30 เมษายน 2546 20:26 น.

**..ปล่อยวาง ซะบ้าง..**

ต่อง (ต้อง) ksg



  **..  เธอเป็นเธอ  อย่างนี้  ดีแล้วนะ
         อาจจะไร้  สาระ  บ้างก็ได้
         อย่ายึดถือ  มั่นจริง  สิ่งใดใด
         วางมันลง  เอาไว้  ไกลไกลตัว

  **..  เป็นตัวคุณ  อย่างคุณ  ดีแล้วหนา
         อย่าไขว่คว้า  เรื่องวุ่นวุ่น  คุณปวดหัว
         โลกนี้ไม่  มีอะไร  ให้น่ากลัว
         คุณอย่ามัว  คิดมาก  จะยากนาน

  **..   และเรา  ก็คือเรา  เพียงเท่านี้
          จึงไม่มี  สิ่งใด  จะไขขาน
         เมื่อสุดท้าย  ตายพลัน  อันตรธาน
         ดูสิ!  แม้วันวาร  ยังผ่านเลย...

  				
27 เมษายน 2546 21:47 น.

**.. บอกเถิด ที่รัก ..**

ต่อง (ต้อง) ksg



 **..บอกเถิดบอก  สักที  นะที่รัก
     ว่าเธอจัก  เลือกก้าวย่าง  ทางเส้นไหน
     ทางที่มี  สองเรา  ตลอดไป
     หรือทางไร้  สองเรา  ตลอดกาล

**..บอกสักที  ที่รัก  อย่างหนักแน่น
     บอกด้วยแค้น  และคลั่ง  จะฟังขาน
     น้ำตานั้น  รินไหล  ให้เป็นธาร
     มอบแด่การ  หักหลัง  ทั้งหมดนี้

  **..เคยชื่นหวาน  หว่านคำ  ยังจำได้
      แต่คืนวัน  ผ่านไป  ให้เร็วรี่
      ผ่านด้วยคำ  อาวรณ์  ซ่อนฤดี
     ซึ่งมันจะ  ไม่มี  แต่นี้ไป

  **..เป็นแผนการ  แยบยล  ของคนรัก
       หลอกให้ปัก  รักมั่น  ไม่หวั่นไหว
       แล้วก็หลอก  รักลวง ทั้งดวงใจ
       ทิ้งเศษเสี้ยว  รักไว้  ให้ตรอมตรม

  **..บอกเถิดบอก  สักที  นะที่รัก
       เธอนั้นจัก  เลือกชื่น  หรือขื่นขม
       หากเลือกรับ  ความร้าวราน  อกซานซม
      วันไหนล้ม  ค่อยกลับมา  รักษาใจ         


       				
23 เมษายน 2546 22:54 น.

ความหวังดี ที่มองไม่เห็น

ต่อง (ต้อง) ksg



   **..  ไม่มีประโยชน์อะไร ที่เราจะพร่ำบ่น
          ไม่มีประโยชน์อะไร  ที่เราจะสั่งสอนเขา
          ไม่มีประโยชน์อะไร  ที่เราจะหวังดี      
           ก็ในเมื่อสิ่งเหล่านั้น  เขาไม่เคยมองเห็น
   
   **..  ไม่มีค่าอะไร  ที่เราจะทำให้เขา
          ไม่มีค่าอะไร  ที่เราจะคอยดูแล
          ไม่มีค่าอะไร  ที่เราจะช่วยเหลือ
           ก็ในเมื่อเขาไม่เคยเห็นว่าเรามีค่า..

   

   **........และไม่มีอะไร...  ที่จะให้เขาอีกต่อไป..............**				
22 เมษายน 2546 12:26 น.

**..หัวใจพเนจร..**

ต่อง (ต้อง) ksg



  **..ฟ้าก็มืด  เมืองก็มิด  สนิทเงียบ
       ความหนาวเยียบ  เย็นเยือก  เข้าเสือกไส
       เห็นแสงจันทร์  อ่อนทอ  พอรำไร
       เกินแสนเกิน  ไกลแสนไกล  ในแวววตา

  **..ร่างอ่อนแรง  ใจอ่อนโรย  และโหยหิว
       มือกับนิ้ว  มีไซร้  แต่ไร้ค่า
        ตาเคยเห็น  สิ่งใด  ไม่นำพา
        อีกแข้งขา  มีไซร้  เหมือนไม่มี

  **..ความสามารถ  หมดสิ้น  ไม่เหลือแล้ว
       ที่กล้าแกล้ว  กลับถดถอย  คอยหน่ายหนี
       นับจากวัน  พลัดพราก  จากคนดี
        ในวิถี  ชีวิต  จึงปิดงำ

  **..ดูเวิ้งว้าง  ท่ามกลาง  ความสับสน
       อีกผู้คน  คอยเปรียบ  เขาเหยียบย่ำ
       เธอหนอเธอ  ทิ้งเราได้  ช่างใจดำ
       ปล่อยเราพร่ำ  ถึงคู่  อยู่หนใด

   **..ชีวิตเดิน  ถึงจุด  สิ้นสุดท้าย
        หมดความหมาย  ชีวัน  เคยฝันใฝ่
       ขาดคนรัก  ถักทอ  ต่อเยื่อไย
        จากหัวใจ  พเนจร  วอนคืนดี...

          ด้วยความหวังดี

       ก.ประแสร์  ศิษยาพร
 
     ก.นพดล  รักษ์กระแส

  ปล.  เริ่มกลับมาแต่งกลอน  ขอความเห็นด้วยน้าาา...ติชมได้เต็มที่ 

  อิอิ     ให้แก้ไขตรงไหนก็บอกมาได้ไม่ว่ากัน				
14 เมษายน 2546 20:37 น.

***...ห้องสนทนาที่แสนเงียบเหงา...***

ต่อง (ต้อง) ksg



   **..จริงๆแล้วบันทึกนี้ควรจะอยู่ที่หัวข้อกระทู้ซะมากกว่า...

  

   **..ห้องสนทนาที่ไทยโพเอ็ม  เมื่อสักเกือบปีได้ที่ผมแวะเวียนมาที่นี่

  คึกครี้น  สนุกสนานกันมาก 

 แต่แล้ว  เมื่อประมาณ  3-4เดือนก่อนได้...  ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  

  ห้องสนทนาแทบจะไม่มีสมาชิกแวะเวียนไปเหมือนก่อน  ทั้งๆที่

  ห้องสนทนานี้เองเป็นที่ที่ทำให้ผมได้พูดคุยและได้รับความรู้เรื่องกลอน

  มาใช่น้อย........

  **..สุดท้ายอยากจะให้เพื่อนๆสมาชิก  กลับมาใช้ห้องสนทนาเหมือนอย่างวันวาร

  ก่อนๆเถอะครับ

  **********  ด้วยความหวังดี...........**************

      อ่านแล้วก็แวะเวียนไปรอกันได้เลยครับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟต่อง (ต้อง) ksg
Lovings  ต่อง (ต้อง) ksg เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงต่อง (ต้อง) ksg