22 มีนาคม 2550 00:34 น.
ตาทึบ
เรียวริ้วเหงาเฝ้าพรมห่มใจเจ้า
อ้างว้างเคล้าคลุกใคร่ให้โหยหา
ร้างไร้สิ้นถิ่นลี้หนีชะตา
บทเพลงลายังแผ่นแว่วไกลไกล
22 มีนาคม 2550 00:23 น.
ตาทึบ
ใช่รักใช่ครอบครอง
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม .............แต่ไม่ใช่สิ่งโหดร้าย
เพียงได้รักได้มอง .........ได้ส่งกำลังใจ ..........หรือประคองยามเขาล้ม
20 มีนาคม 2550 15:02 น.
ตาทึบ
ยามตะวันร่อนอ่อนแรงแสงเริ่มหม่น
ลำนำชลพลิ้วบรรเลงเพลงส่งท้าย
วิหกโบกปีกร่ำลาฟ้าริ้วลาย
เมฆากลายร่างเริ่มลับกลับถิ่นเนาร์
จันทร์เจ้าแย้มแก้มเจ้าพริ้มจับริมฟ้า
ลิ่วชายตาหากระต่ายเพียงคลายเหงา
เพียรคิดคำเสริมสำเนียงเรียงภาพเงา
เพื่อคนเฝ้าเคล้าแสงนางไม่ห่างกัน
แววแก้วอับจับตาหมองที่มองฟ้า
ถ้อยวาจาซึมผ่านเนตรไร้เขตกั้น
ดุจเสียงโหยจากกระต่ายเป้าหมายจันทร์
มือแต่งฝันเริ่มสงบนิ่งนั่งพิงกาย
ใจเหงายังรั้งอยู่รอไม่ท้อถอย
แหงนเฝ้าคอยเลื่อมราตรีไม่หนีหาย
คราบที่เคยอยู่โดดเดี่ยวยามเดียวดาย
เริ่มซึมกายประทับเข้าแล้วเจ้านาง..
เจ้านาง (ยายเพิ้ง) น่ะ น่ะ นา น่ะ ตาทึบ
19 มีนาคม 2550 14:04 น.
ตาทึบ
สายลมเหงาเริ่มเป่าหนาวมาราวซบ
มาอิงอบรบเร้าใจให้โหยหงอย
เพียงแค่นางบอกให้เจ้าอย่าเฝ้าคอย
ราตรีลอยไร้ร้างนางไม่มา
หวังแค่เป็นบัวกลีบล้าลาชลโศก
โดนชลโยกเย้าหยอกจนดอกล้า
แค่ปริ่มตัวหลบพับหลับดวงตา
ยามจันทร์ลามาคลี่ดอกให้หยอกชม
เมื่อกายว่างร้างไหล่ใครอิงแนบ
ใจคิดแอบร่างภาพฝันวันสุขสม
จะเติมปีกก้านเรียวอ่อนไว้ร่อนลม
แต่ใจตรมไม่อาจวาดดังคาดไป
ใจข้าคิดคิดถึงเจ้าเจ้ารู้เปล่า
กายข้าเหงาเหงาเหลือเกินเกินห้ามไหว
กว่าจะผ่านคืนที่ร้างทางช่างไกล
กลับมาใกล้...............................................
เจ้านาง ข้าขอต่อรอง น่ะ น่ะ ตาทึบ
17 มีนาคม 2550 09:50 น.
ตาทึบ
ริ้วลมเอื่อยเหนื่อยล้าคราวันพลบ
คล้ายอยากหลบซบกายให้หายโหย
เหลือแต่ผิวริ้วร่ายคล้ายมือโปรย
สายเหงาโชยโลมเล้าเคล้าค่ำคืน
จันทร์สีผ่องส่องหล้าคราฟ้าหลับ
ดาวระยับรับแก้มอิ่มยิ้มระรื่น
ทอสายสวยช่วยแต้มทาฟ้ากลางคืน
ตาพี่ชื้นแล้วเจ้านางที่ห่างไกล
ออกมายิ้มรับกับฟ้าเมื่อลาเจ้า
ริ้วแพรเหงาเริ่มสาดพรมห่มคนใกล้
สัญญาเราเจ้าให้ไว้ช่างแสนไกล
น้ำตาไหลซบแก้มแล้วเจ้านาง
รุ้งสีหม่นอ้อมล้อมจันทร์เมื่อหันชม
ฝ้าที่ห่มดวงตาเริ่มลาร้าง
. แต่งไม่ไหวแล้วเจ้านาง
ตีสามแล้วนอนยายเพิ้ง