9 มกราคม 2546 10:23 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**..วันเด็ก เวียนมา อีกคราครั้ง
แล้วก็ตั้ง คำถามเก่า มาเล่าขาน
ถามถึงความ ฝันใฝ่ ในการงาน
ในอนาคตกาลที่ จะมีมา
**..แล้วก็ให้ คำขวัญ ในวันเด็ก
ให้หนูหนู ตัวเล็ก อย่างถ้วนหน้า
ว่า จงมีความสัตย์ซื่อถือจรรยา
แล้วก็ให้มาในทุกปี
**..บอกว่า ให้ตรากตรำ ทำเพื่อชาติ
อย่าขี้ขลาด หดหัว กลัวหน่ายหนี
แต่ก็เห็น ผู้ใหญ่ ในทุกที
สู้เด็ก เหล่านี้ มิได้เลย
**..ให้โอวาท ทั้งทั้ง ที่ทำผิด
ให้ข้อคิด ทั้งทั้ง ทำเมินเฉย
ยังโกงกิน กันเกลื่อน เหมือนเช่นเคย
ยังเฉยเมย ต่อปัญหา อันค้างคา
**..ถ้าหนูโต เติบใหญ่ ไม่โกงชาติ
ไม่ขี้ขลาด เช่นผู้ใหญ่ ไร้เดียงสา
ที่วันวัน นั่งสุขใจ ในอุรา
บนหยาดหยด น้ำตา ประชาชน
**..แต่ก็ไม่เป็นกันทุกคนหรอก..**
ด้วยความหวังดี
5 มกราคม 2546 22:43 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**..เป็นลำนำ คำกลอน คนอ่อนไหว
และเป็นได้ แค่กวี เพียงบทหนึ่ง
ถึงธรรมดา เรียบง่าย ไม่ซาบซึ้ง
แต่ขอตรึง ตราไว้ ในใจชน...
**..ขอผมเป็น ส่วนหนึ่งใน ดวงใจท่าน
ให้ยืนนาน ยาวไกล ไปทุกหน
แม้เป็นเพียง เศษเสี้ยวใน ดวงใจคน
ก็มากล้น ในเมตตา ท่านปราณี
**..ฝากไว้เป็น อนุสรณ์ ก่อนจากลา
แทนวาจา ว่ารักแท้ แก่น้องพี่
จะกลับมา อีกครั้ง ด้วยหวังดี
ขอเพื่อนมี ความสุข ทุกคนเอย..**
ด้วความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
1 มกราคม 2546 20:40 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**..เรื่องนี้ผมได้คัดลอกมาจากเว็ปโรงเรียนผมเห็นว่า มีข้อคิดดีมากครับ
อ่านแล้วน้ำตาเกือบไหลครับ
ชายแก่เลยวัย 70 คนหนึ่งคุยกับลูกชายที่เพิ่งกลับมาเยี่ยม หลังจากแต่งงาน
ย้ายครอบครัวออกไปไม่กี่ปี
ชายแก่ : แจ๊ค (ชื่อลูกชาย) นั่นอะไรลูก ? พ่อเห็นลาง ๆ
แจ๊ค : อ๋อ วัวหน่ะพ่อ
เวลาผ่านไป 2-3 นาที
ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรลูก ?
แจ๊ค : วัวตัวเดิมนั่นแหละพ่อ ยังไม่ไปไหนเลย
ผ่านไปอีก 2-3 นาที
ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรอีกล่ะลูก ?
แจ๊ค : (เริ่มมีอารมณ์หงุดหงิด) วัวพ่อวัว !! วัวตัวเดิมที่เพิ่งถามนั่นแหละ
เวลาผ่านไปอีก 2-3 นาที
ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรลูก ?
แจ๊ค : (เริ่มทนไม่ไหว) เอ๊ะ !! พ่อนี่ยังไงนะ ถามซ้ำ ๆ ซาก ๆ อยู่ได้ ผมจะบอกครั้งสุดท้าย
แล้วนะว่า วัว...!!
ผ่านไปอีก 2-3 นาที
ชายแก่ : แจ๊ค นั่นอะไรน่ะลูก ?
แจ๊ค : โอ๊ย !!! พ่อเลอะเลือนแล้ว คุยกันไม่รู้เรื่อง ผมไม่คุยกับพ่อแล้ว
แล้วแจ๊คก็ผละจากพ่อไปอย่างอารมณ์เสียเป็นที่สุด เวลาผ่านไป จวบจนตอนเย็น ได้เวลาอาหารค่ำ
เมื่อไม่เห็นผู้เป็นพ่อลงมา แจ๊คจึงเดินขึ้นไปตามที่ห้อง ณ ที่นั่น เขาได้พบชายแก่ นั่งเหม่อลอย
ข้าง ๆ มีไดอารี่เก่า ๆ เล่มหนึ่งที่เพิ่งเขียนบันทึกในวันนี้เสร็จ
แจ๊คถือวิสาสะเข้าไปอ่าน ความว่า...ครั้งหนึ่งเมื่อ 40 กว่าปีก่อนมาแล้ว เรามีลูกชายคนหนึ่งที่เรารักมากที่สุด
เราตั้งชื่อเค้าเองว่า...แจ๊ค ในวันที่อากาศแจ่มใสวันหนึ่ง เราพาแจ๊คออกไปเดินเล่น ตอนนั้นแจ๊คกำลังพูดได้เก่งทีเดียว
เราพาเค้าไปนั่งที่สวนหลังบ้าน พอดีมีวัวผ่านมา...
แจ๊คถามเราว่า พ่อ นั่นอะไร...วัวไงลูก เราตอบ เวลาผ่านไป อีกไม่ถึงนาที แจ๊คก็ถามคำถามเดิมเราอีก
เราก็ตอบเช่นเดิมอีก เป็นอย่างนี้อยู่ถึง 25 ครั้ง ....เราไม่เคยเบื่อหน่ายเลยที่จะตอบคำถามเดิม ๆ เหล่านั้น
เรากลับรู้สึกดีใจอย่างที่สุดที่ลูกสนใจเราอย่างไม่เบื่อหน่าย...
แต่ในวันนี้ ณ ที่แห่งเดิม คน 2 คน ที่เคยถามคำถามเดียวกัน หากแต่ว่าเราเป็นฝ่ายถาม
แจ๊คเป็นฝ่ายตอบ... เพียง 5 ครั้งเท่านั้น ลูกก็ตวาดเสียงดังใส่เรา หาว่าเราเลอะเลือน รังเกียจแม้แต่จะคุยกับเราต่อไป...
เมื่ออ่านจบแจ๊ครู้สึกผิดขึ้นมาจับใจ พ่อเลี้ยงเขามาอย่างดี แต่วันนี้สิ่งที่เขาทำให้ท่านคือ การตวาดเสียงดัง ไม่พูดด้วยแล้วก็เดินหนีไป
เขาตระหนักว่า เขาได้ทำสิ่งผิดพลาดซึ่งเขาเองแทบไม่รู้ตัว แล้วคุณล่ะ วันนี้คุณได้ทำอะไรดี ๆ ให้ท่านเหล่านั้นหรือยัง ?...
ป.ล. หากคุณคิดว่าเรื่องนี้เป็นประโยชน์ โปรดอย่าเก็บไว้คนเดียว...อย่าลืมส่งต่อให้เพื่อน ๆ ของคุณได้อ่านกันด้วย
เพื่อสิ่งดี ๆ จะได้เกิดขึ้นในสังคมต่อไป
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส