27 พฤษภาคม 2553 22:14 น.
ตานูน
ผมดีใจพรุ่งนี้ไม่มีเรียน
นั่งวาดเขียนแผนการผลาญเงินแม่
อยากจะชวนเพื่อนผองไปล่องแพ
สนุกแน่คลายร้อนตอนลงน้ำ
ซื้ออะไรไปกินกันในวันหยุด
หลังเปลี่ยนชุดชิ้นน้อยที่เปียกฉ่ำ
ดูสาวสาวทั้งหลายแหวกว่าย-ดำ
เล่าเรื่องขำหัวเราะกันให้ลั่นเลย
แม่โทรถามตามหาอย่าหวังรับ
โทรศัพท์เปิดค้างแต่วางเฉย
กลับถึงบ้านค่อยแก้ต่างเหมือนอย่างเคย
บอกแม่เอ๋ย ตั้งสั่นไว้ไม่ได้ยิน
ถ้าแม่ถามทำอะไรไปกลับบ้าน
บอกมีงานที่มหาลัยไม่เสร็จสิ้น
คิดถึงแม่คนนี้สุดชีวิน
จึงรีบบินกลับมาอย่าเอ็ดไป
แม่ก็คงจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
เออ! ลูกฉันเรียนอย่างเดียวไม่เที่ยวไหน
แค่แบงค์พันงามงามสองสามใบ
แม่คงไม่โกรธาคิดฆ่าฟัน
ตัดสินใจโทรหาบรรดาเพื่อน
หวังชวนเหมือนที่คิดไม่ผิดผัน
แต่แล้วเหล่าเพื่อนต่างไม่ว่างกัน
ทุกคนนั้นอยู่บ้านกับมารดา
ตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าไปหาแม่
หญิงแก่แก่ที่คงเหงาเฝ้าคอยท่า
ลูกคงจะทำสิ่งดีที่กลับมา
แม่มีค่าเหนือสิ่งใดในชีวิต!
25 พฤษภาคม 2553 01:06 น.
ตานูน
ค่ำคืนนี้ นอนอย่างไร ก็ไม่หลับ
ใจกระสับ กระส่าย คล้ายห่วงหา
ภาพคนรัก จากไป อยู่ไกลตา
ยังวนมา ทักทาย คราหายใจ
เป็นภาพที่ ทำให้ หัวใจช้ำ
คอยย้อนยอก ตอกย้ำ น้ำตาไหล
ในยามนี้ หน้ามน อยู่หนใด
เจ้าจะรู้ บ้างไหม ใครรอคอย
ทุกวันที่ ยืนอยู่ สู้ชีวิต
คงยึดติด กับวันเก่า อย่างเหงาหงอย
ความหวังอัน แปดเปื้อน ดูเลื่อนลอย
ทุกข์ทยอย ท่วมทั่ว ห้องหัวใจ
อยากจะโทร ไปหา บอกว่ารัก
กลัวเธอจัก รำคาญ พาลโกรธได้
จึงปล่อยความ คิดถึง รำพึงไป
เผื่อคนรัก คนไกล จะได้ยิน
มองหน้าปัด นาฬิกา ดูช้าเชื่อง
ทุกมุมเมือง เกลื่อนกลาย เป็นทรายหิน
ไม่เหลือ ความรู้สึกใด ให้ชื่นชิน
อวลแต่กลิ่น ความรกร้าง ความว่างวาย
โลกถูกเก็บ ในย่าม แห่งความเศร้า
ม่านสีเทา ปิดบัง สุขทั้งหลาย
เป็นคนเป็น ที่หมองหม่น อย่างคนตาย
หยุดขวนขวาย สิ่งใด ให้คนแซว
คืนนี้นอน อย่างไร ก็ไม่หลับ
เมื่อใจรับ ความจริง ยิ่งเต้นแผ่ว
ภาพคนรัก จากไป ไรวี่แวว
จบสิ้นแล้ว พร้อมกับสาย ลมหายใจ!
24 พฤษภาคม 2553 08:49 น.
ตานูน
เมื่อเหตุการณ์ประท้วงได้ล่วงพ้น
การดิ้นรนยุติตามวิถี
ไม่มีใครชนะใคร-สุขไม่มี
กลับป่นปีพินาศทั้งชาติไทย
แม้นเป็นการต่อสู้ที่รู้ฝ่าย
รู้ดี-ร้ายถูกผิดวินิจฉัย
แต่ยิ่งยลยิ่งเห็นความเป็นไป
คือดวงใจดวงเดียวกันถูกบั่นทอน
จึงเจ็บปวดรวดเร้าเข้าเนื้อหนัง
จึงพ่ายพังกลัดกลุ้มทุกกลุ่มก้อน
จึงย่อยยับอัปยศทุกบทตอน
จึงรุ่มร้อนแร้นแค้นทั่วแผ่นดิน
ถึงเพลิงเปลวเลวร้ายได้มอดดับ
เหลือเพียงเถ้าถ่านทับเศษทรัพย์สิน
เหมือนหมดเรื่องกังวลให้ยลยิน
แต่ดวงจินต์ที่แหลกร้าวยากเข้าใจ
และพร้อมจะประทุอยู่ทุกเมื่อ
อย่าไว้เนื้อเชื่อจิตต้องคิดใหม่
จะลบรอยบาดหมางได้อย่างไร?
ควรคนไทยเริ่มริหาวิธี
หนึ่งหนทางสร้างสมสังคมสุข
คือปลอบปลุกจิตสำนึกแห่งหน้าที่
พร้อมผสานน้ำใจรั้วไมตรี
สองมือคลี่วางอาวุธหยุดทำลาย
ไม่เข่นฆ่าอาฆาตสาดโคลนเปื้อน
ไม่บิดเบือนความจริงทิ้งเป้าหมาย
ไม่ก่อความเคืองขุ่นความวุ่นวาย
ไม่แบ่งฝ่ายแบ่งพรรคจากเสื้อชุด
เพื่อประเทศได้มีวันแห่งสันติสุข
วันความทุกข์ทั่วถิ่นได้สิ้นสุด
วันคุณธรรมนำในใจมนุษย์
วันล่วงหลุดภัยพาล เกมการเมือง
18 พฤษภาคม 2553 22:03 น.
ตานูน
I am a little candle
Which burns itself washing away the darkness
And guides every heart by the brightness
In terrible nights
I am music
Which wakes people up with loudness
And sometimes calms their restlessness
By the beautiful sound of silence
I am a truly friend
Who brings every away from loneliness
And relieve his stress
Without expecting valuables in returns
I am whoever strangers want
And try to make this world painless
What I am is in progress,
And it surely lasts forever
17 พฤษภาคม 2553 21:23 น.
ตานูน
อยากเห็นภาพแห่งฝันวันฟ้าใส
วันคนไทยปรองดองฉันท์น้องพี่
วันความสุขความรักสามัคคี
วันความดีเหนือนำความต่ำทราม
อยากเห็นภาพแห่งรอยยิ้มอิ่มวงหน้า
ทุกแววตาชื่นฉ่ำสิ้นคำถาม
มิตรไมตรีอุ่นเอื้อทุกเมื่อยาม
ประสบความรุ่งเรืองทั่วเมืองไทย
อยากเห็นภาพความขัดแย้งแรงอาฆาต
ถูกแผ้วถางล้างกวาด-ชาติสดใส
ลดทิฐิลดโทสะรู้อภัย
มือจับมือถือหัวใจยื่นให้กัน
อยากเห็นภาพการเคี่ยวแข่งการแบ่งข้าง
ภาพการวางอำนาจขาดสะบั้น
ไม่มีการรุกรานการฆ่าฟัน
ไม่เอื้อนเอ่ยเย้ยหยันแยกชั้นชน
อยากเห็นภาพไตรรงค์ธงไสว
พัดโบกความเป็นไทยให้เกิดผล
แจ้งประจักษ์สายตาโลกสากล
ได้ยินยลคุณค่าอย่างถาวร
อยากเห็นภาพทุกภาพที่ราบรื่น
ไม่ขมขื่นโหดร้ายเกินถ่ายถอน
ไม่เจ็บปวดเลือดเปื้อนเหมือนบางตอน
ไม่เดือดร้อนคั่งแค้นอยู่แสนนาน
ถ้าไม่เห็นภาพใดในเบื้องต้น
จะจำนนทุกอย่างบนทางผ่าน
จะยอมเป็นคนตาบอดตลอดกาล
ดีกว่าทานทนเห็นความเป็นไป