27 สิงหาคม 2546 11:43 น.
ตะแหง่ว
ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา
อาจารย์สั่งให้พวกเราวิ่งรอบสนาม
สิบนาทีสี่รอบ(ขึ้นไป)ต้องยอมตาม
ถ้าไม่ทำก็อดได้Aชัวร์
แต่ถึงวิ่งก็ใช่ว่าจะได้Aหรอก
อาจารย์บอกวิ่งเพื่อคุณภาพมาตรฐาน
ในการเรียนวิชาหนึ่งซึ่มีคาบเรียนนาน
ฉันนั่งสัปหงกทุกวันเมื่อฟังการบรรยาย
ครั้นมาวิ่งก็ทำให้ใจเกือบท้อ
หนึ่งรอบกว่าเกือบจะตายวิ่งไม่ไหว
สนามกว้าง...กว่าจะถึงสองรอบอีกตั้งใกล
เหนื่อยก็เหนื่อยเหงื่อก็ไหลเข้าในตา
แต่ถึงเหนื่อยอย่างไรก็(ทำเป็น)ไม่บ่น
ถึงจะร้อนยังไง(จำเป็น)ต้องทนไหว
วิ่ง วิ่ง วิ่ง อีกนิ๊ด....นึงก็จะถึงเส้นชัย
เฮ้อ!....ในที่สุดก็วิ่ง(ปนหอบ)มาได้สี่รอบพอดี
*
26 สิงหาคม 2546 09:41 น.
ตะแหง่ว
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ว่าความรู้สึกที่มีนั้นเป็นอย่างไรกันแน่
พร่ำบอกตัวเองว่าไม่คิดไม่แคร์
เขาจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ไม่เกี่ยวกับเรา
บอกใจตัวเองก็หลายครั้ง
แต่ยังมิวายคิดถึงเขา
อยากเบซ้ำๆ...อย่างนั้นหรือหัวใจเรา
รู้บ้างรึปล่าวว่ามันน่าเศร้าเพียงใด
เขาก็แค่เล่นๆเท่านั้น
ไม่คิดว่าเรามีความสำคัญเท่าไหร่
รู้แล้วยังจะคิดมากทำไม
ขอเถอะใจ...อย่าให้เจ็บอีกเลย
25 สิงหาคม 2546 11:49 น.
ตะแหง่ว
ท้องฟ้าคืนนี้ช่างว่างปล่าว
ดวงดาวที่เคยวาววับกลับเลือนหาย
ไม่ออกมาให้ฟ้าได้อุ่นใจ
เจ้าไปอยู่แห่งไหนดวงดารา
รู้หรือปล่าวว่าฟ้ากำลังเหงา
ทำไมเล่าเจ้าไม่ออกมาหา
ฟ้าหม่นหมองเพราะต้องคอยดวงดารา
สงสารฟ้าคืนนี้ที่ไร้ดาว*
24 สิงหาคม 2546 14:15 น.
ตะแหง่ว
ระยะทางอืกยาวไกล
กว่าจะถึงเส้นชัยแห่งความฝัน
อุปสรรคขวากหนามสารพัน
ที่ขวางกั้นเส้นทางฝันให้มืดมน
เหนื่อยและท้อต่อปัญหามารุมเร้า
บางครั้งก็ทำเอาใจเราสับสน
เบื่อกับความเห็นแก่ตัวของคนบางคน
อยากจะไปให้พ้นจากหนทาง
แต่ชีวิตของเราใช่ดีพร้อม
ถึงต้องยอมสู้ไปให้ถึงฝั่ง
ขอเพียงแค่วันนี้ยังมีแรงพลัง
กับความหวังที่ยังเลือนลางอยู่ในใจ
จะขอเอาพลังที่มีอยู่
จะลุกสู้เพื่อให้ไปถึงจุดหมาย
แม้จะยากลำบากสักเพียงไร
จะสานฝันต่อให้ได้เป็นจริง
*
24 สิงหาคม 2546 13:43 น.
ตะแหง่ว
ก็อยากทำตามสัญญานะ
แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแค่ไหน
เมื่อเวลาแต่ละวันที่ผ่านไป
ก็มีผลทำให้ใจเราต้องห่างกัน
เธออยู่ตรงโน้นจะเป็นยังไงบ้าง
มีไหมสักครั้งที่ทำให้ใจเธอแปรผัน
ใครบางคนอาจทำให้เธอรู้สึกผูกพัน
มากกว่าตัวฉันซึ่งอยู่ห่างไกล
ฉันก็ไม่รู้ใจตัวเองดี
ว่าจะมีเธอนี้อยู่นานแค่ไหน
แตไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ขอเพียงเราเข้าใจกันวันนี้ก็พอ*