29 สิงหาคม 2551 16:57 น.
ตราชู
คนละด้าน
๑.
ธรเพื่อนรัก
เราเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงนาย เพราะความอัดอั้นตันใจหลายอย่างเหลือเกิน มันเหมือนน้ำที่ไหลเข้ามา ไหลเข้ามา จนท้นเขื่อน หากปล่อยไว้ไม่ระบาย สักวัน เขื่อนก็จะพินาศ ฉะนั้น ถ้าจดหมายฉบับนี้รบกวนเวลาของนาย เราขอโทษด้วย ถือเสียว่า ช่วยอ่านเพื่อแบ่งเบาทุกข์ในอกเพื่อนก็แล้วกันนะ ขอบคุณมาก
ธร เราไม่เข้าใจเลย ทำไม ทำไม นายจึงไปร่วมชุมนุมกับพวกนั้น พวกบุกธรรมเนียบรัฐบาล พวกยั่วยุทหารให้ออกมารัฐประหาร ลากประเทศถอยหลังไปสู่ระบอบเผด็จการ ภายใต้บังคับบัญชาของอำมาตย์ ของ ..... (เราคงไม่จำเป็นต้องระบุ เพราะนายเติมต่อเองได้)นายก็รู้ ว่าพวกนั้นเดินเกมอะไรอยู่ ลืมไปแล้วหรือ ว่าเราเคยร่วมต่อสู้เผด็จการมาด้วยกัน หรือว่านายลืมแล้ว โดยสิ้นเชิง
สามสิบเอ็ดปีก่อน นายก็ระลึกได้ เช้าวันพุธวันนั้น พวกเรามือเปล่า พวกมันสัตว์นรกอาวุธครบมือ มันทำกับเราเหมือนเป็นศัตรูต่างชาติต่างเมืองผู้รุกรานก็ปานกัน ตีห้าครึ่งกว่าๆ ลูกระเบิดเอ็มเจ็ดสิบเก้าตูมลงมากลางสนามฟุตบอล พวกเรามีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ จะพาคนเจ็บส่งโรงพยาบาลมันยังขัดขวางปิดทางเข้าออกเหมือนจงใจ ปล่อยให้ตายอย่างทรมานกระนั้นแหละแล้วมันก็กราดยิง ยิง ยิง ยิงแบบไม่นับ ไม่ปรานี ไม่มีความเป็นมนุษย์อยู่เลยในวิญญาณอำมหิต ต่อจากนั้น พอประตูธรรมศาสตร์พัง นายก็รู้ มันฆ่าพวกเราอย่างไรบ้าง เราคงไม่จำเป็นต้องเล่าซ้ำมิใช่หรือ? หลังเหตุการณ์วันนั้น พวกที่เหลือตายถูกจำคุก ตั้งข้อหาร้ายแรง ทนตรากตรำในกรงขัง ในขณะไอ้ฆาตกรลอยนวน ข้อสำคัญ เจ้าแห่งฆาตกรตัวจริงนั่งอยู่ข้างบนโน่น โน่นสูงลิบนู่น ใครบ้างล่ะจะกล้าแตะต้อง บ้านเมืองต้องตกอยู่ใต้อุ้งตีนทหารเป็นเวลานาน ครั้งพฤษภามหาโหด นายก็เข้าร่วมต่อต้านด้วย เราถูกไล่ยิงมาด้วยกัน ใช่ไหม? แล้วทำไมเล่า ทำไม สิบกว่าปีผ่านไป นายถึงวางทีวางท่าเสมือนหนุนทหาร นายเชื่อหรือว่าค่าราชการจะวิเศษวิโสปานท่านเซียน ในเมื่อพวกเขาก็คือมนุษย์ หากมีกิเลสขึ้นก็ทำเลวได้เหมือนๆกันทุกรูปทุกนามนั่นแหละ สมัยนี้ ประเทศต่างๆเกือบทั่วโลกเป็นทุนนิยมไปหมดแล้ว ถ้าข้าราชการผันตัวเองไปเป็นนายทุนบ้างจะไปมีใครห้าม ข้อสำคัญ ข้าราชการนายทุนนั้น คือมหันตภัยอันร้ายกาจ เพราะมีอำนาจบารมีบดบัง ใครล่ะจะหาญตรวจสอบ จริยธรรม ฮึ เขียนด้วยมือก็ลบด้วยตีนง่ายจะตายไป ทำไม นายไม่ปล่อยให้ประชาธิปไตยเดินไปตามครรลองเล่า
ที่จริง เราไม่ชอบผู้นำคนปัจจุบันเลย แต่ ถ้าจะให้เขาลง ตุลาการ ศาล ก็กุมอำนาจอยู่ในมือพร้อมสรรพ (แม้จะเป็นอำนาจซึ่งมีผู้ชักใยก็ตาม) ใช้กฎหมายค่อยๆสอยทีละคดี ทีละกระทง ในที่สุดก็สำเร็จ จัดชุมนุมพร้อมกับยื่นหลักฐานความทุจริตไปเรื่อยๆ มันอาจจะนานหน่อย หาก ก็ยังดีกว่าหักหาญรานรุกบุกบั่นหั่นเถือกันแบบนี้ พวกนั้นเดินหมากอย่างไร เมื่อคืน พลเอกคนหนึ่งออกมาประกาศ เราหูไม่ฝาดหรอก เขาว่าเขาจะใช้ยุทธวิธีทางทหารนำการเคลื่อนไหว นัยแฝงคืออะไร? เราคงไม่ต้องขยายต่อนะ ในท้ายสุด ระบอบทหาร ระบบอำมาตย์อย่างที่เราได้กล่าวแล้วในย่อหน้าต้นๆ ก็จะกลับมาอีก นายคิดว่านั่นเหมาะสมแล้วหรืออย่างไร?
