11 พฤษภาคม 2548 11:44 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. แล้ววันหนึ่ง ตื่นมา กลางฟ้าสาง
บนท้องนา ผืนกว้าง ทางเส้นเก่า
ลมยังพัด เอื่อยแว่ว แผ่วแผ่วเบา
ฉันต้อนเฝ้า เจ้าทุย ลุยท้องนา..
**.. กับยุคของ สังคม อันล้มเหลว
เกิดไฟเปลว ร้อนแรง แห่งตัณหา
คนเริ่มหัน เบี่ยงบ่าย หน่ายศรัทธา
ไม่เห็นค่า ความดี ของชีวิต..
**.. ข้าวิ่งตาม เวลา อย่างล้าแรง
ต้องแอบแฝง เงื่อนงำ ทำปกปิด
ไม่มีน้อง ไม่มีพี่ ไม่มีมิตร
มีแต่ผล ธุรกิจ คิดกำไร..
**.. อยู่กับโลก ต่ำช้า อย่างว้าวุ่น
คิดถึงตัก เคยนอนหนุน อุ่นชิดใกล้
โลกเงินทอง ไม่ถึง ครึ่งของใจ
โลกแห่งวัย วันเก่า เล่าตรึงตรา..
**.. หวังวันหนึ่ง จะกลับมา กลางฟ้าสาง
ยืนหยัดบน ท้องทุ่งทาง อย่างมีค่า
ลืมวันคืน เคยหยาบกร้าน ผ่านด้านชา
แล้วบอกโลก โฉดเขลาว่า ข้าพอแล้ว !
ด้วยความหวังดี
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ก.นพดล รักษ์กระแส
24 เมษายน 2548 14:43 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. เมื่ออยุติธรรม นำคน จนหวั่นหวาด
นิติศาสตร์ ย่อมหยัดสู้ สู่ทุกถิ่น
เชิดตราชู คู่ฟ้า คู่ธานินทร์
บนแผ่นดิน วันนี้ ต้องมีเรา ..
ด้วยรักและความหวังดี
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ก.นพดล รักษ์กระแส
24 เมษายน 2548 14:23 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. ต่อเวลา เคลื่อนที่ ไม่มีหยุด
เราพบจุด เริ่มต้น เคยค้นหา
ในขณะ เดียวกัน ธรรมดา
เราพบการ จากลา อยู่เช่นกัน
**.. จึงเห็นทุก นาที ย่อมมีค่า
เก็บเกี่ยว เวลา ตามล่าฝัน
มีน้ำใจ คนรอบข้าง แทนรางวัล
และเก็บวัน แสนหวาน ณ ลานใจ
**.. เพื่อยามที่ ล้มลง ตรงความหนาว
พบกับ เรื่องราว คราวหวั่นไหว
ใจรำลึก ถึงคราว เคยมีใคร
เคยร่วมเรียง เคียงใกล้ ในฤดี
**.. ดาวดวงนั้น ฝันไกล จะไปถึง
เป็นเพียงคำ รำพึง คนหนึ่งที่
หวังก้าวเก็บ ดาวน้อย ร้อยกวี
มาร้อยรวง ไมตรี กวีกานท์
**.. เวลา นาที ย่อมมีค่า
ก้าวไปคว้า ความฝัน อันแสนหวาน
ก่อนค่ำคืน ผืนฟ้า ดาราลาน
จะล่วงผ่าน สู่วันใหม่ ไม่มีดาว
ด้วยความหวังดี
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
ก.นพดล รักษ์กระแส
20 มีนาคม 2548 01:14 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. เริ่มจากรัก แล้วศึกษา หาความรู้
อย่างเช่นผู้ เริ่มหัด คัดขีดเขียน
ขาดไม่ได้ คือขยัน และหมั่นเพียร
ทุกบทเรียน และบทกลอน จะสอนเรา..
**.. มีแบบครู เป็นทาง ผู้สร้างสรรค์
ร้อยเรื่องรส บทประพันธ์ คำบอกเล่า
ฟังแล้วคิด จิตจึงตรอง กรองกันเอา
รัก-โกรธ-เศร้า เหงา-อารมณ์ คมความคิด..
**.. มาสู่ปลาย ปากกา และหน้ากระดาษ
สิทธิ์เสรี ที่จะวาด หวังลิขิต
เติมสาระ ลงบ้าง อย่างละนิด
กลอนจะดู มีชีวิต มีชีวา..
**.. ไม่เพียงแค่ วางคำ ทำง่ายง่าย
ลืมความหมาย รสคำ อันล้ำค่า
ใช่ระบาย อารมณ์ หมักหมมมา
แล้วเรียกว่า บทกวี ทุกที่ไป..
**.. แค่วางคำ สัมผัส จัดได้ครบ
สรุปจบ ว่างาม ความลื่นไหล
ทุกวรรคตอน ขาดละเอียด ละเมียดละไม
แล้วอ้างว่า งามที่ใจ มิใช่กลอน..
**.. ควรใฝ่หา ความงาม ตามก่อนเก่า
อีกผู้เฝ้า บอกพร่ำ คำสั่งสอน
เปิดใจรับ การติ-ชัง จงสังวรณ์
นั่นแหละคือ คำพร สอนกวี..
ด้วยรักและหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร
18 มีนาคม 2548 17:25 น.
ต่อง (ต้อง) ksg
**.. โลกสู่ยุค ที่ความดี มีไว้ขาย
ความงมงาย ครอบงำ หลักความเชื่อ
อุ่นอาทร ก่อนใคร ได้จานเจือ
แทบไม่เหลือ จารึกไว้ ในตำนาน..
**.. เหมือนนิยาย น้ำเน่า มาเล่าสู่
รำลึกผู้ เสียสละ และกล้าหาญ
วีรกรรม ไร้รอย คอยจดจาร
คำกล่าวขาน ติดเตือน ก็เลือนไป..
**.. มาสู่ยุค วัตถุ บรรลุธรรม
เรื่องเวรกรรม ธรรมะ ล้าสมัย
ค่าของคน ความดี วัดที่ใจ
แทบจะไม่ ยอมรับ กับสังคม..
**.. โลกเปลี่ยนไป ตามกาล สันดานมนุษย์
บริสุทธิ์ คุณธรรม การสั่งสม
อาจแพ้ภัย โลกทัศน์ วัตถุนิยม
และจ่อมจม การยึดติด อวิชชา..
**.. ถ้าวันนั้น ความดี มีไว้ขาย
ความงมงาย แลเห็น เป็นคุณค่า
เมื่อเงินทอง กองเหนือเศษ ความเมตตา
จะถามหา ความเป็นคน จากหนใด..
ด้วยรักและหวังดี
ก.นพดล รักษ์กระแส
ก.ประแสร์ ศิษยาพร