7 มิถุนายน 2550 11:32 น.
ต้นกล้า อันดามัน
ร่วมเรียงร้อยดวงดาว
ละย่างก้าวสิพราวแวว
ละดวงดาวประกายแพรว
จึงส่องค่ำสว่างคืน
ร่วมเรียงร้อยความหวัง
จากความหลังอันกล้ำกลืน
ด้วยสู้จึงหยัดยืน
ตั้งฉากตรงกับผืนดิน
ร่วมเรียงร้อยความหมาย
คุณค่าภายนอก-ในถิ่น
กายใจเพียงยลยิน
ย่อมคงค่าอยู่คู่ควร
ร่วมเรียงร้อยความรัก
สมานสมัครอย่างใคร่ครวญ
อุ่นรักจักรัญจวน
มอบสู่มวลมิ่งมิตรชน.
8 พฤษภาคม 2550 10:20 น.
ต้นกล้า อันดามัน
คนตาย ....
ไม่อาจปริปากพูด ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา
แม้จะถูกหรือผิด ติดตัว
ไม่มีคำขอโทษ เยินยอ
อาจมีบ้าง...
บางคำพูดที่ไม่ได้ยิน
ถึงความชั่ว- ดี -ของคนตาย
ไม่แยแส เขาตายไปแล้ว
ไม่มีผลอันใดน่าสนใจ ค้นหา
เราไม่รู้จักกัน
ไม่เคยพูดคุยกัน
ช่างมัน
ช่างมันเถอะ เขาตายไปแล้ว
ไม่ควรพูดถึงเขาอีก
นอกจากการจัดงานตามควรมีควรเป็น
คนตาย...
เขาตายแล้ว
เขาตายแล้ว
ด้วยใครก็ไม่รู้ ที่ให้เขาตาย
เขาตายแล้ว ด้วยความบริสุทธิ์.
10 มีนาคม 2550 15:45 น.
ต้นกล้า อันดามัน
คิดถึงว่า...
เหล้าเก่า ที่อยู่ในขวดใหม่
ลวดลายของขวด จะเปลี่ยนแปลง
สวยงาม ปานใด
คงไม่ทำให้รสชาติ สุราดีขึ้น
หรือแตกต่างไปจากเดิมเท่าใดนัก
เพียงเพราะผ่านอากาศเท่านั้น
คิดถึงผู้คน...
ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนผ่านไปนานเท่าใด
เปลี่ยนที่อยู่ หลายที่หลายแห่ง
คงไม่เปลี่ยนนิสัยใจคอ
บ้านเมือง...
ผู้มีความเป็นอยู่ที่แสนสะดวกสบาย
คือผู้ที่มีอำนาจ วาสนา
และโกงกิน อยู่บนหลังคน
น่าเสียดาย
ไม่มีสิ่งใด ทำอันตรายความชั่วร้ายนั้นได้
แม้แต่สิ่งที่เราคิดว่า ดี
แม้แต่สิ่งที่เราคิดว่า เป็นความดี.
เขายัง หน้าชื่น ตาบาน.
11 กุมภาพันธ์ 2550 20:21 น.
ต้นกล้า อันดามัน
"นำความรักของเราไปหล่อเลี้ยง
หัวใจเพียงบอบบางและอ่อนไหว
กันและกันมั่นคงตรงหัวใจ
เธอเห็นไหมความรัก จักเดินทาง"
คนดี...
เพียงผ่านเสี้ยวนาทีระยะห่าง
อย่าปล่อยหวังลงร่วงร้าง
จงเร่งสร้างเถิดความจริง
ยิ้มสิเธอส่งยิ้มมาให้ฉัน
ไม่ต้องพรั่นหวั่นต่อสรรพสิ่ง
ยิ้มเธอสิงดงามคือความจริง
คือความหมายใหญ่ยิ่ง กว่าสิ่งใด
ส่งมือมาให้ฉันเถิดยอดรัก
ช่วยกันถักทอฝันของวันใหม่
เธอคือผู้สร้างสานความเป็นไท
ด้วยดวงใจของเธออันงดงาม
พรุ่งนี้......
ความหวังที่ผู้คนเฝ้าทวงถาม
เบิกฟ้าเบ่งบานอยู่ทุกยาม
คือความหมายงดงามของความรัก
เธอจะยิ้ม เธอจะยิ้ม จะอิ่มอุ่น
โลกจะกรุ่นความหวังที่ทอถัก
คนจะซึ้งถึงค่าของความรัก
และคือหลักงดงาม สันติธรรม.
5 กุมภาพันธ์ 2550 22:57 น.
ต้นกล้า อันดามัน
หอมกลิ่นฟางกลางทุ่งฟุ้งขจร
หญ้าเจ้าอ่อนตามลมล้อพอไหวไหว
นกขมิ้นบินมาพักประทับใน
พุ่มชัฏ รองใบเป็นเรือนรัง
มือนุ่มนุ่มกุมถนัดฟัดรวงข้าว
โอ้แม่สาวบ้านนา เหงื่อล้นหลั่ง
แต่เห็นยิ้มยังยิ้มอิ่มอุ่นดัง
คือความหวัง ข้างหน้ามาใกล้เคียง
ตาที่สบไม่อยากหลบอยากหลีกหนี
อยากพาทีฝากถ้อยคอยส่งเสียง
อยากฟังคำเอื้อนเอ่ยเคยสำเนียง
โปรดจำเรียงให้พี่ฟังเถิดบังอร
ให้พยานลานข้าวได้ประจักษ์
เถิดจงเห็นความรักอย่าถ่ายถอน
ด้วยหนึ่งนี้พี่เพียงเป็นคนจร
เถิดงามงอนเห็นใจคนแรมทาง
ปี่ซังข้าวพี่เป่าเพลงเก่าแว่ว
แม่ดวงแก้วยินแล้วอย่าเหินห่าง
คนตัวเปล่าสิ้นไร้คือไร้ร้าง
เอาหัวใจพี่วางไว้ข้างกัน
สายลมหนาวยามหนาวยังร้าวหนัก
โอ้ยอดรักเจ้าเอยอย่าดับฝัน
ไม่เคยหลงใดอื่นทั้งหมื่นพัน
เท่ารวงขวัญใบข้าว สาวชาวนา.