21 มกราคม 2545 13:40 น.
ตะวัน
มหาวิทยาลัย..
ฉันก้าวเข้าไปด้วยไฟกล้า
มุ่งหวังสังเคราะห์เพาะปัญญา
สรรค์ประสิทธิ์ฤทธาปัญญาชน
ฉันสะพายสายย่ามไปตามตึก
นั่งตรึกศึกษาค่าเหตุผล
ทุกศาสตร์ปราดรับปรับสู่ตน
ดั้นด้นบนทางที่พร่างมนุษย์
เงินทองของพ่อฉันต่อฝัน
มุ่งมั่นสรรค์เสกความเอกอุตม์
ผลิสติวิชาเป็นอาวุธ
หวังผลุดสุดฟ้าที่ว่ากว้าง
ฉันบากยากเย็นเป็นบัณฑิต
สถาปนาค่าทิศชีวิตกระจ่าง
พร้อมเรียงเบี่ยงเบนขอบเส้นทาง
ขยับปีกฉีกกางไปสร้างชีวิต
- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
แต่ฝันฉัน..วันนี้มีเส้นเขต
ปัญหาประเทศคือเศรษฐกิจ
นายจ้างย่างก้าวราวไร้ทิศ
บัณฑิตไร้สิทธิ์ประดิษฐ์ชะตา
ฉันหวั่นเงินแม่ค่าแค่ฝุ่น
เพราะฝันอันละมุนมันหมุนค่า
หวั่นใจได้แค่ปริญญา
ไม่รู้ชะตาอนาคต..
18 มกราคม 2545 23:31 น.
ตะวัน
ในวันแดดใส..
ลองปล่อยความอ่อนไหวไปไล้เมฆขาว
และลอบชำเลืองวันอันแสนยืดยาว
สิ่งที่เห็นเป็นเพียงความว่างเปล่า..ของการเดินทาง
ฟ้าสวย..เธอว่าไหม
แต่ฉันอดคิดไม่ได้ทำไมถึงกลวงว่าง
เคยเห็นแต่ละอองฝันอันเบาบาง
ที่ไม่เคยก่อร่าง..ในฟ้ากว้าง..ได้สักที
บางเวลา..ฉันก็อยากเลิกค้นหาความฝัน
แต่ฉันก็ไม่รู้จะทำอะไรให้มันดีกว่านี้
รู้ไหม..บนโลกใหญ่ใบนั้นฉันใช้เวลากันมันมาหลายปี
แต่แล้วอยู่ดีๆ..ฉันก็หนีมันขึ้นมา
ฉันหาเรื่อง..โทษอะไรไปตามเรื่อง
แต่เรื่องของเรื่องคือฉันใช้เวลาเปลืองในการค้นหา
ฉันจึงเดินทางลัด..สะบัดปีกสู่ฟ้า
สุดท้ายกลายเป็นว่า..ผืนดิน แผ่นฟ้า..ไม่ต่างกัน
- - - - - - - - - - - - - -
โปรดโอบกอดฉันไว้ให้นานเท่านาน
ไอรักที่แสนหวานกำลังร้องเพลงกล่อมความฝัน
ณ ระเบียงความรัก..ความฝันจะพักอย่างนิรันดร์
ความดึงดันดื้อรั้นจะขอหยุดมันไว้ตรงนี้
15 มกราคม 2545 19:55 น.
ตะวัน
ลอยล่องลอยล่องไล้ ลมแผ่ว
สายแดดสาดแสดงแนว สนิทฟ้า
ก้อนเมฆโอบกอดแถว ทิวหมอก
ฉันปล่อยใจล้าล้า ล่องฟ้าลอยลม
ฟ้าจ๋าฟ้าช่างกว้าง ไกลนัก
ฉันอยากล่องลอยพัก ผ่านฟ้า
ฉันอยากปลดกรงกัก กับดัก กักขัง
ไปกับลมแผ่วช้า เฉื่อยเร้นเส้นแนว
ฝุ่น..ฉันเป็นฝุ่นกระจ้อย กระจัดกระจาย
ปลิว..ล่องลอยเรียงราย รอบรุ้ง
ในสาย..แห่งลมชาย โชยพัด
ลม..แผ่วแนวฟ้าฟุ้ง ฝุ่นน้อยอิสระ
ลอยล่องลอยล่องไล้ ลมแผ่ว
ปลดแอกใจจากแนว เหนื่อยล้า
ปล่อยแล้วปล่อยไปแล้ว ลอยล่อง ลมไล้
ไกลสุดไกลสุดฟ้า ฝั่งเวิ้งโลกฝัน
14 มกราคม 2545 14:52 น.
ตะวัน
เดินทางกลางเมืองอันเขื่องโข
แหกโซ่กรงกรอบที่ครอบขัง
หลายมือยื้อยุดจะฉุดรั้ง
หลายหน้าตาตั้งพลางก่นว่า
แต่เสียงเรียงกราดไม่อาจทัด
มุ่งฝ่าอาณัติการวัดค่า
เพราะทั่วหัวใจไร้ศรัทธา
สุดท้ายกลายว่าเป็นหมาขี้เรื้อน
เมืองกระเพื่อมเหลื่อมขอบกรอบความคิด
อารยะปะติดให้บิดเคลื่อน
วิถีชีวิตมันบิดเบือน
ถูกผิดอิดเอื้อนไม่เลื่อนที่
แท่นหูกผูกล้อทอวัฏจักร
หลอมเส้นเป็นชนักกักทางหนี
กฎกรอบครอบถิ่น - บ้าสิ้นดี!
เกลียดโลกใบนี้เสียที่สุด
แต่เหลือบมอง..
วนิพกร่ำร้องกลางกลองชุด
ณ ทางข้างถนนผู้คนหยุด -
โอบห้อมล้อมมนุษย์ผู้รุดบรรเลง
เขาปิดเปลือกตามาร่ำร้อง
ผุดดำทำนองรัวกลองเร่ง
เขาเปรียบเรียบเรียงด้วยเสียงเพลง
ใจฉันมันเคว้งละเลงลม
ไยเขาก้าวย่างอย่างอิสระ?
เหมือนไร้พันธะให้สะสม
ทั้งที่ชีวิตเหมือนติดหล่ม
นี่หรือ เรียกผมบังภูเขา?
วนิพกชกกลองร้องเพลงร่า
ทายท้า ฟ้า ฝน คน เขม่า
ดูเขาสุขใจไปถึงเหง้า
เหมือนเขาเข้าใจ - อะไรชีวิต
.........
ฉันแอบยิ้ม..
เขามองรอบริมส่งยิ้มสะกิด
คล้ายบอกคอกขังจะฝังทุกทิศ
หากมีชีวิตไม่คิดจะรับ
13 มกราคม 2545 01:55 น.
ตะวัน
พรุ่งนี้รวยครับ!
เชิญรีบหยิบทรัพย์กับกองสลาก
งวดนี้มีเหลือเผื่อไม่มาก
ของขวัญกั้นฉากจากภาครัฐ
เข้าวินสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ
อิดเอื้อนเคลื่อนไหวใช้ธนบัติ
ดิ้นพล่านผ่านวันอันอัตคัต
ผลิตกิจวัตรอย่างขัดข้อง
เมืองใหญ่ไหวเต้นเป็นระยะ
จังหวะระทึกเสียงกึกก้อง
แก่งแย่งแข่งขันสรรค์เงินทอง
ไปตามครรลองของทุนนิยม
รับก่อน ผ่อนส่งบรรจงจ่าย
ถึงท้ายปลายเดือนเหมือนฟ้าถล่ม
เคราะห์กรรมทำนองของค่านิยม
ถ้วนทั้งสังคมจมฟองสบู่
เนื้อ หนัง กระดูก ผูกกับหนี้
ความฝันวันนี้มีให้กู้
จะนรกหรือสวรรค์ฉันไม่รู้
หากสบู่ฟองแตกจะแดกอะไร
ฉันกวาดสายตาหาที่พึ่ง
ประเทศฉันวันหนึ่งคงพึ่งได้
เห็นขันอาสาจะมารับใช้
ฉันรอเมื่อไหร่ได้ใช้สักครั้ง
- - - - - -
- - - - - - - - - - - -
พรุ่งนี้รวยครับ!
รัฐบาลหาทรัพย์กับความหวัง-
ของชนคนไทยที่ภัยประดัง
แล้วฉันยัง จะหวังอะไร ในรัฐบาล