดงซีดด้วยแดดลม ถลอก เป็นบางแห่ง  สภาพที่เคยกลม กลับกลายเป็นบุบบิบบู้บี้  เขากับแม่ช่วยกันนับเงินอย่างมีความสุข เขาเก็บเงินได้ทั้งหมด 3209 บาท  . แม่ออกมาจากห้องตรวจ หน้าตาเงียบขรึม  
แม่ครับ หมอบอกว่าแม่จะหายเมื่อไหร่ครับ
แม่ยิ้มหน้าเซียว ๆ .. ไม่นานนี้หรอกลูก
แม่ไปจ่ายเงินค่ายา  ค่ารักษาทั้งหมด 3029 บาท
แม่บอกว่าวันนี้เราจะกินให้อิ่มนะลูก แม่จะหายแล้ว แม่จะทำงาน
วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดของเขา .. 
แม่กำลังจะหาย เขา น้องและแม่ กินข้าวอร่อย กันอย่างอิ่มหนำ มีปลาทอดที่เขาชอบ มีแกงจืดไข่น้ำ ที่น้องชอบ  มีขนมเค้ก .. เขามีความสุข  แต่ทำไมแม่ทำหน้าเศร้า  เขาหันไปมองที่วางกล่องขนมปังของเขา บัดนี้มันว่างเปล่า . ช่างมัน อีกไม่นานแม่จะหาย เขาจะเก็บเงินอีกครั้ง เขาจะกลับไปเรียนหนังสือ  น้องจะได้เรียนหนังสือเช่นกัน  เอ๊ะ  ทำไมเขาปวดหัว ตาลาย ทรมาน เขาหันไปมองน้อง น้องกำลังชัก น้ำลายเริ่มมาฟูมที่ปาก เขาหันไปมองแม่ แม่มีสีหน้าเจ็บปวดเช่นกัน  .. แม่ขอโทษนะลูก  แม่กำลังจะตาย . แม่เป็นโรคที่รักษาไม่หาย  แม่ไม่อยากให้ลูกอยู่บนโลกนี้อย่างทรมาน 
เขาพูดไม่ออก ความเจ็บปวดทรมานแล่นมาจุกที่คอหอย
เขาตะเกียกตะกายคลานไปที่กล่องขนมปังเก่า ๆ ที่ว่างเปล่า
เขาหวังว่าเขาจะได้เก็บเงินเต็มกล่องนี้อีกครั้ง
เขาจะสู้ เขาจะพยายามเก็บเงิน 
บาท ห้าบาท สิบบาท บาท ห้าบาท สิบบาท
บาท ห้าบาท สิบบาท บาท ห้าบาท สิบบาท
บาท ห้าบาท สิบบาท บาท ห้าบาท สิบบาท
บาท ห้าบาท สิบบาท บาท ห้าบาท สิบบาท
บาท ห้าบาท สิบบาท บาท ห้าบาท สิบบาท
บาท ห้าบาท สิบบาท บาท ห้าบาท สิบบาท
บาท ห้าบาท สิบบาท บาท ห้าบาท สิบบาท				
14 สิงหาคม 2545 22:46 น.

555

ต้ยนุ้ย

บ่อศักดิ์สิทธิ์ หนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินมาถึงบ่อศักดิ์สิทธิ์ที่หลายคนมาอธิษฐานขอพร ฝ่ายชายเริ่มโน้มตัวไปข้างหน้า ตั้งจิตอธิษฐานและโยนเหรียญลงไป ฝ่ายภรรยาอยากอธิษฐานเช่นกันแต่เธอโน้มตัวไปมากเกินจนเสียศูนย์ ตกลงไปในบ่อ แล้วจมน้ำตาย สามีพูดขึ้นเบาๆว่า "ว้าว ได้ผลจริงๆด้วย" 

เด็กฉลาด "โตขึ้นอยากเป็นอะไร หนูน้อย" "อยากเป็นหมอครับ" "ทำไมล่ะครับ" "ก็เพราะว่าเป็นอาชีพเดียวที่ผมสามารถสั่งให้ผู้หญิงแก้ผ้าได้ และยื่นใบเสร็จให้สามีหล่อนจ่ายเงินนะสิครับ" 

เรื่องของหู สาวสวยผมบลอนด์เดินเข้ามาหาหมอด้วยหูไหม้เกรียมทั้งสองข้าง คุณหมอถามถึงสาเหตุที่ทำให้หูเป็นอย่างนั้น "พอดีโทรศัพท์ดังน่ะคะ ดิฉันรีดผ้าอยู่เลยหยิบเตารีดขึ้นนาบหู" "แล้วอีกข้างหนึ่งล่ะครับ" "พอดีเขาโทรกลับมาอีกทีน่ะค่ะ" 

สัมภาษณ์ บทสัมภาษณ์เศรษฐีคนหนึ่งเป็นดังนี้ คำถาม:ใครอยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการเป็นเศรษฐีของคุณ เศรษฐี: ภรรยาผมครับ คำถาม: ว้าว เธอต้องเป็นผู้หญิงเก่งทีเดียว ก่อนที่จะแต่งงานกับเธอคุณเป็นอะไรครับ เศรษฐี: มหาเศรษฐี 

นัดบอด "เป็นไงบ้าง นัดบอดของเธอ" นิสิตสาวถามเพื่อนร่วมห้อง "แย่ที่สุดเลย" สาวเพื่อนร่วมห้องตอบ "นัดครั้งแรกก็เล่นเอารถโรลสลอยซ์มาโชว์ปี 1932 ซะแล้ว" "ว้าว! นั่นมันรถสุดยอดแพงเลย แล้วมันไม่ดีตรงไหนจ๊ะ" "ก็หมอนี่เป็นเจ้าของดั้งเดิมตั้งแต่ปี 1932 โน่นแล้ว" 

ผลสอบ หลังจากที่กลับเข้าถึงบ้าน พ่อเจ้าระเบียบสอบถาม ถึงผลสอบของลูกชายตัวดีทันที "เอาผลสอบมาดูหน่อยสิ" ลูกชายตอบกลับมาทันทีว่า "เพื่อนขอยืมไปน่ะครับ เห็นว่าจะเอาไปหลอกให้พ่อแม่มันตกใจเล่น" 

เสียสละ ลูกชาย: แม่ครับ ตอนที่อยู่กับพ่อบนรถเมล์เมื่อเช้านี้ พ่อบอกให้ผมสละที่นั่งให้ผู้หญิงสาวคนหนึ่งครับ แม่: ดีจ้ะลูก ลูกทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ลูกชาย: แต่แม่ครับ ผมนั่งอยู่บนตักพ่อนะ 

วินิจฉัย หมอ: ผมเสียใจที่ต้องบอกคุณว่า คุณมีเนื้องอกในสมอง มิสเตอร์บีน: ว้าว!!! (กระโดดตัวลอย ให้ทำท่าตามด้วยเพื่อความมันส์) หมอ: คุณเข้าใจที่ผมพูดหรือเปล่า มิสเตอร์บีน: เข้าใจสิครับ คิดว่าผมโง่เหรอ หมอ: แล้วทำไมคุณถึงลิงโลดนัก มิสเตอร์บีน:ก็นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าผมก็มีสมองเหมือนกัน 

รหัสเอทีเอ็ม มิสเตอร์บีนกำลังยืนต่อแถวกดเอทีเอ็มอยู่หลังเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อน: ดูอะไรอ้ะ มิสเตอร์บีน: ฉันรู้รหัสของแกแล้ว ฮิ ฮิ เพื่อน: โอเค บอกมาสิว่าเบอร์อะไร มิสเตอร์บีน: ดอกจันทร์สี่ตัว!!! 

คณิตศาสตร์ ในห้องเรียนวิชาเลข เมื่อตอนที่มิสเตอร์บีนยังเป็นเด็กนักเรียน คุณครู: 5 บวก 4 ได้เท่าไร มิสเตอร์บีน: 9 ครับ คุณครู: แล้ว 4 บวก 5 ได้เท่าไร มิสเตอร์บีน: คุณครูกำลังจะหลอกผมใช่ไหม คุณครูเพิ่งกลับตัวเลขน่ะเอง คำตอบคือ 6 ครับ!!!! 

