30 พฤศจิกายน 2552 12:13 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ดูมหา มาโชว์ อยากโก้เก๋
ดื้อเกเร พระธรรม คำสั่งสอน
โลภ-โกรธ-หลง เหล่านี้ เต็มจีวร
ย่อมสะท้อน ฤๅสมณะ ผู้ละแล้ว..
**.. ยังเมามัน การเมือง เรื่องสกปรก
ลืมปิฎก กฎแหก ชอบแตกแถว
ศาสนา และการเมือง เรื่องละแนว
พระย้อมแมว ดังจะเห็น เป็นเช่นนี้..
**.. อ้อ...สาวก ผู้ใฝ่ ในธรรมะ
โลภหรือละ พระหรือพรรค มักแบ่งสี
ถกสบง เลิกอังสะ โยนปฐพี
แต่งเต็มที่ นามฆราวาส อาจสมควร..
**.. ข้าจะเรียก บุรุษ ในผ้าเหลือง
โชว์เปล่าเปลือง เปลื้องปลุก ให้ปั่นป่วน
คฤหัสถ์ หยุดชะงัก ชักเรรวน
ต้องทบทวน โชว์ควงไมค์ ไม่หยุดยั้ง..
**.. พระศาสนา เสื่อมถอย พร้อยเหตุนี้
ขึ้นเวที โชว์การเมือง อยากเฟื่องมั่ง
มิอยากเห็น ศาสนา ต้องมาพัง
หากท่านยัง สำนึก ... โปรดสึกเอย ...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ปล. เป็นบทกวีอีกชิ้นที่ข้าพเจ้าจำเป็นต้องเขียนขึ้นเพื่อแสดงความรังเกียจรังงอนแก่ภิกษุบางรูปที่เอาตนเข้าไปผูกพันแก่การเมืองอย่างเห็นได้ชัด ( หากบางท่านคิดว่าข้าพเจ้าโป้ปดไปหาคลิปดูได้จาก youtube แล้วท่านจะบอกว่า นั่นพระหรือไร ) ข้าพเจ้าไม่คิดว่าตัวเองต้องมานั่งเขียนกลอนวิจารณ์สมณะ แต่สำหรับข้าพเจ้านั่นมิใช่สมณะ และจะเห็นได้ว่าเป็นชายใส่ผ้าเหลืองเท่านั้น ... สุดท้ายนี้ หากท่านใดคิดว่าการเขียนกลอนนี้ของข้าพเจ้าบาป ข้าพเจ้าก็ขอแสดงทัศนะไปว่า คงจะได้บุญมากกว่าพระบางรูปที่ไปขึ้นเวทีการเมืองละกัน ... ด้วยสติสัมปชัญญะและหิริโอตตัปปะก่อนเขียน
29 พฤศจิกายน 2552 23:07 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ถือ"ไม้หนึ่ง" ฟาดฟัน กระสันเลือด
กุนที เดือด ทั่วถิ่น แผ่นดินผอง
ร่ายลำนำ จิตไร้ การไตร่ตรอง
และผยอง เทียบค่า ปรมาจารย์..
**.. ท่านเลือกฝัก เลือกฝ่าย ง่ายเพียงนิด
กล่อมความคิด ปวงประชา มหาศาล
ให้หลงเพ้อ เผลอพก โลกนิทาน
กูเกลียดรัฐประหาร กูรักประชาธิปไตย..
**.. ที่เกลียดยิ่ง ชิงชัง อย่างที่สุด
กวีดุจ มารยา คอยสาไถย
"กวีราษฎร์" ลาดเลว สู่เปลวไฟ
บทกวี จัญไร จึงเกลื่อนเมือง..
**.. ผ่านรูปสื่อ พิมพ์ขยะ มติชั่ว
กลอนมั่วมั่ว ตีตน ว่าคนเฟื่อง
รวมหนึ่งเล่ม ร้อยคำ ให้ชำเลือง
ใต้ชื่อเรื่อง มุมชั่วร้าย ของนายกวี ..
**.. ข้าอาลัย ไห้หวน จวนใจสลาย
ถ่มน้ำลาย รดกลอนกลาก ชื่อ ศักดิ์ศรี
จงไปสู่ ภพหน้า ถ้าหากมี
อย่ากลับมา เกิดที่ ... แผ่นดินไทย ...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ปล. ข้าพเจ้าได้อ่านข่าวและบทกวีของนักกลอนท่านหนึ่งที่มีบางเรื่อง
ค่อนข้างหมิ่นเหม่ต่อสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน การเขียนกลอนเรื่อง
นี้ของข้าพเจ้าเป็นการแสดงออกในความไม่เห็นด้วยต่องานเขียนของกวี
คนดังกล่าว ( หากคิดว่าข้าพเจ้าโป้ปดลองหาอ่านได้ ) ... ข้าพเจ้าก็ไม่อยาก
เชื่อสายตาตนเองเช่นกันว่านักกลอนที่ข้าพเจ้าเคยชื่นชมในผลงานจะแสดง
ออกซึ่งความคิดเช่นนี้ ... อย่าโกรธข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้าก็เพียงใช้เสรีภาพ
ในการแสดงความคิดเห็น เหมือนใครบางคนที่กระสันชอบเรียกร้อง
สิทธิเสรีภาพเท่านั้นเอง
" คุณธรรมแห่งกวี " ที่เคยแต่ง ...
**.. บทกวี ใช้สร้าง ทางถูกต้อง
ใช่ต่อรอง อำนาจ ขาดศักดิ์ศรี
เขียนรับใช้ หมู่ชน คนไม่ดี
เฉกกลอนที่ " ห้องสุขา" ค่าเท่ากัน ...
หมายเหตุ ... ท่านอาจอ่านไม่สะดวก เพราะข้าพเจ้าเจตนาใช้สีดำ
เพื่อไว้อาลัยกับการจากไปของศักดิ์ศรี " คนเขียนกลอน " คนหนึ่ง
19 พฤศจิกายน 2552 00:18 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. โลกร้อนกว่า วันเก่า เล่าน้องเอ๋ย
ดอกไม้เคย บานช่อ ก็โรยร่วง
ริมบ้านเรือน เปื้อนพร้อย รอยด่างดวง
ผันตามช่วง ทะเล แห่งเวลา..
**.. พระวิหาร พังภินท์ แทบสิ้นซาก
แต่กาฝาก สำราญ มารศาสนา
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
เปลี่ยนไปมา แต่ละบท ตามกฎกาล..
**.. วัฒนธรรม ดั้งเดิม เริ่มหดหาย
แสนเสียดาย ยากปลง ในสงสาร
ประเพณี สืบต่อ ก่อสันดาน
อันตรธาน ฉับพลัน ชั่ววันคืน..
**.. กาลเวลา ราตรี ทิวาวาร
ไหลสู่ธาร ล่องไป ไม่อาจฝืน
เฉกสำนึก บางครั้ง ไม่ยั่งยืน
ปรับเปลี่ยน เป็นอื่น ดาษดื่นกมล..
**.. วันหนึ่งโลก ร้อนลุ ระอุไหม้
ยังวางใจ แน่นนับ มิสับสน
ความศรัทธา ผูกพัน นั้นดาลดล
มิเปลี่ยนคน อย่างฉัน ให้ผันแปร..
**.. แต่วันนั้น เธอยัง ยืนอยู่ไหม
หรือเหนื่อยใจ เลิกร้าง อย่างแน่วแน่
ริมเรือนหลัง เก่าเชย ที่เคยแล
คอยหนึ่งใคร หากแม้ ไม่มีเลย...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร