7 มิถุนายน 2550 11:46 น.

คือบางคนของคนตุลา

ตราชู

คือบางคนของคนตุลา
(เขียนหลังจากอ่านบทกวี ฝนตกขี้หมูไหล ของ ท่านสดายุ ครับผม)


สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
	
	ตำนานแห่งตุลมาสพิฆาตชิวิตมรณ์
มวลชนทุรน, รอน
ฤดี

	ยอมพ่ายพับสริร์พังเพราะหวังจิรรพี
ฉายฉานชวาลชี-
วชน

	เอื้ออวยเอกอธิปัตย์ประชารมยดล
สืบเนื่องประเนืองนนท์
นคร

	แต่.....ท่ามกลางวิรกรรม์อนันต์นรนิกร
เลวร้ายอบายบร
ก็บัง

	สรรค์เกียรติกลางศพดาษสินาดปะทุประดัง
ชีวินถวิลหวัง
วิไล

	ได้โอกาสซิ่เถกิงเถลิงกิรติไกร
ปีน, ป่าย, ตะกายไป
ปะปน

	เป็นทาสถ่อยทุจริตเพราะจิตอุณหะรน
เงินงำก็ทำงน
กะเงิน

	ยลพ่างโสนขภุญชภักษรสเพลิน
ธรรมาระอา, เมิน
ฤมอง

	คือบางคนตุลคิดตระบิดนิติลบอง
ตราตรึงคะนึงตรอง
ตะกราม

	คือบางคนตุลล้นกมลรุทรลาม
อาสัตย์อุบัติทราม
สถุล
(๖ มิถุนายน ๒๕๕๐)				
6 มิถุนายน 2550 09:09 น.

จงรับกรรม

ตราชู

จงรับกรรม
(รูปแบบกลอน ผมศึกษาจากหนังสือ กฎบนกลบท ของ ท่านคมทวน คันธนู ครับผม)

กลอน กลอักษร งูกลืนหาง
	โกย, ล้วง, ตัก หนักหน่วง โกย, ล้วง, ตัก
เกิดพรรคผีรี่ทะลักเกิดพรรคผี
โอ่ท่าทีลีลาโอ่ท่าที
หลายปีนานร่านฉะนี้หลายปีนาน

	สร้างชื่อฉาวเล่าลือสร้างชื่อฉาว
หลอกชาวบ้านชาญกล่าวหลอกชาวบ้าน
ดอกเงินบานตระกาลเพลินดอกเงินบาน
สำราญใจใคร่ทะยานสำราญใจ

	มันกลอกกลิ้งจิ้งจอกมันกลอกกลิ้ง
จนยิ่งใหญ่ไต่วิ่งจนยิ่งใหญ่
ไทยรักไทยได้ประจักษ์ไทยรักไทย
โดยใช้กลปล้นไปโดยใช้กล

	แสนย่ำแย่แส่ระยำแสนย่ำแย่
ตั้งแต่ต้นผลแผ่ตั้งแต่ต้น
ช่างหน้าทนคนบ้าช่างหน้าทน
เมืองหม่นมัวสลัวล้นเมืองหม่นมัว

	เรื่องถึงศาลกาลหนึ่งเรื่องถึงศาล
เผยด้านชั่วทั่วสถานเผยด้านชั่ว
ยังไม่กลัว มั่ว, ไถล ยังไม่กลัว
เอาหัวชนคนทั่วเอาหัวชน

	ถูกยุบพรรคหักฟุบถูกยุบพรรค
ไม่ยักร่นทนหนักไม่ยักร่น
เที่ยวคำรณพ่นพร่ำเที่ยวคำรณ
เกินทนยับรับผลเกินทนยับ

	เมื่อชั่วห้อมล้อมตัวเมื่อชั่วห้อม
จงยอมดับรับพร้อมจงยอมดับ
คือผลลัพธ์ อับจนคือผลลัพธ์
จงรับกรรมจ๋ำหนับจงรับกรรม
(๒ ถึง ๔ มิถุนายน ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
กลงูกลืนหางนี้ ท่านคมทวน คันธนู อธิบายว่า ตำราของโบราณาจารย์ท่าน จะเขียนคำไว้เพียงแค่ ๕ คำเท่านั้นในหนึ่งวรรคของกลอน วิธีถอดกลก็คือ ผู้อ่านจะต้องนำคำที่ ๑ ๒ ๓ นั้น มาต่อเป็นคำที่ ๖ ๗ ๘ ก็จะได้ความสมบูรณ์ครับผม				
2 มิถุนายน 2550 13:54 น.