เขียนมาแค่นี้ หวังว่านายคงจะเข้าใจ และไม่ถือโกรธเรานะ
รักเพื่อนเสมอ
ชูเกียรติ เกียรติชู
๒.
เกียรติเพื่อนรัก
เราอ่านจดหมายของนายจบแล้ว ตั้งใจว่าจะตอบ เพื่อความกระจ่าง มิใช่กระจ่างจำเพาะตัวเราอย่างเดียว แต่กระจ่างในความเข้าใจของนายเช่นกัน ถามเราว่า ทำไม เราไปร่วมกับพวกบุกธรรมเนียบ พวกยั่วยุทหาร พวก.... สุดแต่นายจะก่นด่าว่าประณาม ขอยืนยัน ประกาศในที่นี้ว่า พวกเราร่วมกันกู้ชาติอย่างบริสุทธิ์ใจ พวกเราไม่ต้องการรัฐประหารเลย (ถ้าไม่จำเป็นถึงขีดสุด) พวกเรายังคงยืนยันหลักประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เพียงแต่ ประชาธิปไตย ต้องเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่านี้ ก็เท่านั้นเอง
เกียรติ สามสิบปีผ่านมา นายยังเก็บความพยาบาทเอาไว้ในใจอยู่หรือ ความเจ็บแค้นช่วยให้อะไรดีขึ้นมาบ้าง อภัย อภัย อภัย นายไม่เคยคิดจะทำเลยใช่ไหม ตรองให้ลึกๆซิ่เพื่อน ตอนนั้น ประเทศเพื่อนบ้านเรากลายเป็นคอมฯ กันไปหลายแห่งแล้วนะ และนายกล้ายืนยันไหม ว่าถ้าเขาไม่ฆ่าเรา เราจะไม่ทำลายเขา
จักโน้มฟ้าให้เทียมดิน
หวังหลอกกินอีกนั้นอย่าหมาย
ช่องว่างระหว่างชั้นอันตราย
จักทำลายให้ยับอยู่กับมือ อยู่กับมือ หรือ
ลุกยืนขึ้นท้า
พวกฟ้าพวกดาว
รวมใจที่ปวดร้าว
ปลิดดาวลงดิน ฯลฯ ทั้งหลายเหล่านี้ พวกเราอ่านกัน ร้องเพลงกัน จุดมุ่งหมายคืออะไร? ในท่ามกลางสงคราม มีหลักปฏิบัติอยู่ว่า ผู้ลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ ฉะนั้น พวกเขาจึงไม่ผิด แหละจะว่าไป นายแน่ใจได้แค่ไหน ว่า แกนนำใหญ่ๆของพวกเราในขณะนั้น จะมิได้เป็นฝ่ายลงมือยั่วยุฝ่ายตรงข้ามก่อน ตามหลัก ตายสิบเกิดแสน ยอมสูญเสีย เพื่อได้พลพรรคเพิ่ม หลังเหตุการณ์จบลง พวกเราหนีเข้าป่าไปร่วมกับ พคท. ตั้งมากมาย ถ้าการฆ่าหมู่วันนั้นเป็นแผนของทาง พคท. ช่วยเร่งปกิฏิริยาของฝ่าย ซึ่งเราเรียกว่าฝ่ายขวาล่ะ นายจะว่าอย่างไร ทุกอย่างมันเป็นไปได้เพื่อน ในท่ามกลางภาวะอันแหลมคม เราแยกแยะไม่ออกหรอกว่าใครทำใครก่อน เรารู้เพียง เมื่อเขาฆ่าเรา เราก็ต้องฆ่าเขาตอบแทน ตอนนั้นเราก็คิดเหมือนนาย เหมือนพวกเราอีกหลายคน แต่พออุณหภูมิทางการเมืองลดลง เรามานั่งทบทวนดู ถึงรู้ว่าคิดผิด วิธีตอบแทนการฆ่าที่ดีที่สุดก็คือ ฆ่าความอาฆาตของใจของเราทุกฝ่ายต่างหาก
นายบอก ประเทศเกือบทั่วโลกเป็นทุนนิยมไปหมดแล้ว เราถามหน่อย ประเทศไทยจำเป็นต้องตามก้นเขาต้อยๆหรืออย่างไร อยู่อย่างพอเพียง ใครสบาย ก็ประชาชนนั่นแหละสบาย อนาคตข้างหน้า หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นทั่วโลก เราก็รอด เพราะเรามีเงินคงคลังเหลือ อีกอย่าง รูปแบบสงครามมันเปลี่ยนจากศาสตราวุธมาเป็นธนาวุธแล้ว ไม่เหมือนยุคก่อน ต่างชาติเขารุกเราด้วยทุน ความพอเพียงเป็นปราการสิ่งเดียวที่จะต้านอยู่ เมื่อภาครัฐบาลไม่ฟุ้งเฟ้อ ภาคประชาชนไม่ฟุ่มเฟือย เขาก็ครอบงำทางการเงินไม่ได้ แต่นี่ รัฐบาลชุดนี้มันฉ้อฉลปล้นชาติ แดกเช้าแดกเย็นจนเงินแทบจะเกลี้ยงคลัง เราจึงนิ่งเฉยไม่ไหว นายพูดถึงข้าราชการ เราเห็นด้วยส่วนหนึ่ง จริง ข้าราชการมีละโมบ เพราะยังเป็นปุถุชน แต่ก็คงไม่ใช่โลภมาก กินเท่าไรก็ไม่พอเหมือนนักธุรกิจหรอก นายว่า ยากจะตรวจสอบข้าราชการเพราะมีเงื้อมเงาบารมีคอยบัง นายลืมรัฐธรรมนูญไปแล้วหรือมิใช่ นี่เป็นกฎหมายเหนือกฎหมายทั้งปวง กฎหมายอื่นๆที่ร่างขึ้นมาเพื่อป้องปราม ตลอดจนปราบปรามผู้ทุจริตมิจฉาก็มีหลายมาตรา ผิดว่าไปตามผิด ใครล่ะจะกล้าขัดรัฐธรรมนูญ ขัดหลักเนติธรรม (นอกจากรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งหน้าด้านแค่นจะแก้กฎหมายสูงสุดของประเทศ แหละแถถูทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายอย่างน่าละอายเหลือเกิน)
เรื่องจะให้เขาลง ถ้าใช้วิธีตามที่นายว่า เขาก็ดิ้นแถไปเรื่อย แล้วเมื่อไรมันจะจบ หลอกประชาชนไปวันๆ นั่งเสวยสุขสำราญบานใจ ประเทศก็เปลี้ยลง เปลี้ยลง จนหมดแรง หมดลมหายใจ หรือนายอยากให้เป็นเช่นนั้น? เราไม่ยอม พวกเราไม่ยอม นี่จึงมีเหตุผลเพียงพอให้เราต้องออกมา ถามว่าทำไมเราต้องบุกธรรมเนียบ นี่ก็คือยุทธศาสตร์กุมกล่องดวงใจ อาจผิดกฎหมายในข้อบุกรุกสถานที่ราชการ ทว่า ไม่ผิดในเจตนารมณ์อันหวังดีต่อชาติแน่นอน สู้กับโจร บางขณะ เราจำต้องใช้วิธีบางอย่างของโจรมาประยุกต์จึงจะได้ผล ถามว่า ถ้าทหารออกมา บ้านเมืองจะพังไหม ทหารเดี๋ยวนี้ไม่ได้มาถือปืนยิงประชาชนปังๆๆๆเหมือนเมื่อก่อนหรอก เรารับรอง เสร็จหน้าที่แล้วเขาก็ไป ดู คมช. เป็นตัวอย่างซิ่ อย่ายึดติดความคิดเก่า รูปแบบเก่าๆอยู่เลยเพื่อน
เราคงชี้แจงได้แค่นี้ นายจะเห็นด้วยหรือไม่ สุดแต่นายเถิด
รักเพื่อนเสมอ ตลอดไป
กำธร เกริกกรุงไทย
ปล. สถานที่ชุมนุม อาหารอร่อยมากกกก เลือกกินได้ตามชอบใจ สาวๆสวยๆเยอะแยะ ดนตรีเล่นกันหลายวง ผู้ปราศรัยหลายคนพูดโคตรมัน ว่างๆ นายมาดูบ้างก็ได้ อุดมการณ์แตกต่างไม่เป็นไรหรอก คงไม่มีใครว่า ถ้านายไม่ด่าเขาก่อน
(๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑)
บทกวีและบทเพลงอ้างอิง
๑. บทกวี ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ ของ ท่านรวี โดมพระจันทร์
๒. เพลง ลุกขึ้นสู้ ของ วงดนตรี คาราวาน ครับผม
หมายเหตุ
ผมเขียนเรื่องนี้จบลง ก่อนหน้าที่จะได้รับฟังข่าวตำรวจสลายผู้ชุมนุม ณ สะพานมัฆวานครับ จุดประสงค์ก็เพียงเพื่อ แสดงบรรยากาศการเมืองอันแตกแยก โดยพยายามถ่ายทอดความคิดของคนสองฝ่าย ผ่านทางจดหมายสองฉบับ ทั้งนี้ มิได้มุ่งเจตนาโจมตีฝ่ายใดทั้งสิ้น เป็นแต่เพียงลองเข้าไปนั่งในหัวใจของทั้งสองฝ่ายดูเท่านั้นครับผม