27 กันยายน 2544 14:56 น.

ที่ป่าแห่งฝัน

ตะวัน

นานมาแล้ว...
ละอองฝันได้ก่อแนวเป็นความฝัน
ฉันเดินทางกลางป่าค้นหามัน
ตามลายแทงแสงตะวันที่ผันพา

แต่แล้ว...
ไร้วี่แววแนวฝันที่ฉันหา
ยิ่งเดิน..ยิ่งไกลสุดสายตา
ยิ่งไขว่..ยิ่งคว้ายิ่งล้ารอน

เหนื่อยแล้ว...
ตะวันฉายยังพรายแพรวแนวแดดอ่อน
คล้ายคล้ายจะระบายสีบทละคอน
แต่ใจฉันกลับล้มนอนข้างก้อนดิน

หมดแล้ว...
สายลมพัดความแน่แน่วไปหมดสิ้น
ทิ้งเอาไว้เพียงลมไหวที่ไหลริน
สูดซับไอไล้กลิ่นดินและทราย

สุดแล้ว...
ลมหายใจไหวแผ่วครั้งสุดท้าย
ไร้อากัปสับสนทุรนทุราย
นอนแผ่กายตายช้าช้ากลางป่าฝัน

แล้ว...
ฝันมากมายก็เรียงแถวมาหาฉัน
ณ ที่นี้กลับมีฝันเป็นนิรันดร์
ที่แท้ฉัน..เป็นเจ้าของมัน..มาทั้งชีวิต				
25 กันยายน 2544 13:04 น.

เด็กน้อย..บนโลกใบใหญ่..ในอุ้งมือผู้นำ

ตะวัน

(เด็กน้อย)

    ยิ้มหวานหวานหว่านยิ้ม               ยินใจ
วิ่งเล่นล้อลมไหว                              ว่ายฟ้า
ประสาเด็กตาใส                               ซนซุก
สนานสนุกกลางทุ่งหญ้า                    ย่ำเท้าวิ่งเดิน

    มือหนึ่งถือดอกไม้                         มอบแด่  คนผ่าน
มือหนึ่งคอยดูแล                               เหล่าไม้
โลกหมุนหยุดอยู่แค่                          ขอบทุ่ง
โลกแห่งฝันวาดไว้                            ว่าฟ้าคงสวย

    นั่งล้อมวงแบ่งข้าว                         ขนมกิน   
ไม่แบ่งชั้นผิวดิน                              ดอกหญ้า
น้ำใจหลั่งไหลริน                              รดแผ่น  ผืนโลก
หวังแค่จะเติบกล้า                             ก่อสร้างโลกสวย


(Leader..1)

ยิงอีกยิงยิงเข้าไปให้พินาศ
ทั้งบ้านเรือนเกลื่อนกลาดกวาดให้หมด
เพื่อศักดิ์ศรีกูจะฆ่าไม่ละลด
ไม่สนใจอนาคตโลกมนุษย์

บินอีกบินบินไปลอยปล่อยระเบิด
เสียชาติเกิดต้องบอมบ์รัวให้หัวกุด
ถึงมันหนีกูก็มีขีปนาวุธ
ส่วนพวกคนบริสุทธิ์กูไม่คิด

เลือกสิเลือกเลือกข้างไหนไปสักข้าง
อย่าทำกร่างอยากเป็นกลางไม่มีสิทธิ์
ศึกครั้งนี้กูเดิมพันด้วยชีวิต
เพราะฉะนั้นอย่ามาคิดเป็นศรัตรู


(Leader..2)

    แม่งสะใจเป็นบ้า                   ตึกระฟ้าข้าถล่ม
สนองตัญหาอารมณ์                   คนเรือนหมื่นสิ้นชีวิต
    แม่งบีบคั้นข้านัก                   เอ็งรู้จักน้อยไปนิด
ระเบิดพลีชีวิต                          นี่แหละคือวิธีข้า
    ถ้าเอ็งอยากแก้แค้น              เชิญที่แดนอนาถา
คือที่ซ่อนของข้า                         ข้าซุกหัวเอาตัวรอด     
    ข้าอยู่เยี่ยงราชา                     ตามซอกผาที่ยาวทอด
ต่อให้เอ็งหาตลอด                      บ่มีทางหาข้าพบ
    ต่อให้เอ็งถล่ม                        บอมบ์ปูพรมหลายคำรบ
คนที่จะเป็นศพ                          แค่พลเมืองตาดำดำ
    เอาสิ!ทำลายล้าง                    โลกสีด่างอันหมองคล้ำ
เผาสิ!อารยธรรม                     ยิ่งสะใจหัวใจข้า
    ข้าจะพยายาม                         ปลุกสงครามศาสนา
ข้าจะใช้วาจา                              ปลุกศรัทธาให้ลุกฮือ
    มันดูถูกศาสนา                     คิดเข่นฆ่าผู้นับถือ
ขอท่านจงร่วมมือ                        ร่วมกันรบต้านพวกมัน


(เด็กน้อย..กับแม่)

-  แม่จ๋า..ทำไมดอกไม้จึงมีหลายสี?
+  ดอกไม้มีหลายสี เหมือนที่โลกมีหลายศาสนาไงจ๊ะ
-  แล้ว..แม่จ๋า..แล้วความเหมือนในความต่างของแต่ละศาสนา
คืออะไร
+  คือกระพี้ของคำสอนไงลูก..ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี..จุดมุ่งหมาย
สูงสุดของทุกศาสนา..คือความรัก..และสันติภาพของโลก
-  ถ้าอย่างนั้น..แม่จ๋า..บางคนที่ไม่มีความรัก..ไม่มีสันติในหัวใจ..
เข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน..ปลุกระดมให้มนุษย์ฆ่ามนุษย์ในนาม
ของศาสนา..ทำไมถึงเรียกตัวเองว่าคนเคร่งศาสนาล่ะคะ
+  ......
+  ลุกจ๋า..แม่รักลูก				
25 กันยายน 2544 05:21 น.

ทุ่งดอกหญ้า (ที่เดิมของเรา)

ตะวัน

ส่งมือมาสิคนดี
วันนี้..เธอจะไม่เหงา
วันนี้..จะมีแต่รักของเรา
วันวุ่นวายเก่าๆ..จะเป็นวันวาน

เดินจับมือฉัน
สู่เวิ้งฝันอันแสนหวาน
วันนี้..ดอกฝันจะผลิบาน
และวันนี้..นานแสนนาน..จะมีแต่เรา

กลางทุ่งดอกหญ้า
จะมีกีต้าร์ตัวเก่า
รอเพลงใสๆ..กลางสายลมไหวเบาๆ
เพลงโปรดเพลงเก่า..ที่เรา..ร้องด้วยกัน

กลางทุ่งดอกหญ้า
เราจะนอนมองฟ้า..ฟากฟ้าแห่งฝัน
คุยกันเรื่อยๆ..กลางสายลมเฉื่อยที่โปรยปัน
ทักทายความฝัน..หลังจากที่จากมัน..ไปแสนนาน

กลางทุ่งดอกหญ้า
เราจะเก็บดอกหญ้ามาสาน
สวัสดีแมงปอ..ล้อกับผีเสื้อปีกบาน
และนั่งเขียนกลอนสวยหวาน..ใส่ไดอารี่ของเรา

ส่งมือมาสิคนดี
วันนี้..เธอจะไม่เหงา
วันนี้..จะมีทุ่งดอกหญ้าของเรา
วันวุ่นวายเก่าๆ..จะมีรักของเราเข้ามาแทน				
18 กันยายน 2544 15:45 น.

ดอกไม้เก่าๆ

ตะวัน

ฉันมีดอกไม้เก่าๆ
มันเริ่มแห้งเฉาตั้งแต่คืนวันก่อน
สอดในไดอารี่ของเรา..คั่นเรื่องราวบางบทตอน
ที่เธอระบายฝันสีอ่อน..เป็นบทกลอนจากหัวใจ

ลมพัดไหวจากริมหน้าต่าง
สมุดเล่มบางถูกลมพัดไหว
ดอกไม้ที่คั่น..เปิดภาพฝันของใจ
กลอนรักใสๆโชยกลิ่นไอของวันเดิมๆ

ความคิดถึง
ยังสวยซึ้งเหมือนวันแรกเริ่ม
ความรัก..ยังร้อยถักจากนิยามเดิมๆ
ไม่มีมาเพิ่มเติม..แต่ไม่เคยน้อยลงไป

ปิดไดอารี่
เก็บสิ่งดีๆไว้ในดอกไม้
ส่งยิ้ม..ให้รักที่ปริ่มขอบหัวใจ
สวัสดีวันใสๆ..นั่งคิดถึงใครที่คิดถึงกัน

อยู่ตามลำพังกับดอกไม้
ปล่อยปัญหาเรียงรายไปกับสายฝัน
ให้โอกาสความรัก..ออกไปทายทักแสงตะวัน
เก็บเกี่ยวทุกสีสัน..เป็นรางวัลให้หัวใจ

ความรักเดินทาง
เรื่องราวทุกอย่างเกินสะกดไว้
แอบไปหา..คล้ายๆจะบอกว่าคิดถึงเท่าไร
และหยดน้ำตาใสๆ..ก็เหมือนจะบอกว่าเธอดีใจเท่าไหร่..ที่เราพบกัน

ฉันมีดอกไม้เก่าๆ
ดอกไม้เก่าๆเอามาแทนความฝัน
เก็บมาฝาก..จากไดอารี่ที่เขียนด้วยกัน
นอกจากนั้น..ฉันพูดได้แค่ฉัน..ฉันรักเธอ				
14 กันยายน 2544 09:26 น.

บิน..บทที่9 (เธอเคยเห็นดาวร้องไห้ไหม?)

ตะวัน

ในคืนหนึ่ง...
ผมกับเจ้าควายน้อย..เราขยับปีกอยู่ด้วยกันกลางฟ้า
กลางฟ้าที่พร่าไหวไปด้วยละอองดาว
สวย..ดาวช่างสวย..มองกี่ทีก็สวย
แต่กลางความสวยมีหนึ่งเสียง
เสียงแผ่วๆ..ที่แว่วมาจากที่ใดสักแห่ง
ผมขยับปีกเสาะหาต้นกำเนิดของเสียงนั้น
แล้วมัน..ก็ชัดขึ้นเรื่อยๆ
ผมทำความคุ้นเคยกับมันสักพัก
ชัดเจนแล้ว..
เสียงนั้น..
....
.. ในคืนที่ดาวพร่างทั่วฟ้า
ใครต่อใครก็บอกว่าสวย
ดาวร่ายรำตามลำนำทำนองของสายลม
ใครต่อใครเฝ้าชื่นชมท้องฟ้า
บ้างเพราะเหงา..
บ้างเพราะเรื่องราวเรียงรายรุมเร้าจนนอนไม่หลับ
หลากหลายเหตุผลในการเหม่อไปยังปลายฟ้า
ใช้สายตาสะกิดแสงดาว
แต่จะมีใครสักคนหรือเปล่า..ที่อยากรู้ว่าดาวรู้สึกอย่างไร
..ฉันคือดาวดวงเล็กๆดวงหนึ่ง
หนึ่งในองค์ประกอบของแสงสีเงินที่พราวไหวในผืนฟ้า
ประดับประดาท้องฟ้ายามค่ำคืน
ฉันเคยภูมิใจที่ได้เป็นดาวทอแสงระยับให้ผู้คนเฝ้ามอง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป...
ฉันก็เข้าใจ..ว่าเข้าใจผิด
หมู่ดาวที่เรียงรายต่างหาก..ที่ผู้คนเฝ้ามอง
..ไม่ใช่ฉัน..
ถ้าบังเอิญวันหนึ่งฉันหายไปจากผืนฟ้า
จะมีใครไหนไหมสังเกตเห็น
แม้แต่เธอเองก็อาจไม่รู้ด้วยซ้ำ..ว่ามีฉันอยู่
ทั้งที่เราถูกแต้มไว้ในฟ้าเดียวกัน
จันทราอย่างเธอมีแต่คนเฝ้ามอง
รวมทั้งฉัน..เธอคือสิ่งเดียวที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฟ้านี้ช่างสวย
แต่มันก็เท่านั้น...
เพราะหากวันใดเธอระบายสีของแสงได้เต็มที่
มันหมายความว่า..ฉันต้องยอมเลือนหายไปจากผืนฟ้า
และต้องทนมองเธอเคียงคู่กับเขา..
ดาวที่ทอแสงกล้าดวงนั้น
จริงๆแล้ว..มันก็ไม่ได้มีอะไรสำคัญ..แต่รู้ไหม..ฉันร้องไห้
ฉันรู้ดี..มีดาวอีกนับล้านที่ไม่ได้ดีเด่อะไรไปกว่าฉัน
ฉันไม่ควรคิดอะไร
แต่ฉันก็ร้องไห้...
จันทร์จ๋า..
ถ้าวันหนึ่ง..เธอจะบังเอิญชายตามมาทางนี้
เธอจะเห็นดาวดวงหนึ่ง..สวย..สวยกว่าทุกๆครั้ง
รู้ไหม..นั่นแหละคือฉัน
ละอองน้ำตาที่พร่าไหว..มันไหลไล้ขอบแสง
ไหวระยับวับวาวแวง..
จึงสาดแสดงแสงสกาว..
...เสียงนั้นดังมาจากดวงดาว..
ดาวที่ร้องไห้..ดวงหนึ่ง				
Lovers  0 คน เลิฟตะวัน
Lovings  ตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตะวัน
Lovings  ตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตะวัน
Lovings  ตะวัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตะวัน