10 ธันวาคม 2552 15:56 น.

คิดถึงยาย..และสายบัว

ตั ว เ ล็ ก

ไปเที่ยวสวนผลไม้ที่ไร่ฝุ่น		
มีขนุน น้อยหน่า พุทราหวาน		
สะพายเป้มือกระชับแล้วจับอาน		
เห็นรวงร้านท้ายซอยมาคอยรอ		

เค้าตั้งแผงแต่เช้าตรู่เธอรู้ไหม		
นกขะแมร์บังใบอยู่ไหนหนอ		
กระต่ายตื่นหน้ายู่ยังชูคอ		
เสือลายหงอแลตลอดนั่นปลอดภัย		

จึงลงเดินขึ้นดอยอย่างอ้อยอิ่ง
ฝักต้อยติ่งฝากเพาะชำฉันกำไว้
เก็บก้อนหินไปละเมอเสมอใจ
เป็นต้นกล้าพันธุ์ใหม่ในอาณัติ

ให้มีค่าเป็นต้นหวังกำลังใจ
พร้อมลำไยไร้แก่นแน่นขนัด
ชั่งกิโลสักสอง ไม่ต้องมัด
วานเธอจัดเรียงไว้แล้วใส่ถุง

ซื้อลำไยจากเรียวคุ้งแล้วมุ่งหน้า
ผ่านเทือกสวนไร่นาและผักบุ้ง
ค่อยเลี้ยวขวาไปบ้านของพรานตุง
ผู้มีทุ่งตำลึงและบึงบัว

เห็นใบบอนตรงนั้นสั่นไหวๆ
น่าจะใช่ฉันทึกทักพยักหัว
หวังบ้านนี้คงมีขายนะสายบัว
จึงยืนเกาะข้างรั้วอยู่ไกลๆ

เสียงตำหมากของยายเริ่มฉายชัด
ฉันเดินลัดเข้าไปดูอยู่ใกล้ๆ
แกงสายบัวในหม้อเหมือนรอใคร
แค่กลิ่นไอก็อวลซึ้งคิดถึงยาย

.......................................................				
5 ธันวาคม 2552 19:41 น.

ในนาทีโลกเหงา.. พ่อเข้าใจ

ตั ว เ ล็ ก

มิรู้ทิศ มิรู้ทาง การย่างก้าว			
จะถอนเท้า ถอยทัพ ไปทางไหน			
โลกใบน้อย ลอยคอ รอบางใคร			
โลกภายนอก เป็นอย่างไร ไม่อยากรู้

หวาดระแวง เมล็ดพันธุ์ การปั้นปลูก
เที่ยวลองผิด ลองถูก เป็นลูกคู่ 
กลางระลอกหมอกควันนั้นสั่นฟู
โลกภายใน หดหู่ อยู่ลำพัง

หวังสัมผัสรอยยิ้มสักนิ่มน้อย
ประดับรอยกระจกใสใกล้ผนัง
ไม่รับรู้ความเห็นการเด่นดัง
ด้วยเชิงชัยชิงชังแต่ครั้งใด

ขอฟังเสียงหญ้าไกวมาไหวเห่
ขอยิ้มรับลมทะเลอยู่ใกล้ๆ
ขอสัมผัสแสงดาวที่พราวใจ
ขออุ่นไออบอวลล้วนไมตรี

คิดถึงภาพ  คิดถึงเสียงแห่งเดียงสา
คิดถึงพ่อ คิดถึงบ่าสารถี
คิดถึงมือ คิดถึงเหงื่อนั้นเหลือดี   
ในนาทีโลกเหงาพ่อเข้าใจ				
29 พฤศจิกายน 2552 22:17 น.

ฉันเป็นแค่กวีที่ไร้รัก

ตั ว เ ล็ ก

ฉันเป็นแค่กวีที่ไร้รัก
มิใช่นักกวีที่มีฝัน
ใช้ความเหงานำทางในบางวัน
และก็เป็นเช่นนั้นเสมอมา

บทกวีหล่อเลี้ยงเพียงแค่นั้น
มิได้หวังรางวัลหรือคุณค่า
หากเธอเก็บตัวอักษรซ่อนนัยตา
ขอให้คิดเสียว่าเพียงอาภรณ์

เพราะมันอาจงดงามกว่าความจริง
ด้วยเป็นสิ่งประดับสลับถอน			
เมื่อไร้มือก็หมดงามสิ้นนามกลอน			
ฉันนิ่งนอนเธอก็หน่ายกลับกลายไป			

วิถีทางเธอยังสะพรั่งอยู่			
ในรับรู้ไฟฝันแห่งวันใหม่			
ฉันมีค่าเป็นความหลังที่ฝังใจ			
ไม่หวังมีชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง			

ฉันก็เหมือนต้นไม้ที่ตายแล้ว			
อย่าถางแผ้วถอนรากฝากความหวัง			
ฉันสิ้นเสียงจะส่งสายและพ่ายพัง			
ขอเธอยั้งเพื่อรับรู้  ดูฉันตาย				
28 พฤศจิกายน 2552 23:45 น.

เธอ..สายลมที่หยุดการเคลื่อนไหว

ตั ว เ ล็ ก

ฉันมีตัวตนอยู่ตรงนี้
บนแผนที่ไร้ทางร้างจุดหมาย
มีรอยย่ำเหยียบวาดเหนือหาดทราย
ใต้รองเท้าเปล่าดายของวันวาน

ฉันมีตัวตนอยู่ตรงนั้น
ในกระจกความฝันแห่งวันผ่าน
เป็นก้อนกรวดภายใต้ดอกไม้บาน
มีรอยยิ้มในม่านน้ำตานอง

ฉันมีตัวตนอยู่ตรงนี้
ในแสงสีสงบงามความเศร้าหมอง
เป็นดวงตาบอดใบ้เมื่อใช้มอง
มีเสียงร้องร้างไร้ใครได้ยิน

ฉันมีตัวตนอยู่ตรงไหน
บนท้องฟ้า หาดทราย หรือก้อนหิน
ดวงดอกไม้  กาลเวลา  น้ำตาริน
จะยอมให้เธอกลืนกินจนสิ้นใจ

เธอมีตัวตนอยู่ตรงนั้น
ในสายลมสงบงันไม่เคลื่อนไหว
บนลานกว้างฉันจ่อมจมสายลมไกว
กล่อมดวงใจสู่ฝันนิรันดร				
21 พฤศจิกายน 2552 23:00 น.

ฝุ่นอุ่นๆ ในฤดูฝนดาว

ตั ว เ ล็ ก

ฤดูกาลฝนดาวกี่คราวใด
ยังมีไหมอุ่นไอในลมหนาว
เป็นเชื้อเพลิงแห่งฝันอันสกาว
สักชั่วครั้งชั่วคราวให้ชื่นใจ

แม้เปล่งแสงระยิบชั่วพริบตา
ก่อนดิ่งคว้างจากฟ้าลงมาใกล้
แผ่นดินต่ำก็สูงค่ามาครึ่งใจ
และมียิ้มสดใสได้เหมือนฟ้า

น้ำตาดาวหลั่งรินให้ดินรับ
ดินจะซับความทุกข์ยากให้มากกว่า
ปลอบประโลมเช็ดคราบอาบน้ำตา
ให้เธอกลับไปบนฟ้าอีกคราครั้ง

ขอเธอจงจากไปไม่หวนกลับ
ขอฉันนับคืนร้างอยู่ข้างหลัง
บนผืนโลกต่างฟ้าเมฆมาบัง
ฉันก็ยังพูดจาภาษาดิน

ฤดูกาลฝนดาวอีกคราวครั้ง
หวังฉันหวังเราไม่พบเราจบสิ้น
ดาวดวงเดิมอย่าทอนค่ามาสู่ดิน
เธอเจ็บช้ำและฉันชินครั้งเดียวพอ

ประดับดินด้วยฝุ่นเจือเมื่อดาวหาย
แต้มฝุ่นพรายให้พราวค่านัยตาต่อ
อุ่นแสงดาวโปรยปันอันลออ
ขอฉันขอฝันในฝุ่นอุ่นกว่าดาว
(อุ่นแสงดาวไม่ถึงดินถิ่นที่รอ
ขอฉันขอน้ำตาหนุนอุ่นกว่าดาว)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตั ว เ ล็ ก
Lovings  ตั ว เ ล็ ก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตั ว เ ล็ ก
Lovings  ตั ว เ ล็ ก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตั ว เ ล็ ก
Lovings  ตั ว เ ล็ ก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตั ว เ ล็ ก