นองเลือด

ตราชู

นองเลือด
(รูปแบบการเขียน ได้แรงบันดาลใจจากบทกวี ลิเกยังไม่เลิก ของ อาจารย์สุธี พุ่มกุมาร ในหนังสือ ระบำใบหญ้า ครับผม)
กลอนลิเก
	ได้ยินการขานกล่าวเป็นเรื่องราวข้องเกี่ยว
ดูร้ายกาจฉกาจเกรี้ยวขนลุกเกรียวกรูกรู
ผองพวกโหรพวกห้อยทำให้พลอยฮือฮา
ฉวัดฉิวชิวหาแจ้วเจรจาเข้าหู
ว่าแผ่นดินต้องกินเลือดโลหิตเดือดรินไหล
จะลือลั่นความบรรลัยขออย่าได้ลบหลู่
อ้างเอะอะปะปนพูดเสียจนป่นปี้
พล่ามตั้งแต่ต้นปีกางคัมภีร์ขึ้นมาปู
ดาวนั่นโยน โน่นย้าย พาผีร้ายมาย่ำ
ให้เย็นเยียบเฉียบย้ำความระยำจะมาอยู่
พอเลยผ่านวารผันพอคืนวันล่วงพ้น
ประจักษ์, ดู รู้ผลทั่วทุกคนทุกผู้
ว่าถ้อยคำสำรอกล้วนเล่ห์หลอกพวกเรา
ให้กลัดกลุ้มรุมเร้าและร้อนเร่าเมื่อได้รู้
ช่างคิดค้นกลสำคัญเที่ยวผกผันเผ่นคว้าง
กลิ้งขลุกขลุกเป็นลูกข่างเอ่ยข้างข้างคูคู
ว่ารู้เจนเห็นแจ้งตามตำแหน่งที่จ้อง
อันตรายหมายจองมันมุ่งปองโจมจู่
นี่ก็ออกมาพร่ำพูดซ้ำซ้ำพล่อยพล่อย
ว่าเลือดไทยจะไหลพร้อยคนทยอยตายพรู
หนอย! ช่างขุดช่างคุ้ยแคล่วคล่องคุยขานไข
บอกแต่เรื่องเคืองไข้คล้ายจงใจข่มขู่
เถอะ  เลือดถ้าหลั่งพลั่งหลาก ก็เลือดจากปากหมอดู


(๒ มิถุนายน ๒๕๕๐)				
1 มิถุนายน 2550 08:25 น.

นาฏกรรมการเมืองไทย

ตราชู

นาฏกรรมการเมืองไทย

(รูปแบบในการเขียน ได้แรงบันดาลใจจากการท่องบทอาขยานบางตอนใน รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช การเรียนรู้กลบทบางส่วนจากวรรณคดีเรื่อง สิริวิบุลกิตติ ของ ท่านหลวงศรีปรีชา (เส้ง) รวมถึงหนังสือประชุมจารึกวัดพระเชตุพน และตำรา คัพภครรลองร้อยกรองไทย รวบรวมเรียบเรียงโดย ท่านอาจารย์วัฒนะ บุญจับ นักอักษรศาสตร์แห่งสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ตลอดจนบทกวีชุด ภาราสาวัตถี กับ เพลงยาวร้าวสมัย ของ ท่านคมทวน คันธนู ครับผม)
กลอนบทละคร
	มาจะกล่าวบทไป
ถึงเมืองไทยไม่ถ่องทาบทองทั่ว
ขุ่น, รน คนร้ายรำร่ายรัว
ช้ำนิตย์ชิดนัวความชั่วเนือง

