13 มกราคม 2547 16:35 น.
ตะวัน
กระแสคลื่นกระทบท้อง..........ทะเลลึก
กระแทกซากความรู้สึก............สะทกสะท้อน
ท่วมอาบจิตสำนึก.....................หนาวสั่น
หากแต่ฝันผ่าวร้อน.................ยอกย้อนยังอยู่
ถามตัวเองโกรธขึ้ง.................เคืองใคร
รู้สึกสะอิดสะเอียนใด...............ใคร่รู้
โลกเพียงเปลี่ยนตามสมัย........ไม่แปลก
ไยอยากกระเสือกกระสนสู้.......เพื่อผู้คนใด
ดูสิ!ทะเลเงียบร้าง..................ระงมเหงา
ดูสิ!ฟ้าสีเทา.............................ทาบร้าง
ดูสิ!ลูกไฟเก่า..........................ใกล้ดับ
คนหนึ่งผู้ร้างบ้าง.....................ดับบ้างจะเป็นไร
หยุดพักลงผ่อนบ้าง................บทชี- วิตนอ
ปล่อยคบเพลิงที่มี....................มอดบ้าง
สร้างกรงกักเสรี......................ระหว่างพัก
กรองเก็บก้อนฝันค้าง..............ก่อสร้างเป็นสติ
แสงตะวันทาทาบท้อง............ทะเลสงบ
แต่ว่าคลื่นไม่จบ.....................จากน้ำ
ขอเพียงแค่ฝันครบ................ความคิด มั่นนา
สักพักค่อยก้าวย้ำ...................มุ่งซ้ำยังมิสาย
26 ธันวาคม 2546 14:40 น.
ตะวัน
(1) มุมมอง...
วันดีคืนดี...
ปีกความความฝันที่ฉันมีอยากตีโบก
อยากทะยานผ่านลูกไฟไปสุดโลก
สุดแนวโตรกถนนฟ้าพระอาทิตย์
มันเบื่อแล้วโลกเก่าที่เศร้าสร้อย
เหนื่อยต้องคอยสำออยและดัดจริต
หน่ายต้องอยู่อย่างอ่อนไหวไร้หัวคิด
ติดแต่ตรอกซอกอิฐที่ปิดตาย
อยากออกจากกากกะลาดูฟ้าบ้าง
อยากย่ำเท้าเข้าสู่ทางที่ห่างหาย
ใช่แหละโลก มีเสี้ยวซีกอีกมากมาย
รอมือตีนไปปีนป่ายตะกายพบ
ใช่แหละโลกกะโหลกกะลา มันน่าเบื่อ
ส่องแสงเพียงไฟมอดเชื้อจากหัวศพ
และเยียบชืดอึดอัดอย่างบัดซบ
รอเพียงการฝังกลบของเม็ดดิน
แล้วดูสิ! โลกท้องฟ้าช่างน่ารัก
มีเพื่อนใหม่ให้ทายทักไม่หมดสิ้น
เมฆกลม-กลม ลมโชย-โชย นกโบยบิน
ประสานเสียงให้ได้ยินอย่างสุขซึ้ง
(2) ห้อง...
...........
(3) เส้นรอบวง...
โอ้พระเจ้า...
ฉันยังมีความเหน็บหนาวจากก้นบึ้ง
ฉันเกรงว่าโลกเบื้องหน้าที่ตราตรึง
เป็นกะลาอีกใบหนึ่งเท่านั้นเอง
(4) รอยต่อ...
!?!?!
21 ตุลาคม 2546 19:31 น.
ตะวัน
แผ่วแรงลมพรมพริ้วผ่านทิวเทือก
สู่ผืนทรายที่ถูกเลือกให้ถูกฝัง
แปรสภาพเป็นพายุ(ดันทุรัง)
โหมเข้าสุมอย่างคลุ้มคลั่งทั้งผืนทราย
ฟ้าคืนนี้ไม่มีดาวพราวกระพริบ
ร่ำสุรากี่ร้อยจิบไร้ความหมาย
ภาพเบื้องหน้าที่คุกคามคือความตาย
ภาพเบื้องหลังที่เปล่าดายคือความจริง
เป็นความจริงที่ยิ่งมองยิ่งร้องไห้
เสรีภาพ...แต่เคลื่อนไหวในภาพนิ่ง
สันติภาพ...แต่ปืนเปลี่ยวเหนี่ยวไกยิง
อีกกี่ศพที่ถูกทิ้งที่นั่นนะ
อีกกี่การฝังกลบของชีวิต
จะยุติความวิปริตของโมหะ
อีกกี่การมอดไหม้ของอารยะ
โลกจึงจะจบสิ้นความสิ้นคิด
ริ้วตะวันฉายฉาบอาบปีกนก
เป็นเพียงเงาของวิหกที่ปกปิด
แต่พายุหนนี้ที่มืดมิด
จะยุติความอำมหิตเมื่อไหร่นะ!
19 มกราคม 2546 02:32 น.
ตะวัน
(1) ทุ่งกว้าง...
ก้อนเมฆดูเงียบๆ
ท้องฟ้าก็เรียบๆเหมือนวันก่อนๆ
อากาศหนาวๆท่ามกลางความยืดยาวของบทละคอน
ยังเติมเต็มความไหวอ่อนให้กับบางตอนของหัวใจ
กระดาษเก่าๆ
กับข้อความว่างเปล่าบทสุดท้าย
ความฝันหวานๆในห้วงกาลแห่งโลกนิยาย
ยังเติมเต็มความเดียวดายให้โลกความจริง
บทเพลงเดิมๆ
กับหัวใจดวงเดิมที่เริ่มหยุดนิ่ง
มีเพียงหยดน้ำใสๆ...ที่ยังคงไหลมาให้แอบอิง
ทั้งๆที่นานแล้ว...ที่ทุกสิ่ง...มันเปลี่ยนไป
ความฝันล้าๆ
ในดวงตาที่เลื่อนลอยอ่อนไหว
เธอคงมองเห็นมัน...จากที่แห่งนั้นที่ไกลแสนไกล
และรับรู้มาเสมอว่ามีใคร...ที่ยังทำใจไม่ได้สักที
พื้นที่แห่งนั้น...
คงมีอิสระให้เธอฝันได้เต็มที่
ที่จริงแล้ว...มันเป็นเรื่องที่น่ายินดี
ถ้าหากเพียงฉันในวันนี้...ไม่อ่อนแอ
ถ้าหากเพียงฉันยอมเข้าใจในชีวิต
เพียงรับรู้ว่าเมื่อลมเปลี่ยนทิศยอมเปลี่ยนกระแส
ฉันคงยอมรับได้...ในวันต่อวันที่มันผันแปร
เพียงแต่...มันโหดร้ายเกินไปเมื่อไม่มีเธอ
(2) ท้องฟ้า...
ก้อนเมฆดูเหงาๆ
นกร้องเพลงเบาๆอย่างเพ้อเจ้อ
เธอได้ยินไหม...ท้องฟ้า...สายลมละเมอ
หลับตาเถิดเธอ...เราจะพบกัน
การจากกันของเรา
ห่างกันเพียงความว่างเปล่า...เพียงเท่านั้น
ปล่อยบทสุดท้าย...เข้าสู่ความเรียบง่ายอย่างนิรันดร์
ให้โอกาสความฝันได้ผูกพันเราตลอดไป
เมื่อหนึ่งลมหายใจสุดท้ายได้หยุด
ก็ไม่ได้แปลว่าอีกหนึ่งชีวิตต้องสิ้นสุด...จบเอาไว้
เดินเถิด...เดินทาง...พร้อมผู้ร่วมทางคนต่อไป
โปรดเพียงเก็บฉันเอาไว้...ในการเคลื่อนไหวของความทรงจำ
19 มกราคม 2546 02:09 น.
ตะวัน
เหมือนวันนี้ที่เหน็บหนาวช่างยาวยืด
โลกช่างเงียบเยียบชืดและมืดครึ้ม
ราวมุมอับที่ทับท่ามความอึมครึม
มันแรเงาความเศร้าซึมด้วยทึมเทา
ในระนาบที่ภาพฉายได้สะท้อน
ภาพความฝันวันก่อนๆมันย้อนเร้า
บทละคอนตอนเหล่านั้น นั่นหรือเรา!?
ช่างเป็นฝันในวันเยาว์ที่เร้าใจ
ช่างเป็นฝันในวันคืนอันตื่นเต้น
กว่าบทตอนที่ซ่อนเร้นตอนไหนๆ
และเป็นเพียงภาพเดียวนี้ที่ส่องไฟ
...อยู่ในราตรีที่มืดมิด
ส่วนภาพอื่นที่รื้นเรืองอยู่เบื้องหน้า
คือแผ่นดินแผ่นฟ้าที่มืดสนิท
ไร้ทางออกทางใดให้ชีวิต
ความเฮงซวย! มันสถิตย์ไว้ครบรส
มองตึก...
ในนิยามความรู้สึกที่เก็บกด
ฟ้าเส็งเคร็ง คนโสโครก โลกทรยศ
ทุกอย่าง ทั้งหมด มันกดทับ
มุ่งหน้าสู่ชั้นสูงสุดหาจุดจบ
แสวงหาความสงบจากแสงดับ
จบได้แล้วบทละคอยที่ซ้อนซับ
พร้อมเข้าสู่การต้อนรับของนรก!