แก้ปัญหา สามี: เธอพกรูปฉันไว้ในกระเป๋าเสมอ ทำไมหรอ ภรรยา: อ๋อ ก็ถ้ามีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน ฉันก็จะดูรูปเธอ แล้วปัญหาก็หายไปเลย สามี: เห็นมั้ย ว่าฉันเป็นสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเธอขนาดไหน ภรรยา: ใช่ ฉันมองภาพเธอแล้วก็พูดกับตัวเองว่า "ปัญหาอะไรจะมาหนักหนากว่านี้อีกนะ" 

สอนลูก ครั้งหนึ่งเด็กน้อยตามแม่เข้าไปในโบสถ์ เขารู้สึกปวดท้องเบาเลยบอกแม่ "แม่ครับ ผมอยากไปฉี่" แม่ตอบว่า "อย่าพูดคำว่าฉี่ในโบสถ์สิจ๊ะลูก คราวหน้าถ้าลูกจะไปฉี่ ให้บอกว่า 'กระซิบ' เพราะว่าสุภาพกว่า นะจ๊ะ" วันอาทิตย์ถัดมา เด็กน้อยนั่งอยู่กับพ่อในโบสถ์ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เขาอยากเข้าห้องน้ำอีกแล้ว เด็กน้อยจึงรีบบอกพ่อ "พ่อครับ ผมอยากกระซิบแล้ว" พ่อตอบทันที "เอาสิครับลูก กระซิบข้างหูพ่อนี่เลย" 

คำตอบ เด็กชายตัวน้อยตามพ่อไปที่ร้านขายยาและเห็นกล่องถุงยางวางขายอยู่ เด็กน้อย "พ่อครับ ทำไมเขาถึงต้องทำกล่องถุงยางอันเดียวด้วยครับ" พ่อ : "กล่องพวกนี้สำหรับเด็กมัธยมใช้ในคืนวันศุกร์น่ะลูก" เด็กน้อย "แล้วทำไมเขาต้องทำกล่องแบบสามอันด้วยล่ะ" พ่อ "สำหรับพวกนักศึกษามหาวิทยาลัยใช้ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ น่ะสิลูก" เด็กน้อย "แล้วทำไมถึงต้องมีกล่องแบบ 12 อันด้วยล่ะครับ" พ่อ "อันนั้นสำหรับพวกแต่งงานแล้วน่ะลูก ลูกนับเดือนได้มั้ย มกรา,กุมภา, มีนา"				
14 สิงหาคม 2545 22:39 น.

หนังสือสะสม

ต้ยนุ้ย

วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง แอนดี้ก็ก้มหน้างุดและทำท่ากระสับกระส่าย เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิด แม้จากระยะไกล ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองพ่อตาโตด้วยความหวาดหวั่น รอคอยที่จะถูกทำโทษ 

พ่อหยิบหนังสือขึ้นมามอง แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ หนังสือทุกเล่มมีความหมายต่อพ่อมาก หนังสือคือความรู้ และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือสะสมราคาแพง แต่ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นพ่อที่รักลูกมาก 

สิ่งที่พ่อทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นยอดเยี่ยมมาก แทนที่ท่านจะลงโทษหรือดุแอนดี้ หรือแม้แต่ตำหนิความซุกซน พ่อกลับนั่งลง หยิบปากกาในมือแอนดี้ขึ้นมาถือไว้ แล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงในหน้าหนังสือสือสะสมราคาแพงนั่นเสียเอง 

พ่อเขียนที่ข้างๆ ลายเส้นที่แอนดี้ขีดว่า 

"ภาษาของแอนดี้ เมื่ออายุสองขวบ ต่อไปนี้ ไม่ว่าครั้งไหนที่พ่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเปิด พ่อก็จะเห็นใบหน้าน้อยๆ ที่น่ารักและดวงตาที่สดใสของลูก และจะขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเด็กน้อยคนนี้มาให้ขีดเขียนบนหนังสือแสนหวงของพ่อ 

ลูกทำให้หนังสือเล่มนี้ของพ่อมีความหมาย หมือนกับที่พี่ๆ ของลูกนำความหมายมาสู่ชีวิตของพ่อเหมือนกัน" 

"ว้าว..." ฉันคิด นี่หรือคือการลงโทษของพ่อ? 

นานๆ ครั้งฉันก็จะหยิบหนังสือที่สะสมไว้มาให้ลูกหลานของฉันขีดเขียนเล่น 

ทุกครั้งที่มองดูลายมือหยุกหยิกเหล่านั้น ฉันก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อทำในวันนั้น 

พ่อได้สอนให้ฉันรู้ว่า...'อะไรกันแน่ที่มีค่าต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง' 

ซึ่งนั่นก็คือ 'คนที่เรารัก ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ' 

...แล้วคุณละค่ะ เคยลงโทษใครด้วยความรักหรือยัง? ^_^				
4 สิงหาคม 2545 01:15 น.

อดีตที่ผ่านมา

ต้ยนุ้ย

พี่ต๊อก(ชื่อสมมุติ) แกก็ลงมาเปิดประตู หน้าตาเหมือนเพิ่งตื่นพอพี่ต๊อกเห็นว่าเป็นพวกเรา แกก็อายม้วน บอกว่ามากันได้อย่างไรจริงๆ วันนั้นเป็นวันเกิดพี่ต๊อก แล้วเราก็ไปกินเหล้าตามคำชวนเขาพี่เขา(ไปเสียไกลเลย) เราร่วมกัน happy birthday ให้พี่เขา ตอนที่กำลังยกของลงจากรถแฟนพี่ต๊อกก็มาช่วย เราได้แต่ตะลึงในความงามของแฟนพี่ต๊อกหน้าเธอสวยยิ่งกว่าดาราบ้านเราอีก หุ่นก็สูงขาว เธอเป็นคนญี่ปุ่น พูดไทยได้บ้างเราหันไปค้อนพี่ต๊อกที่มีของดีๆ แบบนี้โดยไม่เคยบอกกันหลังเก็บของเสร็จเราก็พากันออกไปเที่ยวโดยมีพี่ต๊อกนำขบวนสายตาของพวกเรานับ 10 คู่ลุกเป็นไฟทุกครั้งเวลาที่พี่ต๊อกเล่นกับแฟนพวกเราเลยแอบค้อนพี่ต๊อกว่า สนใจแต่แฟนไม่เคยสยใจเลยน้องๆ เนี่ยพี่ต๊อกแกก็ยิ้มๆ ไม่พูดอะไร จนตกกลางคืน จริงๆ ผมไม่กินเหล้าผมกะมานั่งคุยนั่งเล่นกับพวกพี่ๆ เขาเฉยๆหัวข้อในวงเหล้าก็ไม่พ้นเรื่องแฟนพี่ต๊อกนั่นแหละเราชมว่าแฟนพี่เขาดีอย่างนั้นดีอย่างงี้ ไม่เหมาะกับพี่ต๊อกเลย
จนดึกๆ พี่แกนึกครึ้มยังไงไม่รู้ถามว่า เอ็งเชื่อไหม แฟนกูเคยแสดงหนังเอ็กซ์พวกเราหยุดเงียบ วงเหล้ากลายเป็นป่าช้าในทันใด ตอนแรกเรานึกว่าพี่ต๊อกพูดเล่นพี่ต๊อกแกหันไปมองที่ห้องนอนดูว่าแฟนแกหลับจริงๆ หรือยังแล้วแกก็กลับมานั่งที่โต๊ะ มีกลุ่มพวกเราที่หน้าเสียไปแล้วพี่ต๊อกหน้าเครียด ดูไม่เหมือนอาการเมาเหล้าเลยพี่ต๊อกเริ่มเล่าชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งให้ฟัง

