7 กันยายน 2545 16:32 น.
ตะวัน
จากมุมที่มอง...
สัมผัสเพียงเสียงร่ำร้องที่โหยหวน
ครื้นและครึ้มคร่ำและครางอย่างครืนครวญ
การแรมรอนยังเรรวนอย่างร้างไร้
ความเป็นจริง...ความเป็นฝันยังชุ่มชื้น
ดาวไกลลิบยังหยิบยื่นค่ำคืนให้
บางองศายังกล้าแรงด้วยแสงไฟ
เพียงแต่ฝันมันอยู่ไหนยังไม่รู้
ความล่องลอยจึงหลอกลวงอย่างลึกซึ้ง
จินตนาการ แม้เพียงครึ่งไม่เหลืออยู่
ความว่างเปล่ายังยวนเย้าการเฝ้าดู
ห้วงอารมณ์แห่งนักสู้ไม่เหลือแล้ว
จากรอยแยกที่แตกตัวในหัวสมอง
กลายเป็นเพียงเศษละอองที่ไหวแผ่ว
จากครรลองที่มองเห็นเป็นเส้นแนว
เหลือเพียงทางที่ร้างแววและอ้างว้าง
ความอึมครึมคืบเข้าคลุมทุกขุมขน
ความเป็นไปยังปะปนในทุกอย่าง
กลับไม่ได้ ไปไม่ถึงสักหนึ่งทาง
เหมือนถูกตรึง ครึ่งครึ่งกลางกลาง อยู่อย่างนี้
ความอ่อนแอแผ่ขยายมารายเรียง
รับรู้เพียงแสงพรายพริบที่ริบหรี่
จบความจริงที่ใกล้เคียง แต่โดยดี
เข้าสู่โลกแห่งหน้าที่ที่โอบล้อม
5 กันยายน 2545 20:03 น.
ตะวัน
ที่ระเบียงความฝัน
ที่ที่ความดื้อรั้นแฝงตัวอยู่เงียบๆ
ที่ที่มีแต่ความราบเรียบเป็นส่วนใหญ่
ที่ที่ใครต่อใครคอยค้นหา
ที่ที่ให้คำตอบใครเหล่านั้นว่า...หามันไม่เจอ
คือที่ที่เธอกำลังยืนอยู่ตรงนี้
ตรงนี้...มีรักของฉัน
ร้องเพลงกล่อมความฝันที่กำลังงอแง
มันไม่ใช่แค่แน่ใจ
เธอรู้ไหม...ฉันรักเธอ
5 กันยายน 2545 19:44 น.
ตะวัน
ครืนครืน...ครื้นเสียงฟ้ากระชากกระชั้น
ทางด้านแสงก็เช่นกันกระชั้นข่ม
ก่อนเติมเต็มความโหดร้ายด้วยสายลม
พร้อมเม็ดฝนที่พร้อมจมทุกเม็ดทราย
กระแสฝนพลัดพรากฟ้ามาพร่างพื้น
กระแสไฟกลับไหวรื้นไม่ขาดสาย
กระแสเท้าโถมก้าวทับความอับอาย
กระแสตัวพลิกโยกส่าย - ตามสายดนตรี
จากสุราสู่อารมณ์ที่หลากรส
ความกำหนัดมันเกินกดไว้แค่นี้
ชายแปลกหน้ามากับฝันอันสุนทรี
หญิงแปลกตาร้อนราตรี - ยินดีต้อนรับ
ฝนพรั่งพรู ขี้หมูไหล คนได้พบ
ความน่าขำอีกคำรบของห้องหับ
ด้วยความจริงที่สุกงอมพร้อมซึมซับ
ด้วยช่วงวัยที่พร้อมรับการรับรู้
..............................
จากราตรีสู่อรุณอันขุ่นมัว
ภาพพระสงฆ์ปรากฏตัวแต่เช้าตรู่
ภาพสายเดี่ยวเฉิดเฉี่ยวอย่างเลิศหรู
ประกอบตัวให้ได้ดูอย่างแปลกตา