24 กรกฎาคม 2549 13:12 น.
ตราชู
ตาหารตาหัน
กาพย์ดอกแคร่วง ๑๐
(กาพย์ชนิดนี้ ท่านอาจารย์ศิวกานท์ ปทุมสูติ เป็นผู้คิดขึ้น พบได้ในหนังสือ เพื่อนแก้วคำกาพย์ และกวีนิพนธ์เล่มอื่นๆของท่าน
ครวญใคร่ใจคน
ใจเอ๋ยใจวน เวียนวง
งมงายงวยงง
ความดีไปล่ปลง ปลิดปลิว
หลายแถวหลายทิว
ต่างยอมนบนิ้ว นอบพลัน
ทรัพย์ป้อนซ้อนปัน
รวนเหเรหัน ห่างคุณ
เคยธรรมค้ำจุน
เงินล่อก็หมุน มึนเมา
เคยเคียดเกลียดเขา
กลับอ้างออกเอา เออออ
เช่นนี้นี่หนอ
ไม่รู้จักพอ เพียงเลย
เศร้าเอยโศกเอย
ยังเข็ญยังเคย ยังคง
เข้ารกเข้าพง
ก้าวเดินกลางดง กันดาร
ยลยินวิญญาณ
ยังพาลแผลงผลาญ เพียบเพ็ญ
เคยป่าวเช้าเย็น
ไม่เป็นไม่เป็น คนกลาง
เกรงร่วงหลุมพราง
พลั้งทิศผิดทาง ที่เดิน
เขาเชื้อเขาเชิญ
เอาตำแหน่งเทิน เทิดทูน
เงินคำค้ำคูญ
ตำแหน่งเกื้อกูล กำนัล
เร็วไวรางวัล
พลิกลิ้นผินผัน พูดจา
อ่อนพลันทันตา
ยอมพูดยอมพา- ทีเผย
ปรวนแปรป่าวเปรย
ไม่อาจช้าเฉย เชือนแช
เพื่อหล้ามาแล
มาเถิดมาแก้ ร่วมกัน
ตาหารตาหัน
เงินงบครบครัน ครึ้มใจ
ตาษิณตาใส
กินเมืองหมองไหม้ มืดมน
ตาษิณใส่กล
ตาหารก็รน เร่ารัว
หนักหนาน่ากลัว
ร่ำไห้ในหัว อกโหย
ครางอ่วนครวญโอย
เหมือนแส้ซ้ำโบย เบียนใจ
เมืองไทย เมืองไทย
ทำกันฉันใด ดีเอย
(๒๓ ก.ค. ๒๕๔๙)
หมายเหตุ สำนวน ตาษิณตาใส นี้ ท่านอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นผู้คิดขึ้นใช้ มีปรากฏในคอลัมน์ ข้างคลองคันนายาว เมื่อปี พ.ส. ๒๕๔๘ ทางหนังสือพิมพ์ เดลินิวส์
-----------------------------------------------------------
23 กรกฎาคม 2549 15:35 น.
ตราชู
ส.ก. ส.ข.
ลิ้นหวานล้วนหว่านหวัง
ว่าจริงจัง ว่าจริงใจ
ร้อยคำเรียงร่ำไข
เหลือคมขำหลากคำคม
หลงเชิงรรรเริงชื่น
คงราบรื่นดั่งคารม
กลับคืนกลายขื่นขม
ที่แค้นคั่งทุกครั้งคราว
ส.ก. ก็ส่อโกง
ย้ำยืนโยง ยั่งยืนยาว
สุดห้ามลิ้นสามหาว
ให้ทรามห่างเสื่อมสร่างหาย
ส.ข. ก็ส่อเขื่อง
อยู่เนืองเนืองเยี่ยงเจ้านาย
ออกลวดแลอวดลาย
น้ำลายหลามลิ้นลามเลีย
กรุงเทพฯ อักเสบทั่ว
ยังแน่วนัว ยังนัวเนีย
ทรามซ้ำแต่ส่ำเสีย
อยู่นิจศีลไม่สิ้นซา
ผู้คนพูนข้นแค้น
ทั่วดินแดน กรุงเทวดา
เวียนหนวิ่งวนหา
ก็เวียนหายร้องไห้ฮือ
(๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ วันเลือกตั้ง ส.ก. ส.ข.)
20 กรกฎาคม 2549 08:29 น.
ตราชู
ถวายพระพรบวรราชา
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
ดวงใจเจิดกระจะแจ้งแจรงรุจิระใจ
ใจไทยถวายไท จุฑา
ทรงเปี่ยมบารมิบุญอดุลยกนครา
ยิ่งศรีสุรียา ธ ยง
ยงยศยิ่งปิยราชพระบาทศุภผจง
เจิดศักดิ์อนรรฆ์คง นคร
ใดปองเป็นอริไท้ไผทบทบวร
ร้างร้ายสลายรอน นิรา
ขอองค์ตรีมณิรัตน์ ขนัดมรุคณา
มูลมองประมาณมา ประมวล
ขอราชาธิบดี ธ นีรพระประชวน
ทรงศรีเกษมสรวล สราญ
น้อมใจจากนรเจตน์พิเศษวจนจาร
ดลภูมิภูบาล บดินทร์
ทรงครองราชย์ถวัลย์นิรันดร์นิตยทิน
ธำรงสุธานินทร์ นิรันดร์
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ประพันธ์ถวายพระพร ขอใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงหายจากพระอาการประชวนโดยพลันเทอญ พระพุทธเจ้าข้า
17 กรกฎาคม 2549 16:27 น.
