29 กรกฎาคม 2549 09:43 น.
ตราชู
ดอกสร้อย ภาษาไทย
กาเอ๋ยการเวก
มาสรรค์เสกซาบซ่านบรรสานเสียง
แจ้วแจ้วเรื่อยเจื้อยร่ำร้องจำเรียง
ไพเราะเพียงเพลงพิณพลิ้วรินพรม
มิเทียมภาษาไทยซึ่งไพสุทธิ์
สำเนียงดุจดุริยาเทพาผสม
บรรโลมฉ่ำร่ำชื่นรวยรื่นชม
เอกอุตดมแดนด้าวอะคร้าวเอย
ภาเอ๋ยภาษา
แต่โบราณนานมาพริ้งผ่าเผย
เป็นมาลินประทินหล้าไม่ราเลย
ได้เอื้อนเอ่ยอรรถโอ่เอี่ยมโอฬาร์
คงความงามความจรัสฉายชัดชี้
เพ็ญศิลป์ศรีซาบซึ้งซึ่งภาษา
สืบจำนรรจ์บรรพชนแต่ต้นมา
คงคุณค่ามิ่งขวัญงามครันเอย
เด็กเอ๋ยเด็กไทย
โลกยุคใหม่มาย้อมมามอมหลง
หลงตาข่ายความคิดคล้ายติดกรง
จนงุนงง มักง่าย งมงายงำ
หลงภาษาต่างแดนชั่งแสนดื้อ
ด้วยถูกสื่อซึมซับสิ่งสรรพส่ำ
จงตื่นขึ้นจากหลับเร่งกลับลำ
อย่าเพลี่ยงพล้ำหลุมพรางเขาวางเอย
ลูกเอ๋ยลูกหลาน
ช่วยสืบสานโสภาภาษาสยาม
ให้ ไทย นั้นลั่นระบือบรรลือนาม
โลกเลื่องความอำนรรฆคงศักดิ์อนันต์
ร่วมเชิดชูบูชาภาษาชาติ
ไม่พลั้งพลาดใช้แผลงจนแพลงผัน
ช่วยเกื้อกูลคูณค้ำสิ่งสำคัญ
ภาษาไทย ไทยนั้นคงมั่นเอย
(เขียนไว้สำหรับวันที่ ๒๙ กรกฎาคม วันภาษาไทยแห่งชาติ)
27 กรกฎาคม 2549 09:03 น.
ตราชู
กล่อม กกต.
ค่ำเอยฟ้าคล้ำแล้วค่ำนี้
โอ้ว่าสามปักษีเปี่ยมเศร้าสร้อย
หวังแรมร้างรางเลือนไปเลื่อนลอย
ท้อทดถดถอยต้องทนทาน
มาจะกล่าวเพลงเกลาพริ้งเพรากล่อม
พร้องพร้อมเพริศแพร้วแผ่วแผ่วผสาน
อยู่คุกทุกข์ค้ำคงรำคาญ
เชิญสดับรับสำนานซึ้งทรวงใน
โอละเห่ เอละช้า โอละหึก
ดื่นดึกดวงดาวไม่ดูได้
น้ำตาเติมตวงเต็มดวงใจ
กลั้นโหยกลืนไห้มิให้โฮ
ต้นโพธิ์ไทรใบดกให้นกเกาะ
นกต้องกรรมจำเพาะจึงเผโผ
ปองเกาะซุ้มพุ่มไทรพฤกษ์ไพรโพธิ์
พฤกษ์ก็โย้โยกเยื้องแลโยนเยน
นายพรานมาพาพรากผันจากถิ่น
จะโผผินผาดแผลงหมดแรงเผ่น
กงเกวียนกรรมเกวียนวงเวียนเวร
กงเกณฑ์กรรมเกณฑ์จึงกลับกลาย
เขตนั่งขังนอนคือคุกนี่
เคยมีกลับมิสมอารมณ์หมาย
นายเอ๋ยนายหนึ่งหวังพึ่งนาย
นายก็หน่ายหนีจากเมื่อจวนเจียน
โชคหนอโชคชะตาน้ำตาตก
เวียนวก ผกแพลง แล้วแปลงเปลี่ยน
ไต่เต้า เติบโต แล้วตกเตียน
ควรรู้ ควรเรียน ควรรับกรรม
โอละเห่ เอละช้า โอละหึก
ดื่นดึกอาดูรคงดื่มด่ำ
พลั้งพลาด บาดแผลที่เพลี่ยงพลำ
จารึกช้ำรอยช้ำชั่วชีวา
(๒๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)
----------------------------------------------
26 กรกฎาคม 2549 14:10 น.
