12 มีนาคม 2551 16:31 น.
ตราชู
กราบสวัสดีขอรับ ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน
ผมถือเป็นคนตาบอดตกยุคครับ คือดำรงชีพอยู่ในสมัยปัจจุบัน ทว่า พิสมัยในกวีนิพนธ์เก่า ความทุกข์เข็ญจึงติดตามมาเป็นทวีคูณตรีคูณ เมื่อไม่สามารถสรรหาความรู้มาเติมเต็มให้ตัวโดยตนเองได้ จึงมากราบขอความอนุเคราะห์จากทุกท่านครับ
วันหนึ่ง ในสัปดาห์ก่อน ผมลองใช้เว็ปไซต์ google ค้นหาข้อมูลอันเกี่ยวกับวรรณคดี ความเปลี่ยนแปลง บทนิพนธ์ของ ท่านอัสนี พลจันทร์ ก็ไปพบเว็ปนี้เข้าครับ
http://www.sameskybooks.org/webboard/show.php?Category=sameskybooks&No=25508
ในหน้าดังกล่าว อาจารย์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นำบางเสี้ยวบางส่วนของ ความเปลี่ยนแปลง มาลงไว้ ผมติดใจตัวอย่างต่อไปนี้เป็นอันมากครับ นั่นคือ...
โอ้เมืองไทยนี้มีตำ-
นานคือเมืองคำ
แลใคร บ่ เคย เข็ญขร
มีศิลาจารึกลือขจร
โคลงฉันท์กาพย์กลอน
ก็ว่าบมีเวรภัย
แสนสระนุกทุกทั่วกรุงไทย
ไพร่ฟ้าหน้าใส
ประดุจด้าวแดนสวรรค์
ชาวประชาหากินด้วยกัน
ซื้อขายให้ปัน
บมีจะเป็นปากเสียง
เทวราชบมิรู้ลำเอียง
รู้เปรียบเทียบเคียง
จะครองแผ่นดินโดยธรรม
เพราะเมืองไทยนี้มีตำ-
นานคือเมืองคำ
เพราะใครบเคยเข็ญขร
จึงกระเดื่องเลื่องล้ำกำจร
ทั่วทุกนคร
มาขุดเอาทองแดนไทย
เพราะสนุกสุขนักนี่กระไร
ไพร่ฟ้าหน้าใส
เพราะซีดเพราะเซียวเขียวขม
เพราะบมีปากเสียงเวียงรมย์
จึงเลยรันทม
บอาจจะถ้อพาที
เพราะทวยราษฎร์ล้วนเสรี
ขายค้าฆ่าตี
ก็ตามอำเภอใจพาล
เพราะทรงธรรมรัชย์ชัชวาลย์
แผ่นดินจึงดาล
ประดุจประดงกำเดา
ผมอ่านจบถึงกับอุทาน โอ๊ะ....โอ้โฮ! เพราะช่างเสียดสีได้ลึกซึ้งแหละแสบสันดีแท้ๆ โดยเฉพาะสามบรรทัดสุดท้ายของข้อความที่ยกมา คงทำให้พวกยึดติดจารีตกระโดดโลดเต้นทีเดียว
อันเนื่องมาจากความอยากรู้ ผมจึงขอเรียนถามท่านที่มีหนังสือดังกล่าวไว้ในครอบครองว่า ความเปลี่ยนแปลง นั้น ท่านนายผี รจนาถ้อยเสียดสี ประชดประชัน กระแหนะกระแหน เปรียบเปรยเชิงยั่วล้อ ฯลฯ เอาไว้มากไหมครับ อีกประการนั้นเล่า ลีลากาพย์ฉบังของท่าน ต้องถือว่าหนักแน่นจริงๆ เล่นเอาคำประพันธ์ที่ดูพื้นๆ สูงส่งด้วยอลังการศัพท์ ยกระดับเทียบเท่าฉันท์นั่นเทียว ผมไม่มีโอกาสอ่านได้ด้วยตนเอง ทั้งจะหาเว็ปใดนำเรื่องนี้มาลงตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่พบ หากท่านใดกรุณาให้ความรู้เพิ่มเติมบทกวีอันทรงคุณค่านี้เป็นวิทยาทานอีกสักบทสองบท ก็จะถือเป็นพระคุณแก่ผมอย่างยิ่งยวดครับผม
โดยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
ชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