10 ตุลาคม 2553 13:32 น.
ตะวัน
(1) เธอ...
สายฝนโปรย..เธอโหยร้องกลางห้องมืด
กอดความฝันขึ้นอืดไว้เต็มอ้อม
ปล่อยน้ำตาอารมณ์ให้สมยอม
กับความจริงจอมปลอมที่ล้อมราย
ความเป็นไปในห้องมืดที่ชืดอับ
แสงจันทร์พราวดาวระยับได้ดับหาย
เสียงลมลวงทวงถามถึงความตาย
หยดน้ำตาเธอพร่าสายสุดปลายตา
โลกใบนี้ที่เธอรักคงหนักอึ้ง
ใจบอบเบาถูกเขาตรึงจึงปวดปร่า
รอยยิ้มชื่นถูกกลืนผ่านกาลเวลา
โลกหมุนมาหยุดตรงซีกปีกพระจันทร์
(2) ฉัน...
เธอรู้ไหมโลกหนัก..ถ้าเธอแบก...
ในความจริงสิ่งที่แปลกคือความฝัน
ในความหมายของสายฝนที่หล่นนั้น
ก็เพราะฟ้ามีเมฆกั้น เธอ-จันทร์-ดาว
ความเป็นจริงยังเป็นไปในโลกนี้
ตะวันลาฟ้าเปลี่ยนสีมีร้อนหนาว
มีลมแผดแดดปะทะหิมะพราว
มีผิดหวังเป็นครั้งคราวต้องเข้าใจ
เธออาจมองว่าฟ้าครามนั้นงามงด
เพราะมีเขาคอยปล่อยปลดลูกไฟใหญ่
แต่วันนี้ที่เขาพรากจากเธอไป
เธอเห็นไหมในฟ้านี้..ยังมีตะวัน
ไม่เกี่ยวกับเขา..ไม่เกี่ยวกับเขา
โลกใบเก่ายังผลัดปีเปลี่ยนสีสัน
คนแสนล้านมีสิทธิ์เหงาเท่าๆกัน
อยู่ที่ใครรับมือมันอย่างมั่นใจ
(3) เรา...
เถิดลืมตาเปิดใจให้โลกกว้าง
ไปรับรู้ความแตกต่างของห้องใหม่
ห้องที่แสงสีอาทิตย์ไม่ปิดไฟ
ห้องที่ฟ้านั้นกว้างใหญ่กว่าใจคน
สบตาฉัน..จับมือฉัน..ไปกับฉัน
ให้คืนวันมันขีดความตามเหตุผล
แสงสกาวพราวจากฟ้ามายากล
จะสาดสายร่ายมนต์จนเธอรัก
ฉันไม่ใช่โลกทั้งใบให้เธอหรอก...
แต่ฉันคือคนเคยออกนอกซากปรัก
จากห้องมืดห้องนั้นที่ฉันพัก
จนวันหนึ่งฉันรู้จักกับห้องนี้
ไปกับฉัน..จับมือฉัน..สบตาฉัน
เธอเห็นไหมใครคนนั้นอยู่ที่นี่
ฟากกระจกจากตาฉันนั้นยังมี
คนเคยรักในศักดิ์ศรีและศรัทธา
เถิดก้าวย่างกางปีกอีกสักครั้ง
ไปด้วยแรงแห่งพลังที่ยังกล้า
ลูกขึ้นสู้แสงสลัวที่มัวตา
ทิ้งห้องมืดเถิดนางฟ้า..ผู้น่ารัก
27 สิงหาคม 2553 17:58 น.
ตะวัน
ไปทะเลกันไหม...
ไปสูดไอไล้กลิ่นดินซับกลิ่นฝัน
ไปปลดพักความหนักอึ้งสักหนึ่งวัน
ไปไหม..ไปกับฉัน ไปทะเล...
ฉันก็เหนื่อย เธอก็ล้า
พักกันไหม ให้ท้องฟ้าทะเลเห่
ให้เม็ดทรายสายลมไหวมาไกวเปล
ให้ทั้งโลกคือทะเลและสองเรา
ตะวันสีชา ฟ้าสีคราม
ปลดปล่อยใจจากนิยามความเงียบเหงา
น้ำห่มทรายสายคลื่นโชยลมโบยเบา
สูดกลิ่นไอโลกใบเก่าอย่างเข้าใจ
ให้หัวใจได้พลัดพรากจากมุมอับ
มองมุมกลับรับโลกนี้จากมุมใหม่
มุมที่สุดสายตามคือฟ้าไกล
มุมที่เราพร้อมเปิดใจให้โลกนี้
ให้หน้าที่ ภาระ ได้พักร้อน
ให้ความรักได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
ให้ฝันร้ายกลายผันเป็นฝันดี
ให้ทะเลวาดสีระบายเรา
ที่นี่...ที่ที่เรารู้จักกัน
เธอเป็นเธอ ฉันเป็นฉัน ในวันเก่า
ที่ที่เราขีดเขียนฝันในวันเยาว์
กลับไปไหม ไปหาเขา เรา - ทะเล
เสียงทะเลกำลังเรียกหา...
เสียงน้ำ - ทราย..ปลายฟ้า กำลังเห่
ปล่อยความล้าให้คลื่นซัดลมพัดเพ
เหลือเพียงฉัน..เธอ..ทะเล..และความรัก...
13 มีนาคม 2553 01:39 น.
ตะวัน
เมื่อมองกลับหลัง...
ยังเสียดายกับหลายครั้งที่พลั้งผิด
แต่หากถามความรู้สึกที่นึกคิด
ยังเคารพเสี้ยวชีวิตที่ผ่านมา...
จำไม่ได้คิดอะไรในวันก่อน...
เจ้าเด็กเดือดเลือดร้อนคนก่อนหน้า
เพียงดื้อแพ่งแต่งความตามประสา
หรือยืนหยัดในศรัทธาเช่นนั้นจริง
วัยผ่านวันคนผันเปลี่ยน ความคิดเปลี่ยน...
ทุกบทเรียนยังฉายทาบดุจภาพนิ่ง
ความผิดพลาดยังวาดไหวให้แอบอิง
ความเป็นจริงยังติงไหวในความจำ
ยิ้มหัวเราะและร้องไห้ไปกับภาพ
สองแก้มอาบคราบน้ำตาที่พร่าฉ่ำ
ใช่สินะ ทุกวีรเวรและวีรกรรม
นั่นแหละทำเราเป็นเราในวันนี้...
จากจุดนี้ถึงจุดนั้นมันไกลลิบ...
วันนี้ดาวพราวระยิบอยู่ที่นี่
วันนี้ฝันถูกสานฝันได้ทันที
จากจุดนี้ คิดถึงที่สุด..คือจุดนั้น
ขอบคุณฉันที่เป็นฉันในวันเก่า...
ขอบคุณชีวิต..ที่มีเหง้าเอาไว้ฝัน
ช่วงชีวิตต่อจากนี้คือรางวัล
ให้คมเคียวเก็บเกี่ยวฝันอันต่อไป
จะถอดเททุ่มทั้งใจให้กับฝัน...
สู่เส้นทางแห่งรางวัลความฝันใหม่
ด้วยไฟฝันวันฉรรจ์ฝันเต็มวัย
เติมเต็มฝันชิ้นต่อไปให้ถ้วนครบ
จะไม่ยอมอิ่มใจในความฝัน
จะไม่ยอมให้ทางนั้นมันรู้จบ
จะให้ฉันในวันหน้าได้มาพบ
และเคารพความเป็นฉันในวันนี้!
11 มีนาคม 2553 17:18 น.
ตะวัน
พ่อครับ..
พ่อรู้ไหมครับกับบางอย่าง
ที่พ่อก่อเส้นขึ้นเป็นทาง
ผมสร้างทางใหม่อยู่ในแนว
เมื่อครั้งยังเล็กเป็นเด็กชาย
แล้งลมงมงายอยู่ท้ายแถว
ดื้อแพ่งแต่งฝันอันไร้แวว
เรียบเรียงเพียงแผ่วแล้วเลิกฝัน
ตอนนั้นมันคิดแค่ผิดถูก
เพาะปลูกทุกอย่างอย่างดื้อรั้น
สุดท้ายหน่ายแล้วก็แล้วกัน
มุ่งมั่นไม่ถึงครึ่งความคิด
แต่พอชำเลืองเรื่องของพ่อ
เศษฝันมันก่อ..มันต่อติด
หยาดเหงื่อเกลื้อพ่อเหมือนก่อทิศ
เป็นหยดฝันวิจิตรประดิษฐ์ทาง
พ่อไม่เคยสอนละครชีวิต
เป็นกรอบ ถูกผิด ให้ติดค้าง
แต่ภาพของพ่อก่อแบบอย่าง
วิถีเส้นทางลูกผู้ชาย
พ่อยืนยิ้มรับกับปัญหา
ทายท้าเรื่องดีที่มากร้าย
ให้เกียรติฝูงชนทั้งคนควาย
ส้นตีนติดทรายกายติดดิน
วันนี้ผมรู้ แล้วครับพ่อครับ
ชีวิตมันปรับ กับศาสตร์และศิลป์
จะดาวหรือทราย ความหมายก็ดิน
วิญญาณไม่สิ้น ก็ดิ้นกันไป
ชีวิตเท่านี้ก็เท่านี้
ความฝันสิมีไว้เติบใหญ่
ฟ้าไกล ฟ้ากว้าง ช่างฟ้าปะไร
ตั้งใจสิใจจะไม่คว้าง
พ่อครับ
พ่อรู้ไหมครับกับบางอย่าง
ที่พ่อก่อเส้นขึ้นเป็นทาง
ผมสร้างทางใหม่อยู่ในนั้น
ความฝันวันนี้จะมีเส้น
ขีดเร้นเป็นทางที่พร่างฝัน
พ่อจะเป็น Hero ชั่วนิรันดร์
สักวัน..ครึ่งพ่อ ก็พอใจ
7 มีนาคม 2553 21:32 น.
ตะวัน
นานมาแล้ว...
ละอองฝันได้ก่อแนวเป็นความฝัน
ฉันเดินทางกลางป่าค้นหามัน
ตามลายแทงแสงตะวันที่ผันพา...
แต่แล้ว...
ไร้วี่แววแนวฝันที่ฉันหา
ยิ่งเดิน..ยิ่งไกลสุดสายตา
ยิ่งไขว่..ยิ่งคว้ายิ่งล้ารอน...
เหนื่อยแล้ว...
ตะวันฉายยังพรายแพรวแนวแดดอ่อน
คล้ายคล้ายจะระบายสีบทละคอน
แต่ใจฉันกลับล้มนอนข้างก้อนดิน...
หมดแล้ว...
สายลมพัดความแน่แน่วไปหมดสิ้น
ทิ้งเอาไว้เพียงลมไหวที่ไหลริน
สูดซับไอไล้กลิ่นดินและทราย...
สุดแล้ว...
ลมหายใจไหวแผ่วครั้งสุดท้าย
ไร้อากัปสับสนทุรนทุราย
นอนแผ่กายตายช้าช้ากลางป่านั้น...
แล้ว...
ฝันมากมายก็เรียงแถวมาหาฉัน
ณ ที่นี้กลับมีฝันเป็นนิรันดร์
ที่แท้ฉัน..เป็นเจ้าของมัน..มาทั้งชีวิต!