11 ตุลาคม 2545 16:54 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**..ฉันได้มาได้เห็นเว้นแต่ว่า
มิอาจคว้าความมีชัยเหมือนใครนั่น
เพราะต่างแห่งต่างสมัยต่างวัยกัน
ความมุ่งมั่นและความคิดก็ผิดไกล
**..สิ่งที่ได้พบเห็นเป็นอย่างนี้
คนดีดีหมดหวังดังป่วยไข้
อยู่อย่างซังกะตายแค่หายใจ
ทำงานไปพอข้าวปลาเอามากิน
**..คล้ายเป็นกฎธรรมชาติไม่อาจฝืน
ยามคนขืนแพ้เล่าเฝ้าแพ้สิ้น
เมื่อน้ำตาทุกหยดได้รดริน
คนจะยินดีไหมไม่ต่างกัน
**..ออกสายสักนิดที่คิดกู้
เขาเคยอยู่แต่ไหนแต่ไรนั่น
เหมือนเมื่อคนเข็นเกวียนเจียนตายพลัน
เทพเทวัญ เพิ่งจะได้ให้แนวทาง
**..ร่วมแรงกันเข้าสิพี่น้องเอ๋ย
หล่มใดเลยจะสกัดหรือขัดขวาง
เมื่อพวกเราตื่นตัวกันทั่วทุกบาง
เราย่อมสร้างทุกอย่างได้ดั่งใจจินต์
**..จะสอยดาวสาวเดือนที่เกลื่อนฟ้า
มาทำอาหารให้คนไร้สิ้น
ฟันนภาที่เห็นออกเป็นชิ้น
เอามาสินเป็นเสื้อเผื่อคนจน
**..จับเอาดวงตะวันอันกว้างใหญ่
จัดสรรให้คนพำนักพักทุกหน
เที่ยวรวบรวมธาตุมาทั้งสากล
แล้วคิดค้นปรุงเป็นยาฆ่าโรคภัย
**..ถึงกาลนั้นฉันคงร้องก้องโลกว่า
ข้าเคยมาเคยเห็นเว้นแต่ไม่
ต้องแบกความผิดหวังติดหลังไป
แต่ครองชัยสูงค่าเกินตาคน....***********
11 ตุลาคม 2545 16:34 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**..เมื่อยังเด็ก เคยฝัน ถึงวันหน้า
โชคชะตา อนาคต ฝันสดใส
อยากเป็นนู่น เป็นนี่ ตามที่ใจ
เป็นใครใคร ที่ช่วยเหลือ เกื้อสังคม...
**.. จะเป็นหมอ รอช่วย คนป่วยไข้
หนาวไหม จะนำผ้า มาให้ห่ม
เจ็บไหม ทนหน่อยนะ แผลระบม
มีคำชม ชื่นใจ ในการงาน...
**..จะเป็นครู ดูแล เด็กตัวน้อย
จับมือค่อย เขียนหนังสือ ฝึกปรืออ่าน
จากก.ไก่ ตอนหนู อนุบาล
จนล่วงผ่าน เป็นผู้ใหญ่ ที่ใฝ่ดี...
**..จะเป็นนาย ตำรวจ หมวดองอาจ
รักษาชาติ ด้วยรัก และศักดิ์ศรี
อุดมการณ์ ฝังไว้ ในชีวี
หมายมั่นที่ พร้อมสู้ เพื่อมวลชน
**..เวลาเปลี่ยน เปลี่ยนคน ไม่เหมือนเก่า
จากหนุ่มเหน้า เป็นใหญ่ วัยผ่านพ้น
มือที่เคย นำพา ฝ่าทุกข์ทน
คือมืออัน มืดหม่น ทุกหนทาง..
**..อุดมการณ์ เคยมี ก็เลือนหาย
คือความหน่าย ความขลาด ความบาดหมาง
เพื่อสังคม คือฝัน อันเลือนลาง
ทำเพื่อตนไว้บ้าง ก็ยังดี...
**..หมดแล้ว ปณิธาน สร้างคุณค่า
หมดเวลา ย้อนทวน หวนภาพที่
เคยเดียงสา อิ่มเอม หวังเปรมปรีดิ์
กับวันนี้ ภาพที่เห็น ไม่เป็นจริง
7 ตุลาคม 2545 22:15 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
เมื่อยังเด็กทุกคนย่อมมีความใฝ่ฝันที่แตกต่างกันไป
* หนูอยากเป็น หมอ จะคอยรักษาคนเจ็บไข้ได้ป่วย ค่ะ
* ผมอยากเป็น ตำรวจ ครับ จะคอยปราบโจร ช่วยเหลือประชาชนครับ
* หนูอยากเป็น คุณครู ค่ะ จะสอนเด็กน้อยให้มีความรู้ เรียนเก่งๆค่ะ
ต่างคิดฝันไปตามประสาเด็ก......เวลาล่วงผ่านเด็กน้อยใสซื่อ
บางคนก็เป็นไปตามฝันบ้าง หรือบางคนก็เดินอีกเส้นทาง
*ผมหวังว่าเด็กน้อยโตขึ้นคงไม่กลายเป็น คนเห็นแก่ตัว หรือ
คนที่ทำลายชาติไปกับมือ เพียงเท่านั้นเอง
ด้วยความหวังดี
.............................................
6 ตุลาคม 2545 13:09 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
ถึงกลอนบทนี้จะสั้นเพียงแค่ บทเดียว ... แต่กลอนบทนี้ซ่อนความหมาย
ไว้ดีมาก จนผมต้องจดมาเท่าที่จะจำมาได้ครับ
ความรู้ ไม่มีตาย ถ่ายให้ศิษย์
แม้ชีวิต ศิษย์มลาย หายไปไหน
เป็นแก่นสารกิจการงานทั่วไป
ประเทศไทยจะเฟื่องฟู เพราะครูเอย.
ประเทศไทยเฟื่องฟูเพราะครูเอย....................
5 ตุลาคม 2545 20:53 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
กลอนบทนี้ประพันธ์โดย อาจารย์นภาลัย สุวรรณธาดาครับ
ก็นำมาเสนอ แล้วสมาชิกลองตรองดูให้ดีครับว่า
กลอนนี้สอนคุณว่าอย่างไรบ้างครับ
ปริญญาใบนี้ใบที่หนึ่ง
ประลุถึงปลายทางที่สร้างฝัน
เป็นบัณฑิตติดตราสถาบัน
เสื้อครุยนั้นถึงจะเช่าก็เฝ้าชม
สวมเสื้อครุยกรุยกรายในงานเลี้ยง
งดงามเพียงเทวดาสง่าสม
มีงานทำหรือไม่ไม่ปรารมภ์
ค่านิยมอยู่ที่มีปริญญา
ครั้นคืนวันผ่านไปก็ให้เหงา
ปริญญาใบเก่าฝุ่นจับหนา
ไทยจะเด่นเป็น นิก พลิกตำรา
หวนกลับมาเรียนใหม่ตั้งใจจริง
ปริญญาใบนี้ใบที่สอง
เริ่มรู้คล่องรู้ไกลไปทุกสิ่ง
พูดอะไรใครจะกล้ามาติติง
เพราะพูดอิงหลักวิชาช่างน่าฟัง
ฯลฯ.................
ปริญญาใบนี้ใบที่ห้า
เริ่มรู้ว่ายังไม่รู้หดหู่หวัง
ชีวิตเอยชีวิตที่งามจีรัง
สิ่งนั้นยังอยู่ไกลไม่ได้เรียน