แฟนพี่ต๊อกเป็นคนที่สวยจัดเป็นไอดอลคนหนึ่งตอนที่อยู่ญี่ปุ่นแต่ไม่ดังเพราะมีคนอื่นๆ ที่ใช้เส้นสายในวงการ (ขอใช้คำว่าเธอแทนแฟนพี่ต๊อกนะ)เธอเป็นลูกสาวของนายอำเภอหญิงคนหนึ่งในเกียวโต มีคนมาจีบเธอมากมายงานแสดงโฆษณาก็มีเยอะ เธอเข้าประกวดทุกงานที่มีจัด และส่วนใหญ่เธอก็จะชนะจุดหักเหของชีวิตเธอคือวันหนึ่ง มีงานถ่ายแบบที่สตูดิโอแห่งหนึ่งทุกทีเธอจะมีแม่มาด้วยแต่ครั้งนี้แม่ติดธุระ เธอจึงมากับเพื่อนคนอื่นๆเมื่อถ่ายแบบเสร็จ ผู้กำกับก็ให้เธออยู่ก่อนแล้วทุกคนก็เหมือนพร้อมใจกันทิ้งเธอไว้ในห้องสตูดิโอคนเดียว มีเสียงเคาะประตู เธอก็ไปเปิดมีกลุ่มชายยากูซ่านับ 10 คนยืนอยู่ที่หน้าประตูหนึ่งในจำนวนนั้นมีลูกนักการเมืองคนดังซึ่งเคยมาจีบเธอแต่เธอไม่สนอยู่ด้วยพวกมันเข้ารุมทำร้ายเธอ เธอเคยคิดแบบผู้หญิงคนอื่นๆคืออยากจะเก็บความบริสุทธิ์ไว้ตอนแต่งงานแต่แล้วเธอก็ต้องเสียมันไป

มีหลายคนเคยบอกว่าเวลาที่มีเซ็กซ์กันแม้จะไม่ได้รักแต่อารมณ์จะคล้อยตามไปอย่างมีความสุขเธอบอกว่ามันเป็นคำโกหกทั้งเพ เธอไม่ได้มีความสุขเลยมันยิ่งกว่าตกนรกด้วยซ้ำ เวลาที่มีร่างชายแปลกหน้ามาทาบบนร่างกายเธอ
มันเหมือนมีมัจจุราชมาฆ่าเธอเธอคิดถึงแม่มาก เธอร้องไห้ไปจนน้ำตาไม่มีจะให้ไหลอีกพวกชายพวกนั้นเสร็จกิจ ก็ทิ้งเธอนอนกองอยู่ตรงนั้นแหละเธอซมซานกับมาบ้าน เธอเข้าสวมกอดกับแม่โดยที่แม่เธอก็ร้องไห้ด้วย เพราะก่อนหน้าที่เธอจะกลับมามีวิดีโอส่งมาเป็นภาพที่ลูกสาวของตนกำลังโดนข่มขืนคิดดูเองนะว่าหัวใจแม่จะโดนขยี้หนักมากขนาดไหนวันต่อมาก็มีรถจากยากูซ่ามารับเธอ แต่แม่เธอไม่ให้ไปตัวเธอเองก็ไม่อยากจะไปยากูซ่ายหูโทรศัพท์ โทรไปหาบุคคลคนหนึ่ง ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นใครแต่คนๆ นี้มีความสำคัญต่อการเมืองญี่ปุ่นมากแม่ร้องไห้อีก แล้วหันมามองหน้าเธอแล้วสวมกอดเธอรู้ได้ทันทีว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป เธอก้าวขึ้นรถมันเหมือนเธอจะต้องก้าวไปยังแดนประหารเธอถูกส่งเวียนไปหานักการเมืองหลายคนก่อนที่ยากูซ่าจะส่งเธอไปถ่ายหนังเอวีแรกๆ หนังพวกนี้จะเซ็นเซอร์ช่วงล่างให้เธอ เวลาก่อนถ่ายทุกครั้งพวกยากูซ่าจะบังคับให้เธอเสพยาบางครั้งก็จะลืมความเจ็บปวดได้ชั่วขณะหนึ่งแต่พอถึงเวลาทำแบบนั้นจริงๆ เธอกลับเจ็บปวด ถึงกับร้องออกมา(เพิ่งรู้ว่าที่เสียงดังๆ นั่นไม่ใช่การแสดง)แม้บางทีเธอจะมีอารมณ์ร่วมแต่ความรู้สึกเธอก็ไม่ต่างจากขยะอะไรเลย

วันหนึ่งเธอจะเห็นผู้ร่วมชะตากรรม ซึ่งเป็นผู้หญิงนับหมื่นคนใน 1 ห้องสตูดิโอผู้หญิงเหล่านั้นเวลาไปโรงเรียน ก็มักจะเจอสายตาจากเพื่อนผู้หญิงด้วยกันว่าแรด ร่านบ้างล่ะ เพื่อนผู้ชายก็ชวนเธอขึ้นเตียงอย่างเดียวเธอรู้สึกได้เลยว่า ชีวิตคนเรามันไม่ได้เหมือนการ์ตูนที่เคยอ่านเลย

หลายครั้งที่เธอคิดจะฆ่าตัวตายจริงๆ ก็มีเพื่อนดาราเอวีของเธอคนหนึ่งฆ่าตัวตายข่าวออกได้วันเดียว หลังจากนั้นก็ข่าวโดนปิด เธอสงสารแต่แม่แม้เงินที่ยากูซ่าให้มา จะใช้ทั้งชีวิตก็ไม่หมด แต่เธอก็อยากจะเลิกเธอเคยหนีไปอยู่....(อะไรสักที่นี่แหละในญี่ปุ่นผมจำชื่อไม่ได้)แต่ยากูซ่าก็ยังตามไปเอาเธอกลับมาแสดงหนังลามกอีกจนได้ความนิยมของเธอมากขึ้นจนติดหนังเอวีท๊อป 1 ของญี่ปุ่นไปหลายเดือนมากเธอไม่รู้ว่าจะภูมิใจกับมันดีหรือขยะแขยงกับมันดีจนในที่สุดเธอก็หมดความนิยม แต่ยากูซ่าก็ยังอุตสาห์เอาเธอไปศัลยกรรมและส่งเธอไปขายตัวที่ต่างประเทศเกือบปี

นับจากวันที่เลวร้ายที่สุดของเธอ 6 ปี เธอรู้สึกเหมือนทุกวันคืออเวจีดีๆ นี่เองยากูซ่ายกเลิกสัญญาถ่ายหนังกับเธอทั้งหมด เพราะมีนางแบบหน้าใหม่มาแทนเธออีกเพียบจากเมื่อก่อนมีแค่หมื่นคน เธอคิดว่าปัจจุบันจะเพิ่มเป็นแสนคนเธอทิ้งเงินครึ่งหนึ่งไว้ที่แม่ อีกครึ่งหนึ่งเธอทิ้งญี่ปุ่นแล้วมาเที่ยวเมืองไทยเธอเดินทางไปเที่ยวเหนือ และก็มาเจอกับพี่ต๊อก พี่ตีอกกำลังจบใหม่ได้ 2-3 ปีจบออกมาก็มีคุณอาชวนมาทำงานที่แม่ฮ่องสอน และระหว่างที่เป็นไกด์ก็ได้เจอกันพี่ตีอกประทับใจเธอ ตรงที่เป็นคนต่างชาติที่สวย และพูดฟังภาษาไทยได้ชัดเจนมาก(คุณพ่อเธอเป็นคนไทย) ตอนแรกพี่ต๊อกไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยก็เลยจีบแบบถวายหัว กะว่าถ้าไม่ได้คนนี้ จะไม่รักใครแล้วจริงๆเธอก็ไม่อยากให้ความหวังอะไรพี่ต๊อกมาก แต่พี่ต๊อกแกก็ตามตื้อในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาเธอรู้สึกว่าช่วงนี้เหมือนได้ขึ้นสวรรค์เพราะเธอได้เจอกับคนที่รักเธอจริงๆ และเธอก็รักพี่ต๊อกมากด้วย(พวกเราแอบหัวเราะพี่ต๊อกนิดนึง ตอนที่พี่ต๊อกเล่าว่า เธอก็รักพี่ต๊อกมากด้วย)จนเขาคบกันมาได้ปีกว่า พี่ต๊อกคิดอยู่เหมือนกันว่า จะขอแต่งงาน

วันหนึ่งพี่ต๊อกมาเที่ยวเชียงใหม่ มาพักหอของพี่คนหนึ่งในคณะแล้วก็ดูหนังโป๊กันแล้ว บังเอิญที่พี่ต๊อกพบหนังอย่างว่าของเธอพี่ต๊อกคิดว่าคงจะเป็นใครที่หน้าคล้ายๆ กันเฉยๆ พี่ต๊อกขอยืมแผ่นหนังนี้ไปเปิดให้เธอดูบอกว่าคนๆ นี้หน้าเหมือนเธอจังเนอะเธอร้องไห้ตั้งแต่เห็นแผ่นแล้ว เธอระบายเรื่องทั้งหมดให้พี่ตีอกฟังพี่ต๊อกก็ฟังอย่างช็อกไป เช้าวันรุ่งขึ้นพี่ต๊อกเก็บของกลับบ้านที่ตากส่วนเธอเองก็เข้าใจดี และเก็บของเตรียมจะไปจีน แต่ขอให้เห็นหน้าพี่ต๊อกอีกครั้งพี่ต๊อกไป 3 วันกลับมาเธอไม่ได้ไปไหนเลย นอกจากไปซื้อข้าวหน้าปากซอยพี่ต๊อกบอกเธอว่าเดี๋ยวไปเที่ยวบ้านเกิดเราหน่อยสิ ตอนแรกเธอจะไม่ไปอยากจะหนีไปจีนลูกเดียว แต่ก็ลงเอยที่เธอไปตากกับพี่ต๊อก

