23 พฤศจิกายน 2544 12:43 น.
ตะวัน
ส่งมือมาสิคนดี
วันนี้..เธอจะไม่เหงา
วันนี้..จะมีแต่รักของเรา
วันวุ่นวายเก่าๆ..จะเป็นวันวาน
เดินจับมือฉัน
สู่เวิ้งฝันอันแสนหวาน
วันนี้..ดอกฝันจะผลิบาน
และวันนี้..นานแสนนาน..จะมีแต่เรา
กลางทุ่งดอกหญ้า
จะมีกีต้าร์ตัวเก่า
รอเพลงใสๆ..กลางสายลมไหวเบาๆ
เพลงโปรดเพลงเก่า..ที่เรา..ร้องด้วยกัน
กลางทุ่งดอกหญ้า
เราจะนอนมองฟ้า..ฟากฟ้าแห่งฝัน
คุยกันเรื่อยๆ..กลางสายลมเฉื่อยที่โปรยปัน
ทักทายความฝัน..หลังจากที่จากมัน..ไปแสนนาน
กลางทุ่งดอกหญ้า
เราจะเก็บดอกหญ้ามาสาน
สวัสดีแมงปอ..ล้อกับผีเสื้อปีกบาน
และนั่งเขียนกลอนสวยหวาน..ใส่ไดอารี่ของเรา
ส่งมือมาสิคนดี
วันนี้..เธอจะไม่เหงา
วันนี้..จะมีทุ่งดอกหญ้าของเรา
วันวุ่นวายเก่าๆ..จะมีรักของเราเข้ามาแทน
12 พฤศจิกายน 2544 05:49 น.
ตะวัน
ความรักเริ่มต้น...ที่ตรงนี้
ตรงที่มีเธอและมีฉัน......
ไม่เคยมีทุกข์แม้สักวัน
แต่เวลาแปรผัน...กลับเปลี่ยนไป
...............
ความรักจะจบที่ตรงนี้
ตรงที่เคยไม่มีเธอแต่มีฉัน
ที่ยังคงรักยังผูกพันธ์
และจะรอเธอนิรันด์..นะคนดี
9 พฤศจิกายน 2544 14:48 น.
ตะวัน
สวัสดีนางฟ้า..
ฉันล้า..ฟ้ากว้างช่างโหดร้าย
ปีกบางกางถาหาจุดหมาย
สุดท้ายก็คล้ายที่เคยหนี
ร่อนเร่เรื่อยๆจนเหนื่อยแล้ว
ยังไร้วี่แววแนววิถี
แดดกล้าพายุประทุถี่
ฟ้ากว้างวันนี้ไม่มีฝัน
เธอจำได้ไหมนางฟ้า..
ฉันเคยบอกว่า โลกใบนั้น
มันเลว มันบ้า สารพัน
สุดท้ายแล้วฉันหนีไม่พ้น
ฉันเพิ่งรู้..นางฟ้า
วิถีคนกล้าที่หาค้น
มันอยู่ในใจอันไหววน
ไม่ต้องดิ้นรนด้นถึงฟ้า
หากใจไหวเต้นเช่นใครเขา
รากเหง้าเงาฝันคือปัญหา
รางวัลปัญหาคือปัญญา
การหนีมีค่าแค่กล้าขลาด
ฉันจะไม่หนีอีกแล้ว..นางฟ้า
ฉันจะหยิบปัญหามาขีดวาด
ใช้ฝันอันเร้นเป็นกระดาษ
ระบายความขลาดด้วยรอยยิ้ม
8 พฤศจิกายน 2544 15:09 น.
ตะวัน
เมฆน้อย...ค่อยๆเคลื่อน
เหมือนๆ...สายลมหนาว
เริ่มทักทาย...กับสายดาว
ที่พรายพราว...ทั่วฟ้ากว้าง
ความคิดถึง...ขึงทั่วฟ้า
ประดับประดา...ระยะห่าง
ระหว่างดาว...ที่พราวพร่าง
ระหว่างทาง...ของสองใจ
คืนหนาว...ดาวเริ่มหนาว
เมฆขาว...เริ่มอ่อนไหว
ใจหนาว...ราวลมไล้
เป็นไป...เพราะคิดถึง
หนาวไหม...เธอหนาวไหม
เป็นอย่างไร...ในคืนซึ้งๆ
มีกี่ที...ในนาทีหนึ่ง
ที่คิดถึง...รักของเรา
15 ตุลาคม 2544 07:30 น.
ตะวัน
นานนาน..ผ่านไปไร้สาระ
วิวัฒน์อารยะไร้ความหมาย
พร่ำเพรียกเรียกเร้าเอาเป็นเอาตาย
สุดท้ายบ่ายหน้าเข้าฆ่าฟัน
นานนาน..ผ่านวันมันสับสน
ป่าเถื่อนเกลื่อนกล่นคนตัวสั่น
สันดานหยาบช้าสารพัน
โรมรันพันทั่วตัวมนุษย์
คัมภีร์นี้วาดศาสนา
นักปราชญ์ศาสดาสรรค์พิสุทธิ์
เป็นธรรม์จรรโลงโลกมนุษย์
กลับเป็นอาวุธมนุษย์ชั่ว
เอ่ยกลั่นปั่นปลุกทุกสาวก
หยิบยกชั่วดีสีสลัว
ตีความตามเช่นเห็นแก่ตัว
สงครามลามทั่วด้วยศรัทธา
เทพีนี้มีเสรีภาพ
สัญลักษณ์ปลื้มปลาบคนเมืองฟ้า
ยิ่งใหญ่องอาจประกาศศักดา
ศรัทธาจริงไหมใครจะเชื่อ
แทรกแซงแบ่งขั้วเอาตัวว่า
เสรีเบลอพร่าเป็นหน้าเสือ
เสรีไม่มีมาจุนเจือ
เสรีมีเผื่อเพียงเมืองตน
นานนาน..ผ่านความสงครามเกิด
กำเนิดเปิดฟ้าน่าสับสน
ไร้รูปไร้แบบแต่แยบยล
เชื้อโรคปะปนบนอาวุธ
นานนาน..ผ่านไปใจมันฝ่อ
ไยโลกบ้าบอไร้ที่สุด
จากแดนทะเลทรายสยายยุทธ์
ถึงจุดยุติคงวิบัติ