	สิงเหย้าเศร้าย้ำสุดย่ำแย่
ทุกข์แปล้แท้ปลดไม่ถดเปลื้อง
พาดกิ่ง พิงก้าน พรรคการเมือง
เติบโขโตเขื่องกระเตื้องครัน

	ทำบ่อย ถ่อยบ้าบีฑาบุก
กด, ยี กี่ยุคไม่เกรงยั่น
ล้นแผ่แลผายหลากหลายพันธุ์
ช่างก่อฉ้อกันแต่ชั้นโกง

	เผยแง่แผ่เงาลำเพาสง่า
ซ่อนห่าสาหัสแห่งสัตว์โหง
สายยาวสาวยื้อซื้อโยง
ลากเขยื้อนเลื่อนโขยงขยับคลา

	นอนยั่ง นั่งยัดขนัดย่าน
ดื้อ, หนา ด่านานยังด้านหน้า
ขนสมุนขุนสมัครชักมา
รอโถมโรมถาภาราไทย ฯ
กลบท กบเต้นสามตอน
	บัดนั้น
หวังมานวารมั่นวันใหม่
โศกนำซ้ำหน่วงทรวงใน
เศร้าไร้ ใสร่ำสำราญ

	บาปเสี้ยนเบียนเซาเบาซบ
ผ่อนเสียงเพียงสบพบศาล
ยุบพรรคยักษ์ผู้อยู่พาล
แนวท่านนั่นแท้แน่ธรรม

	ตัดทรามตามสัตย์ตัดสิน
แทตย์สิ้นถิ่นสุขทุกส่ำ
เผยจากพากย์จดพจน์จำ
หยัดขึ้นยืนคำย้ำคง

	เจิดแต้มแจ่มเติมเจิมแต่ง
รุ่งโสตถิ์โรจน์แสงแรงส่ง
เทิดซื่อถือสรรพ์ธรรม์ทรง
ตรึงยงตรงอยู่ตรูยาม ฯ
	บัดนั้น
ศาลท่านซั้นทวนสอบสวนถาม
คืบเต้าเข้าติดครุ่นคิดตาม
วายครั่นหวั่นคร้ามเกรงขามใคร

	ชั่ว, ดี ชี้ได้ไฉไลเด่น
เนืองคำนำเค้นเน้นขานไข
ล้มฐานลาญทักไทยรักไทย
พวกฉลพลใช้กลไกชัด

	พรรคยงพงศ์ยังพร้อมพรั่งเยี่ยม
อ่องเปี่ยมเอี่ยมเป็น ประชาธิปัตย์
ชาญคำช่ำเขียนเชียรคัด
เชิงจ้านชาญจัดชัดเจน

	เชี่ยวครันชั้นครูมีอยู่ครบ
ลางแพ้แลพบรีบหลบเผ่น
ผันวารผ่านวนเลยพ้นเวร
เบิกกฎบทเกณฑ์มาบังกาย


ฝากวาจาถึงประชาธิปัตย์
กลบทสุรางค์ระบำ

	ใช่เอ่ย, บอก ออกเบนโอนเอนเบี่ยง
ก่อกิจเพียงเกี่ยงผ่านพ้นกาลพ่าย
แล้วอ้างหลอนอ้อนหลอกยามออกลาย
โศภิศหลาย ภายหลังซิ่พังลาญ

	จงแน่วคิดนิตย์คุณเจตน์หนุนค้ำ
สร้างนันท์ซ้ำนำซึ้งสำนึงศานติ์
เปล่งฉายดื่นชื่นดลปวงชนดาล
เกิดสุขปราณซ่านปรนกุศลปรุง

	พ้นโพยฤทธิ์พิษเร่าที่เผาร้อน
ความทุกข์รอนถอนไร้ ถิ่นไทยรุ่ง
ดลเรี่ยวแกร่งแรงเกริกได้ฤกษ์กรุง
พริ้งเพรามุ่งพรุ่งหมายเพริศพรายมา

	เห็นเมืองผ่องหมองผ่านหมอกม่านพ้น
เห็นผู้คนผลคูณเพิ่มพูนค่า
เห็นซึ่งใจใสจัดส่องสัจจา
เห็นแสงถ่องส่องทาหรรษาไทย

(๒๘ ถึง ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู