15 มีนาคม 2548 17:05 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. คิดถึง.........
วรรคกลอนซึ้ง แสนหวาน นานหนักหนา
ประทับจิต ด้วยคำ จำนรรจา
ประทับตรา ตรึงแนบ แอบดวงใจ..
**.. ความอบอุ่น ทุกครั้ง ที่นั่งอ่าน
พี่ประสาน ร้อยกรอง ตรองคำใส่
ทุกทุกวรรค พากเพียร เจียรไน
จนละไม งามละเมียด ละเอียดลออ..
**.. ทุกดวงดาว พราวพราย อยู่รายฟ้า
พี่หยิบมา เรียงดวง รวงชูช่อ
แต้มน้ำค้าง พร่างรุ้ง เป็นคุ้ง กอ
เส้นใยทอ ถักได้ เป็นสายใย..
**.. ทุกกวี พี่เขียน พี่เพียรสร้าง
เป็นแบบอย่าง ตรองเฝ้า เอาใจใส่
ชื่อว่าหวาน อบอุ่น ละมุนละไม
อ่านแล้วใจ ชุ่มหวัง ทุกครั้งครา..
**.. นานมากแล้ว จากวันนั้น จวบวันนี้
ถ้อยกวี ยังซึ้ง ตรึงคุณค่า
ฝากความรัก และความสุข ทุกเวลา
ลอยไปสู่ ฟากฟ้า ติตรากร
ด้วยรักและหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
15 มีนาคม 2548 12:16 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ถ้ามองตา คราวใด แล้วใจอ่อน
ตาจะซ่อน ซึ้งเล่ห์ สิเน่หา
ให้คนมอง ตรึงจิต จนติดตา
ทุกลีลา ตรึงจิต จนติดจำ..
**.. แล้วอารมณ์ จมภวังค์ หลังการพบ
แววเนตรสบ ตาเขิน เกินพูดพร่ำ
ดั่งมนต์เสก เคลิ้มหวาน เกินหว่านคำ
เพียงตานำ แสดงบอก ออกจากใจ..
**.. ก็รู้ว่า ลึกลึก ยังอึกอัก
คำเพียงหนึ่ง ว่ารัก อยากชิดใกล้
ดูเหมือนห่าง อีกฝั่งฟ้า วาจาใด
เกินจะไข.. คำกล่าว เล่าวาที..
**.. แว่วรำพัน เพลงดาว พราวระยับ
กล่อมกลอนขับ ใต้แสงจันทร์ อันสุกสี
ขวัญตาเจ้า มาประทับ กับฤดี
คืนเหงานี้ มีคนหนึ่ง คิดถึงนัก..
**.. ถ้ามองตา คราวใด แล้วใจอ่อน
ตาจะย้อน ถามไป ให้แน่นหนัก
ใจร้อนรน ตึกตึก ดูทึกทัก
เธอจะเอ่ย คำว่ารัก หรืออย่างไร..
ด้วยรักและหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
8 มีนาคม 2548 22:04 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ไม่อยากถาม คำซึ้งซึ้ง คิดถึงไหม
แม้หัวใจ ร่ำร้อง ให้ต้องถาม
ไม่อยากเอ่ย ถ้อยรส เป็นบทความ
อ้างนิยาม ความรัก มาฝากเธอ..
**.. อยู่ต่อหน้า ชาเฉย ฉันเลยผ่าน
แต่ใจค้าน กลับตอบ ชอบเสมอ
ปากฉันแข็ง ทุกครา เมื่อมาเจอ
กลัวจะเพ้อ พูดพร่ำ จนรำคาญ..
**.. จนวันก่อน อดรน ทนไม่ได้
นัดเธอไป ชี้แจ้ง แถลงขาน
ฉันรักใคร คนหนึ่ง ซึ้งมานาน
และรักหวาน ด้วยหวัง พลังใจ..
**.. อยากจะบอก มากกว่า คำว่ารัก
กลัวเธอจัก บอกเอียน เจียนคลื่นไส้
ไม่รู้สรร คำหวาน สักปานใด
แทนดอกไม้ ไมตรี มีแก่กัน..
**.. ไม่รู้เธอ มีใจ ให้หรือเปล่า
สุดจะเดา คาดได้ ดั่งใจฝัน
เธอพูดเพียง ที่มา หาวันนั้น
เพราะใจมัน เรียกร้อง ให้ต้องมา..
ด้วยความหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
5 มีนาคม 2548 22:06 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ฉันเคยถาม ฟ้าดิน จนสิ้นเสียง
ท่านลำเอียง หรือไร ใยสับสน
ที่ร่ำรวย เรียกว่า ปัญญาชน
ที่ยากจน เรียกชนชั้น ไร้ปัญญา..
**.. เกิดคำถาม และคำตอบ อยู่แตกต่าง
เกินกล่าวอ้าง เหตุผล ฉันค้นหา
เริ่มสะสม แก้วแหวน แทนตำรา
และไขว่คว้า ชื่อเสียง มาเคียงครอง..
**.. เพราะกลัวเรา จะตกยุค ตกสมัย
แสวงหา ผลกำไร ไม่ขัดข้อง
ยืนอยู่บน กองพะเนิน ทั้งเงินทอง
ทุกอย่างคล่อง แคล่วได้ เมื่อใช้เงิน..
**.. คนยากจน ลืมได้ เพราะไร้สิทธิ์
เสียเวลา ครุ่นคิด อยู่นับเนิ่น
คนไฮโซ หน้าใส ไม่รับเชิญ
โน่น ทางเดิน เชิญออก นอกสังคม..
**.. เกิดคำถาม และคำตอบ อยู่แตกต่าง
ฉันตอบบ้าง นั่นคือคิด อย่างติดหล่ม
ที่เรียกว่า ชนปัญญา น่าชื่นชม
ควรหัดก้ม แล้วมองตัว วัวลืมตีน
ด้วยความหวังดี
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ก.นพดล รักษ์กระแส
5 มีนาคม 2548 10:25 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ที่ปากร้าย ดึงดัน คือฉันแน่
ไม่เคยแปร เปลี่ยนผัน แม้วันไหน
คงยึดติด ภาพเก่าเก่า โปรดเข้าใจ
คือนิสัย คือตัวตน คือคนจริง..
**.. ถ้าเธอเลี่ยง ใส่ใจ ในเหตุผล
อาจเห็นฉัน พร่ำบ่น ในทุกสิ่ง
แต่ถ้าเธอ วางใจ ไม่ประวิง
นั่นคือความ รักยิ่ง แด่มิ่งมิตร..
**.. เลิกไม่ได้ หรอกเพื่อน แม้เตือนฉัน
จะบีบคั้น อย่างไร ก็ไร้สิทธิ์
ฉันเป็นฉัน เช่นนี้ ทั้งชีวิต
ไม่สร้างผิด แก่ใคร พอใจแล้ว..
**.. ทางที่ก้าว เท้าที่เดิน บนดินนี้
ทุกก้าวมี ศรัทธา อย่างแน่แน่ว
เป็นหินผา กล้าทะนง คงเส้นแนว
ไม่เป็นดาว วาวแวว แพรวนภา..
**.. คงปากร้าย ทั้งปี ไม่มีเปลี่ยน
คอยติเตียน เตือนเธอ ทุกทีท่า
หวังวันหนึ่ง เมื่อเธอผ่าน กาลเวลา
จะรู้ว่า ที่ด่าไป ใจหวังดี
ด้วยความหวังดี
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ก.นพดล รักษ์กระแส