31 มีนาคม 2550 15:54 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. มาจากถิ่น ดินแดน ไกลแคว้นไหน
ต้องรวมใจ ให้เป็นหนึ่ง ซึ่งที่นี่
โดยนามเธอ คือลูก...พ่อรพี
สายเลือดสี ม่วงเน้น เป็นหนึ่งเดียว..
**.. เธอเข้าสอบ รอบแล้ว จนรอบเล่า
ทุกข์รุกเร้า สู้รับ ทนขับเคี่ยว
ต้องเหน็ดเหนื่อย กายผอม ตรอมซีดเซียว
กว่าได้เที่ยว พักร้อน ก็ค่อนเดือน..
**.. มาสู่รั้ว มหาลัย ตามวัยฝัน
รุ่นพี่นั้น คือใคร คล้ายหรือเหมือน ?
วัยที่เรียก เฟรชชี่ มีกี่เดือน ?
อยากเห็นเพื่อน รู้ใจ ในเร็ววัน ..
**.. ความทรงจำ นิติศาสตร์ อาจแปลกมาก
ลืมได้ยาก แม้ใจ ไม่คิดฝัน
เธอจะรัก และบูชา สถาบัน
แม้นวันนั้น เธอก้าวไกล วัยทำงาน..
**.. ยินดีต้อนรับ...กับน้องใหม่
ด้วยหทัย ผลิช่อ ก่อประสาน
จนวันที่ เอ่ยสัจจะ ปฏิญาณ
ขอสืบสาน สร้างสรรค์ สู่สังคม...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ยินดีต้อนรับน้องใหม่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ รุ่นที่ 22 ครับ
25 มีนาคม 2550 21:17 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. วาดสายรุ้ง โยงยาว ขึ้นพราวฟ้า
แทนสายตา หวานฉ่ำ ด้วยคำหวาน
มีรักเลอ เอ่อล้น ท้นดวงมาน
เป็นตำนาน ความสุข ทุกนาที..
**.. อยู่บ้านกลอน นานเนา อันเก่าแก่
ถึงอาจแม้ ห่างหาย แต่ไม่หนี
ยังแวะเวียน เยี่ยมเยือน เพื่อนกวี
จนเดือนปี ดุ่มเดิน เกินก้าวทัน..
**.. นามปากกา ก็บรรเจิด เกิดที่นี่
บทกวี มุ่งสาง ทางสร้างสรรค์
น้ำใจเพื่อน หวงแหน แทนรางวัล
คำครูนั้น ติเตือน มิเลื่อนลอย..
**.. เขียนปรัชญา การเมือง บ้างเฟื่องฟุ้ง
เขียนโค้งคุ้ง ร้อยรวี รังสีสร้อย
เขียนรักพร่าง พราวเก็จ ดั่งเพชรพลอย
จนเคลิ้มคล้อย หลงรัก มนต์อักษรา..
**.. จะเขียนดิน ให้เป็นดาว เราทำได้
เขียนฟอนไฟ เป็นตะวัน อันแรงจ้า
เขียนหรีดหริ่ง เรไร ในพนา
และเขียนว่า รักเท่านาน ... บ้านกลอนไทย...
ด้วยรักและหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร ( ประพันธ์ : 20 มีนาคม 2550 )
24 มีนาคม 2550 19:23 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. มีบางครั้ง เบื่อหน่าย ในโลกนี้
จนคิดหนี ไปให้ ไกลที่สุด
เลิกสีหน้า ปั้นแต่ง แข่งสมมุติ
ในเมืองทรุด สุดเซ็ง เส็งเคร็งนัก..
**.. เลิกใส่สูท รูปงาม ตามแฟชั่น
ของเลิศชั้น อาหารหรู ผ้าปูตัก
มีคนคอย เคลียคลอ พะนอรัก
พกเงินสัก ห้าหมื่น คงตื่นใจ..
**.. แล้วหลบไป ป่าเขา ลำเนากว้าง
มองฟ้าสาง ยอดภู ดูยิ่งใหญ่
จวบสายัณห์ ยินบรรเลง เสียงเพลงไพร
จะกล่อมให้ ฉันสุข ทุกวันคืน..
**.. เขียนบทกลอน บทความ ตามประสา
อยู่กับฟ้า ผาหิน ดินทั้งผืน
ธรรมชาติ นิรันดร์ อันยั่งยืน
แต่ต้องตื่น พร้อมรับ กับความจริง..
**.. ใจยังห่วง ครอบครัว กลัวเหนื่อยล้า
พ่อแม่หา เลี้ยงลูก ปลูกทุกสิ่ง
ค่าน้ำนม ร่มเกล้า เราพักพิง
แล้วจะทิ้ง เขาไปได้ อย่างไรกัน...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
23 มีนาคม 2550 22:11 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. มีเรื่องราว หลากหลาย เธอไม่รู้
ฉันเก็บอยู่ ซ่อนไว้ ในเบื้องหลัง
ใครสาปแช่ง หยามเหยียด ใครเกลียดชัง
ฉันก็ตั้ง ใจพร้อม ยอมรับเอา..
**.. มีหรือที่ ให้เธอ ร่วมเจอด้วย
เขาด่าห่วย ร้องโห่ บอกโง่เง่า
จนแอบนึก จะมีใคร เข้าใจเรา
และหวังเฝ้า ว่าเธอ เผลอเข้าใจ..
**.. กับนานา อุปสรรค มักทำท้อ
ถึงกับพ้อ ว่าความดี อยู่ที่ไหน
บ้างความหวัง โรยแรง แสงรำไร
อาจเห็นฉัน ร้องไห้ ในมุมนึง..
**.. ในยามเหมือน โลกกว้าง แต่ทางไร้
สิ่งปรารถนา กำลังใจ ไม่ถึงครึ่ง
ท่ามสังคม แปรปรวน ล้วนอื้ออึง
ฉันนับหนึ่ง เริ่มใหม่ ในชีวิต..
**.. มีเรื่องราว หลากหลาย เธอไม่รู้
ฉันคือผู้ แพ้พ่าย ในทุกสิทธิ์
ความอาทร ห่วงใยแท้ แม้น้อยนิด
ฉันแอบคิด ว่าควรได้ ...จากใจเธอ...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร ( ประพันธ์ : 22 มีนาคม 2550 )
23 มีนาคม 2550 22:08 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. เสียงดนตรี พฤกษ์ไพร อันใหญ่น้อย
จิ๊บเจื้อยจ้อย หวิวหวิว ลิ่วลมผ่าน
ปรอยหยาดฝน ชอุ่ม ชุ่มสราญ
เจิมดวงมาน ขมขื่น กลับชื่นทรวง..
**.. หนีสังคม เมืองกรุง อันยุ่งเหยิง
มีแต่เพลิง โลภร้าย น่าหน่ายหน่วง
เผชิญโชค โลกฝัน อันหลอกลวง
ใจทั้งดวง ทนเช่นนี้ ได้กี่วัน..
**.. มารับรู้ ดื่มด่ำ ธรรมชาติ
เราเคยวาด ฟ้าคราม ต่างความฝัน
ขีดเขียนดอก หญ้าไหว ใต้แสงจันทร์
เขียนผูกพัน ไมตรี เพื่อนชีวิต..
**.. ปล่อยอารมณ์ ลอยล่อง ฟ่องฟากฟ้า
ข้ามหินผา ป่าเขา เราลิขิต
ทำตามใจ ที่เรา เฝ้านึกคิด
เลิกยึดติด มี-เป็น อยู่เช่นนี้..
**.. แล้วเสียงเพลง ประเลงหวาน แว่วผ่านหู
คิดถึงผู้ อยู่ไกล ไปจากนี่
จะเป็นสุข ดีไหม ในชีวี
ฝากดนตรี เพลงไพร ... ไปกล่อมเธอ...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
( ประพันธ์ : 13 มีนาคม 2550 เขื่อนศรีนครินทร์ กาญจนบุรี )