ตราชู
ปุจฉาวิสัชนาร่วมสมัย
(แรงบันดาลใจจากโคลงโต้ตอบ ระหว่างพระเจ้าเชียงใหม่กับท่านศรีปราชญ์ และท่านศรีปราชญ์กับนายประตูในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช)
ษิณเอยรวยล้นแต่ ใดมา?
โดยเชี่ยวชาญอวิชา ช่วยให้
ษิณเอยท่านปรารถนา ใดนั่น?
มีมั่งมากมายใช้ ชั่วฟ้าดินสลาย
ษิณเอยหมายรุ่งด้วย ใดฤา?
โดยกอบเต็มกำมือ แม่นแท้
ษิณเอยท่านนับถือ ใดเทิด?
เงินแหละเงินนั่นแล้ อเนกล้นไหลหลาม
ษิณเอยความโลภเข้า ครองไฉน?
ตูร่ำรวยกว่าใคร แค่นั้น
ษิณเอยท่านพูนไย ผลประโยชน์?
ตูแค่ปรนทรัพย์ปั้น เปี่ยมป้อนลูกเสบย
ษิณเอยเขาด่าเกรี้ยว โกรธไหม?
อยากด่าเชิญด่าไป ไป่ขึ้ง
ษิณเอยท่านกลใด ด้านอยู่?
ยังอยากยังลากทึ้ง ทั่วถ้วนทุกสถาน
ษิณเอยท่านคิดเว้น ว่างวาง บ้างฤา?
ตูบ่วางใครขวาง ขัดข้อง
ษิณเอยท่านมียาง สักหยาด บ้างฤา?
ยางบ่มีวันต้อง ติดหน้าตาตู
ษิณเอยสูท่านนี้ ไยทะนง?
ตูมากบารมียง อยู่ยั้ง
ษิณเอยท่านฤาคง คู่โลก?
ตูชีพอัมตะตั้ง ตราบสิ้นสุรีย์ศรี
(๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)
______________________________________________________
13 กรกฎาคม 2549 13:13 น.
ตราชู
เพื่อนๆทุกท่านครับ หลังจากเมื่อวาน ผมปล่อยอารมณ์โกรธหมดใจแล้ว ก็ค่อยสงบความเดือดดุคุคลั่งลงทีละน้อยๆ จนค่อยๆคิด ค่อยๆตรอง แล้วก็สงสัยจริงๆ ว่าจดหมายลับฉบับสำคัญของรักษาการนายกฯ รั่วมาถึงมือบุคคลอื่นได้อย่างไร ใครนำความบอกท่านไกรศักดิ์ ชุณหวรรณ เป็นคนแรก หรือว่า..... ครับ หรือว่าในกรุงลงกา จะมีหนุมานปลอมตัวมาส้องเสพกับกลุ่มก๊วนทศกัณฑ์ คอยลักกล่องดวงใจท้าวยี่สิบกรอยู่ คำถามดังกล่าว คือที่มาของงานชิ้นนี้ครับ
ทศกัณฐ์กำสรวล
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
อกโอ้ พิโธ่เอ๋ย
บมิเคยเขดาเคือง
ปูนปลิดชิพิตเปลือง
ฤดิปลิววะหวิวไป
สิ้นสิทธิ้ฤทธิ์ศักดิ์
เพราะประจักษไว้ใจ
คำขานตระการไข
ตะละข้อซิ่ยอคำ
เพ็ญเพิ่มเฉลิมภัก-
ดิตระหนักคะนึงนำ
แน่หนอพะนอหนำ
ดนุนี้บดีนาย
มัวเพ้อมะเมอพก
มุหหมกก็เมามาย
แท้มีอรีหมาย
จะมล้างและถางลง
หลงสิ้นระบิลสัตย์
ลุพิบัติพิบากบง
เล่ห์ล้ำถลำหลง
ฉลลิ้นทมิฬเลว
ลงกาสง่าเกียร-
ติจะเปลี่ยนละลายเปลว-
เพลิงหายน์อบายเหว
ปะทุฮึกพิลึกฮือ
โพลงพลามเพราะรามผลาญ
หนุมานสนุกมือ
หันเหียนกระเหี้ยนหือ
นยน์จ้อง ณ กล่องใจ
ชิงช่วงทะลวงฉก
ดนุผกสยอนภัย
หลีกหนีลุที่ไหน
นะจะพ้นกมลพัง
มืดหมดสลดหมาง
มนะว้างวะโหวงวัง-
เวงวายสลายหวัง
อุระหวาดประกาศโวย
กูผู้มิรู้ภิน-
ทจะดิ้นกระแด่วโดย
ภัยร้ายมลายโรย
บริวารประหารหรือ?
(๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)