24 กุมภาพันธ์ 2554 14:23 น.
ตราชู
เลือดลิเบีย
คือห้วงวันหวั่นผวาอุราไหว
โลกพลอยไร้สิ่งรมย์สุขสมรื่น
คำรณปืนครืนเปรี้ยงรัวเสียงปืน
จากโคตรหืนหวงอาสน์อำนาจตัว
หล้าลิเบียเรี่ยรายระบายเลือด
สังหารเชือดเฉือนชนโดยคนชั่ว
ฆ่าให้กายก่ายกล่น หวังคนกลัว
หม่นหมองมัวในมนัสเหนือสัตว์มาร
สู้เถิดสู้หมู่ประชาลุกมาสู้
ยิ่งร่วงพรูสายเลือดยิ่งเดือดพล่าน
ย้ำสัจจาว่ากระเหน็จเผด็จการ
ต้องแหลกลาญมอดมลายสลายลง
ทุกถิ่นที่มีหทัยมอบให้ท่าน
ผู้ถูกผลาญชีพิตมิผิดผง
กำลังแรงแข็งขันแม้นมั่นคง
ย่อมชูธงเทิดชัดธวัชชัย
สู้เถิดสู้ผู้กล้าพร้อมมาสู้
สู้นำสู่แสงวามอร่ามไสว
บ่าที่แบกแอกมหันต์ ปลดมันไป
แล้วอย่าแบกแอกใหม่เอาไว้เลย
(๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔)
5 กุมภาพันธ์ 2554 17:30 น.
ตราชู
ติง เตือน
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
เหตุแห่งหายนะถมระทมนครไทย
มองชิด วินิจฉัย
ชะตา
เศิกไทยในบุระหม่นกมลกระอุฉมา
เศิกเทศก็เจตน์ถา
ทะยาน
ไทยยังแผกคณะผัน เพาะพันธุทิฐิพาล
เพลิงชังระยังฉาน
เผชิญ
ควรเราคิดยุติมั่ว มิมัวมุทะลุเมิน
รักหายกระจายเหิน
ระโหย
เราควรรวมตะละไดจะได้พลวโดย
เรี่ยวแรงมิแล้งโรย
ฤดี
ไทยกับไทยทะเลาะลั่นถลันประลุกลี
ยากนักจะผลักหนี
อนล
ไทยโถมไทย ณ สถานสะท้านภพสะทน
ซ้อนซับซะสับสน
พิศาล
เศิกใน, นอก ผิวบ่าแหละบ้ารณรบาญ
ยากลี้ บุรีลาญ
ประลัย
(๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔)
3 กุมภาพันธ์ 2554 09:09 น.
ตราชู
หวังไว้
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
นึกคิด ลิขิตพจนขอ
สิวะก่อระหว่างกัน
ซาบซ่านกศานติ์สมิตสันต์
กุธซา สิขาโทรม
รอบก้ำระกำจิตมิก่อ
รติหล่อชโลมโลม
ห่อนห้ำระห่ำพหลโหม
ฉุปโหดพิโรธฮือ
ไป่ลวงแหละล่วงปะทะถลัน
อธิขันตินี่คือ-
สิ่งที่วิถีวิสิฐถือ
สุขแท้มิแปรทาง
ทั่วถ้วนจะทวนวิสยทัศน์
ศุภวัฒน์วิไลวาง
รักทอดละถอดวิฆนะ ถาง-
บถทอลออทอง
ถอนทัณฑ์กระทั้นทวิประเทศ
นคเรศเมลืองรอง
เนืองนิตย์สนิทกิจสนอง
กรณีย์ทวีนันท์
หวังไว้ ไสวบุษปะหว่าน
จิรวารบเว้นวัน
หวังไว้ ไสวสุวสวรรค์
สุทิวาสถาวร
(๒ ถึง ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔)
ถ้อยฝากถึง:
สงครามเป็นทางสุดท้าย วิเทโศบายใช้สันติเทอญ
1 กุมภาพันธ์ 2554 13:46 น.
ตราชู
นครสิงคลี
กลอน ๖ กลอักษรถอยหลังเข้าคลอง (ในที่นี้ เขียนโดยถอดกลเสร็จสมบูรณ์แล้ว)
หมาหมู่ขู่คึกฮึกสู้
สู้ฮึกคึกขู่ หมู่หมา
พลันมาถากลาดดาษดา
ดาดาษกลาดถามาพลัน
สรรค์เลศเหตุผลดลเภท
เภทดลผลเหตุเลศสรรค์
ดึงดันรั้นแกล้งแย้งยัน
ยันแย้งแกล้งรั้นดันดึง
ผึงขาด มาดคิดมิตรฆาต
ฆาตมิตร คิดมาดขาดผึง
ชัดอึงขึงขังตังตึง
ตึงตังขังขึงอึงชัด
สัตย์ไร้ ไหลเลื่อนเคลื่อนไถ
ไถเคลื่อนเลื่อนไหล ไร้สัตย์
รุมกัดนัดหมายป่ายฟัด
ฟัดป่ายหมายนัดกัดรุม
หลุมขุด รุดโรมโหมยุทธ์
ยุทธ์โหมโรมรุด ขุดหลุม
เมืองสุมคลุ้มทึมครึ้มธุม
ธุมครึ้มทึมคลุ้มสุมเมือง
เขื่องม็อบรอบกร่างวางกรอบ
กรอบวางกร่างรอบ ม็อบเขื่อง
นองเนืองเรื่องขวางสร้างเคือง
เคืองสร้างขวางเรื่องเนืองนอง
ผองไทยไขว่ขวัญหวั่นไหว
ไหวหวั่นขวัญไขว่ไทยผอง
กรรมกองต้องตรำจำจอง
จองจำตรำต้องกองกรรม
(๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔)
หมายเหตุ:
๑. การเล่นกลอักษร "ถอยหลังเข้าคลอง" กับกลอน ๖ ผมศึกษาแบบอย่างจากหนังสือ "กฎบนกลบท" รจนาโดย "ท่านคมทวน คันธนู" ครับ
๒. สถานการณ์บ้านเมืองยามนี้ซับซ้อนเหลือเกิน มิรู้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายใด ข่าวลือข่าวลวงมากมาย ฟากที่เคยเป็นมิตรกันกลับผันมาเป็นศัตรู ผลัดกันแสดงละครการเมืองลวงหลอกประชาชนอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นสาเหตุให้ผมกลัดกลุ้มแหละเขียนงานชิ้นนี้ขึ้น ครับผม