3 เมษายน 2552 20:48 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. บทกวี สร้างสรรค์ จรรโลงจิต
ชี้แนวคิด ถูกควร ใช่ป่วนปั่น
ถ้วนทุกถ้อย ร้อยคำ จึงสำคัญ
เพราะว่ากลั่น แต่ละตัว จากหัวใจ..
**.. อิทธิพล ร้อยกรอง สร้างสองแง่
คือตีแผ่ ความจริง อันยิ่งใหญ่
และโป้ปด วาทกรรม อยู่ร่ำไป
จงครวญใคร่ วางจิต คิดเป็นกลาง..
**.. อคติ ผู้จรด หยดน้ำหมึก
ไร้สำนึก มุ่งหมาย ให้แบ่งข้าง
มนต์อักษร กลอนระยำ เงาอำพราง
ล้วนนำทาง ล้มเหลว สู่เปลวเพลิง..
**.. คุณธรรม แห่งกวี ต้องมีด้วย
ใช่คำสวย เพริศแพร้ว แล้วก็เหลิง
อาจชื่อเสียง ลากลง หลงระเริง
เมื่อเถลิง ตั้งตน เหนือคนกวี..
**.. บทกวี ใช้สร้าง ทางถูกต้อง
ใช่ต่อรอง อำนาจ ขาดศักดิ์ศรี
เขียนรับใช้ หมู่ชน คนไม่ดี
เฉกกลอนที่ " ห้องสุขา" ค่าเท่ากัน ...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
17 มีนาคม 2552 23:19 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. แม้นมิใช่ ดาวฟ้า เด่นปรากฏ
ก็มิหมด แสงฉาย ประกายฉาน
มิใช่เดือน ดวงเห็น เด่นตระการ
ก็ใช่ลาญ ล่วงลับ มอดดับไป..
**.. แม้นมิใช่ ธรรมจักร ที่รักยิ่ง
ก็เทิดมิ่ง คุณธรรม ล้ำสมัย
แม้นมิใช่ สีชมพู ชูกลางใจ
ก็รักใน แสดม่วง เช่นดวงฤดี..
**.. แม้นมิใช่ ศูนย์กลาง ประวัติศาสตร์
ก็มิขาด ในรัก มั่นศักดิ์ศรี
ปราศยูงทอง รองเรือง เฟื่องทวี
ก็รักที่ ชัยพฤกษ์ ตรึกความงาม..
**.. แม้นมิใช่ โดมหยัด จรัสค่า
เป็นเพชรหนึ่ง แกร่งกล้า น่าเกรงขาม
เรามิใช่ จามจุรี ที่เรืองนาม
เป็นเพียงความ เรียบง่าย ในคืนวัน..
**.. ยึดความดี ความรู้ คู่สรรค์สร้าง
เป็นแบบอย่าง ทางให้ ได้สร้างสรรค์
ความภูมิใจ ที่เห็น เป็นรางวัล
เพื่อสานฝัน เพื่อสร้างหวัง เพื่อสังคม...
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
17 มีนาคม 2552 23:10 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ความล้มเหลว แหลกลาญ แห่งการศึกษา
กองเบื้องหน้า เอาแต่ มุ่งแก้ไข
ปฏิรูป ซ้ำซาก มากเกินไป
ระบบใหม่ ปรับลุคส์ เกือบทุกปี..
**.. ข้อบกพร่อง ช่องว่าง สร้างโอกาส
การตลาด กวดวิชา เป็นหน้าที่
เด็กก็รู้ ครูก็ด้วย ช่วยถ้อยที
รายได้ดี ล้วนชอบ เป็นกอบกำ..
**.. ค่านิยม มหาลัย ใครบัญญัติ
มุ่งจำกัด มุ่งเปรียบ มุ่งเหยียบย่ำ
สอบไม่ติด คิดสั้น ครั้นชอบทำ
เป็นลำนำ หน้าหนึ่ง พึงวนเวียน..
**.. สุดระอา ปัญญาชน คนถากถาง
วิชาการ วิชากาง ช่างปรับเปลี่ยน
เด็กซึมซับ รับมา แทบอาเจียน
ไม่เคยเรียน วิชา คุณค่าชีวิต..
**.. ความล้มเหลว แหลกลาญ พลันปรากฏ
บริบท การศึกษา เดินหน้าผิด
เตือนผู้ใหญ่ ให้ครวญ หวนพินิจ
มองดูทิศ ทางใหม่ ก่อนใคร่เดิน...
ด้วยความหวังดี
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ก.นพดล รักษ์กระแส
25 กุมภาพันธ์ 2552 23:22 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. หากมิใช่ แสงจันทร์ อันกระจ่าง
เป็นหลอดไฟ รายทาง อย่างที่เห็น
หากมิใช่ เหมันต์ อันชื่นเย็น
เป็นร้อนเร้น เร่งรุก ทุกทิวา..
**.. หากมิใช่ ดอกไม้พลิ้ว งามทิวทัศน์
เป็นป่าปก รกชัฏ อันทึบกว่า
หากมิใช่ สายน้ำ ฉ่ำอุรา
เป็นแอ่งครา ฝนพรำ ก็ฉ่ำใจ..
**.. แม้มิใช่ นภา ท้องฟ้ากว้าง
เป็นลูกรัง สรรสร้าง เส้นทางใกล้
แม้มิใช่ มิ่งเมือง เรืองวิไล
เป็นภูธร แสนไกล ในผู้คน..
**.. แม้มิใช่ สะพานดาว สู่ราวฝัน
ยังยืนยัน สองเท้า ก้าวถนน
แม้มิใช่ สรวงสวรรค์ ชั้นเบื้องบน
ขอวางตน บนโลกงาม ตามพอดี..
**.. แม้มิเป็น เช่นเธอ เผลอดวาดไว้
ที่สดใส งามพักตร์ สมศักดิ์ศรี
ฉันเป็นฉัน เช่นเก่า เท่าที่มี
เพียงแค่นี้ รับได้ หรือไม่เอย...
ด้วยรักและหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
21 กุมภาพันธ์ 2552 21:17 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. แลเห็นนก ว่ายน้ำ กลางลำห้วย
ปลาสีสวย ว่ายฟ้า เวหาหาว
ตะลึงโลก หมุนรอบ ขอบดวงดาว
ดอกไม้กร้าว โลดเล่น เด่นท้าลม..
**.. กลางวันดับ รัศมี รวีส่อง
ดาวลอยล่อง ท่องกระแส เป็นแพรห่ม
กลางคืนจ้า กระจ่างใส นัยน์ตาคม
อาทิตย์กลม แย้มถึง อีกหนึ่งคืน..
**.. หิ่งห้อยน้อย ขันขรม ระงมป่า
เตือนเวลา สายัณห์ จงพลันตื่น
ออกเก็บซาก กากไม้ ใช้ทำฟืน
จุดไฟชื้น เร่งรับ ซับไอเย็น..
**.. หุงข้าวปลา อาหาร จากชั้นสรวง
ให้โรยร่วง งอกงาม ตามที่เห็น
ดื่มโคลนตม เกลื่อนกลาด สาดกระเซ็น
ลืมประเด็น โลกหมอง ครองหทัย..
.................................................................................................
**.. โลกเช่นนี้ เธอพลาด อาจลืมหลง
และงันงง ว่ามิเห็น เป็นไปได้
โดยราตรี จักกระจ่าง ได้อย่างไร
ข้าวที่ไหน จากฟากฟ้า ร่วงมาดิน..
**.. ภาพวาดวาง ขีดเขียน ใช่เพี้ยนหลง
เจตจำนง ใคร่อยาก ฝากถวิล
โลกกวี ขับร่าย ให้ยลยิน
มิสุดสิ้น จินตนาการ ผ่านเวลา...
( เป็นอะไร จักเป็นได้ ในพริบตา
ด้วยภาษา อักษร กลอนกวี )
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร