1 พฤศจิกายน 2553 20:32 น.
ตะเบงชเวตี้
พลิ้วลมโปรย โชยผิว สยิวหนาว
ห้วงห้องหาว หมอกหมอง ครอบครองทั่ว
เย็นจับใจ ไหวสั่น หวั่นทั้งตัว
สระพรั่งมัว ไอวะวาบ อาบผิวกาย
พฤศจิกา มาเยือน เคลื่อนเข้าสู่
ฤกษ์ฤดู เหน็บหนาว ร้าวเหลือหลาย
ผ้าหนาห่ม รมไฟผิง หาทิ้งคลาย
อยากจะหาย ต้องห่มเนื้อ เอื้อไอกัน
เดือนสิบสอง ฟ้าปอง ให้ครองคู่
ใครมีอยู่ ก็สุขสม ภิรมย์ฝัน
ใครไม่มี ก็เที่ยวหา มานะพลัน
ก่อนหนาวนั้น จืดจาง ละวางไป
โอ้ความหนาว นำพา ซึ่งความเหงา
หลายคนเศร้า เคล้าน้ำตา อ่าเอิบไหล
ขาดคู่เคียง เอียงแอบ แนบชิดใจ
ช้ำเกินใด รักที่จาก พรากวันวาน
พฤศจิกา หน้าหนาว ณ คราวนี้
จะหนาวเหน็บ เจ็บฤดี ชีวีผลาญ
สู้..อดทน รอวัน ผันผ่านกาล
ซึ่งไม่นาน หนาวคงพ้น อีกหนเอย
25 ตุลาคม 2553 20:33 น.
ตะเบงชเวตี้
เรื่อยรินไหล ไหลรินเรื่อย เรื่อยเรื่อยไหล
เชี่ยวเชี่ยวไหว ไหวเชี่ยวเชี่ยว เปรียวกระแส
คะนองเอ่อ เอ่อน้ำนอง สองฝั่งแคว
ท่วมท้นแผ่ แย่ทุกย่าน ม้านอุรา
จั้กจั้กจั้ก จั้กจั้กจั้ก จั้กจั้กจั้ก
ฝนตกหนัก ทะลักล้น จนผวา
น้ำขึ้นปรี่ รี่ท่วมไว ในพริบตา
สวนไร่นา บ้านจมหาย ใจระทม
น้ำตานอง นองเหมือนน้ำ ช้ำสุดช้ำ
ฟ้าใจดำ ยังย้ำเติม เพิ่มขื่นขม
เทฝนสาด ราดฝนมา แสนห่าพรม
ของที่จม ก็จมอีก ฉีกหัวใจ
โอ้หมดสิ้น สินเนื้อ เหลือแต่ตัว
ทุกข์ถ้วนทั่ว ที่ท่วม อ่วมเกินไข
จำนั่งเศร้า เอาเท้าก่าย หน้าผากไป
นับหนึ่งใหม่ ต้องไหวหนอ ท้อต้องทน..
23 ตุลาคม 2553 19:20 น.
ตะเบงชเวตี้
เหว่ว้าเหว่ วาบหวิว สยิวหนาว
อกแสนร้าว ร้าวระทม ขมขื่นขม
ใจหนอใจ ไหวสะเทือน มิเลือนตรม
ช้ำระบม เหลือนัก รักละวาง
ข้าพเจ้า เขียนกลอน ตอนว้าเหว่
ด้วยหัวใจ เกเร สุดแต่งสร้าง
จะเสแสร้ง เข้มแข็ง ก็หมดทาง
เพราะอ้างว้าง เหลือล้ำ ช้ำอุรา
โอ้ความรัก ความใคร่ ในมนุษย์
สุดแสนสุด ห้ามจินต์ ถวิลหา
แม้นเจ็บปวด หัวใจ อาบน้ำตา
ยังเฝ้าคว้า เฝ้าใฝ่ หมายครอบครอง
ข้าพเจ้า จบกลอน ตอนว้าเหว่
ปรุงหัวใจ เกเร ให้ผยอง
แล้วยิ้มรับ ความผิดหวัง อย่างปรองดอง
ละเหลียวมอง รักที่ผ่าน เลิกซานซม
เหว่ว้าเหว่ วาบหวิว สยิวหนาว
อกแสนร้าว ร้าวระทม ขมขื่นขม
ใจหนอใจ ไหวสะเทือน มิเลือนตรม
ช้ำระบม เหลือนัก จักละวาง
14 กันยายน 2553 11:49 น.
ตะเบงชเวตี้
พึงเรียงร้อย ถ้อยแทน แขนประณต
แนบจรด ทรวงอุรา วันทาท่าน
แล้วกล่าววรรค ทักทาย หมายชื่นบาน
ณ แหล่งย่าน ชุมกวี แห่งนี้เอย
พึงเรียงร้อย ถ้อยลำนำ ร่ำสื่อสาร
ฝากผลงาน กานท์กลอน สุนทรเผย
เชิญติงติ ผลิชม สมใจเชย
หรือเอื้อนเอ่ย ไต่ถาม ตามมิตรมี
พึงเรียงร้อย ถ้อยกรอง ของจิตจินต์
แม้นยลยิน ไม่เพราะพริ้ง อย่าทิ้งหนี
เพราะล้วนกลั่น จากใจ มอบไมตรี
ด้วยข้านี้ ส่งกล่าว ชาวบ้านกลอน
พึงเรียงร้อย ถ้อยกวี วจีวาด
หากผิดพลาด เชิญบรรดา เมตตาสอน
ช่วยขัดเกลา น้องใหม่ ให้สุนทร
กราบวิงวอน ขอเป็นศิษย์ ทุกอาจารย์
พึงเรียงร้อย ถ้อยแทน แขนประณต
แนบจรด ทรวงอุรา วันทาท่าน
แล้วกล่าววรรค ทักทาย หมายชื่นบาน
สวัสดี กวีย่าน บ้านกลอนเอย