พี่ต๊อกพาเธอมาที่หลุมศพพ่อกับแม่พี่ต๊อกพี่ต๊อกพูดต่อหน้าหลุมศพว่าชีวิตผมขาดพ่อกับแม่ให้ความดูแลมาตั้งแต่เด็กแต่ผมก็ภูมิใจที่พ่อกับแม่ให้กำเนิดผมมาตรงหน้าพ่อกับแม่นี้ มีผู้หญิงที่เธออาจจะไม่ใช่คนดีที่เลิศเลอที่สุดแต่เธอก็คือผู้หญิงที่ผมรักที่สุด ผมจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในที่ผ่านมาผมรู้แต่ว่า เขาเป็นคนให้กำเนิดหลานของพ่อกับแม่และหลานของพ่อกับแม่จะเป็นคนดีผมสัญญาตอนที่พี่ต๊อกหันกลับไป เธอยืนน้ำตาซึมอยู่ข้างหลัง(พวกผมเองยังน้ำตาซึมเลย)เรื่องมันก็จบแค่ตรงนั้นตรงที่พี่ต๊อกับเธอยืนกอดกันกลมต่อหน้าสุสานของพ่อกับแม่ไม่อายผีอายสาง แต่ผมว่าผีสางคงจะเขินอาย และอวยพรให้เขาทั้งคู่อ่ะนะ

ชีวิตพี่ต๊อกเองที่ผ่านมาก็ไม่ใช่คนดีอะไรนัก เคยเสพยาจนโดนตำรวจจับเคยตีกับตำรวจ แต่ชีวิตเลวร้ายของทั้งคู่ก็ผ่านไปแล้วมันทำให้ผมเชื่ออยู่ถึงจนบัดนี้ว่า ความรักมันทำให้เราเริ่มต้นใหม่ได้

สายๆ ของวันต่อมา เราพร้อมใจกันทำความสะอาดบ้านพี่ต๊อกแล้วเราก็ได้เห็นรอยยิ้มของคนทั้งคู่มันทำให้ผมอบอุ่นไปทั้งหัวใจ เวลาที่เห็นใครสักคนได้ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกันแล้วมาลงเอยด้วยกันอย่างมีความสุขผมขึ้นรถที่ท้ายกระบะ พวกเรานั่งมองพี่ต๊อกและเธอโบกมืออำลามาแต่ไกลข่าวดีคือเธอท้อง 4 เดือนแล้ว อีก 5 เดือนเราจะไปอุ้มหลานกันข่าวร้ายคือพี่ต๊อกไม่มีตังค์แต่งงาน แม้ว่าเราจะยื่นเงินก้อนให้กู้หรือให้เปล่าๆ เลยแกก็ไม่เอาผมคิดเรื่องของพี่ต๊อกมาตลอดทาง ผมคิดว่าชีวิตเราก็เหมือนละครฉากหนึ่งพอถึงจุดหนึ่งละครมันก็จะจบไปตามแบบฉบับของมันเอง คุณล่ะถ้าแฟนคุณเคยผ่านอะไรร้ายๆ มาคุณจะซ้ำเติมเขา หรือรักเขาให้สุดหัวใจของคุณผมมีคำตอบของตัวผมแล้ว แต่ผมไม่บอกหรอก				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต้ยนุ้ย
Lovings  ต้ยนุ้ย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต้ยนุ้ย
Lovings  ต้ยนุ้ย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต้ยนุ้ย
Lovings  ต้ยนุ้ย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงต้ยนุ้ย