ตราชู
สดุดีศาล
อินทรวงศ์ฉันท์ ๑๒
ยามร้ายขยายรุก ประลุยุคธนานิยม
ทรัพย์ท่วมประชวมถม ทุระถ่อยประดอยวิธี
ฉ้อฉลวิจลชาติ ภภหวาดเทวษทวี
แสงส่องก็หมองศรี วสุธาธราไผท
เกลื่อนกล่นทุชนกลั้ว ดุจชั่วพิชิตพิชัย
เหว่ว้าผวาไหว ณ ชิวิตแหละจิตประวิง
ราษฎร์ไร้เพราะไป่รู้ นิรผู้จะพึ่งจะพิง
เศร้าโทรมกระโจมสิง นยน์สินธุรินกระแส
อาสัตยบัดซบ ก็ประจบประจอประแจ
กีดกั้งกะรังแก กระอุเกินประเมินระกำ
จึ่งศาลพิจารณ์สิ้น ยลยินอุบาทว์ระยำ
แนบนิตย์สนิทหนำ เลอะเทอะน่าจะว่าประนาม
โดยสัตย์ก็ตัดสิน คณะกินตะกรุมตะกราม
เหลวแหลกจะแดกหลาม เกาะกลีมิมีทุเลา
โดยสัตย์ก็ตัดสิน มลทินประทังประเทา
พวกหนาประดาเนา นิทร์คุกปะทุกข์ระคน
ฉันท์ ๔๐ (ฉันทลักษณ์ซึ่งคิดขึ้นโดย ท่านคมทวน คันธนู)
ไพสิฐสฤษฎิ์ศาล กอปรการถกลก่อ
ใครคดกระทดข้อ คิดเวียนเฉวียนวน
หน้าด้านระรานดื้อ ยึดถืออบายทน
แผ่พิษพิกฤตผล ล้วนผู้มิรู้พอ
เลือกตั้งฉมังแต่ง พลิกแพลงพละพลุ่งพล่าน
ส่อท่า ณ สาธารณ์ เร่าร่านมิรีรอ
ดื้อแพ่งแสดงเผย อย่างเคยกะใจคอ
อำนาจอนาถหนอ หน้าหนาคละหน้าเหนียว
โอ่อ่ามิลาออก ช้ำชอกประชาชาว
โฉดอยู่ริปูยาว เด็ดดิ่งลุสิ่งเดียว
เงินเงินซิ่เพลินงาบ จ้วงจาบซะจริงเจียว
ท่วงทีฉะนี้เทียว วางท่าจะท้าทาย
วันนี้หละพี่น้อง แซ่ซ้องผสานเสียง
ร้องร่ำระบำเรียง เพลงเรียกพระเพรียกราย
ศาลท่านสุธรรม์เที่ยง ไม่เบี่ยงกโลบาย
ชี้ชัดฉนัดฉาย พวกฉาวคละคาวชัง
ศาลนี้แหละที่หนึ่ง ที่พึ่งประชาผอง
ยศย้ำจะลำยอง ยืนยงประจงยัง
เพื่อชาวประชาชี เสรีจะจีรัง
แวววามอร่ามหวัง ชีวาสถาวร
(คืนวันที่ ๒๕กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๙)
26 กรกฎาคม 2549 08:36 น.
ตราชู
กลองยาว กกต.
เอ้ามาละเหวย เอ๋ยมาละวา
ดู กกต. ซึมส่อโศกา ตะละล้าาาาาาาาาา
ไอ้พวกหน้าด้าน มันทานทนแท้
หาว่าถูกรุม หลายกลุ่มรังแก
ให้ออกไม่ออก ย้อนยอกตอแย
หลอกล่อตอแหล ต่างต่างนานา ตะละล้าาาาาาาา
พวกกอบโกยตัก พวกกักเก็บตุน
พวกโจรห้าร้อย สร้างรอยแผลพรุน
ก่อเรื่องเกเร ไอ้เนรคุณ
วนเวียนวิ่งวุ่น ว่าถูกกฏิกา ตะละล้าาาาาาาา
เลือกตั้งเห็นเห็น ไม่เป็นความลับ
ศาลท่านว่าผิด พ่นพิษสับปลับ
หลีกเลี่ยงเถียงศาล มานานวันนับ
ยางเหนียวหนึบหนับ เต็มหน้าเต็มตา ตะละล้าาาาาาาาาา
พี่เหลี่ยมผูกขาด พี่วาสพวกเขื่อง
พี่เหลี่ยมวางมาด พี่วาสวุ่นเมือง
พี่เหลี่ยมลีลาศ พี่วาสรุ่งเรือง
โย้เย้โยกเยื้อง ยั่วยวนมารยา ตะละล้าาาาาาาาาา
ต้อนไว้ต้อนไว้ เอาไปกรงขัง
ศาลท่านตัดสิน ได้ยินได้ฟัง
ใส่โซ่ใส่พวน ผูกตรวนตรึงตรัง
ให้นอนให้นั่ง คุกขังค้างคา ตะละล้าาาาาาาาาาา
เอ้า หุยยยยยยยย ฮาาาาาาาาา โห่ ฮิ้วววววววว
25 กรกฎาคม 2549 11:00 น.
ตราชู
เพื่อนๆที่รักทุกท่านครับ งานเขียนชิ้นนี้ ผมเขียนขึ้นจากความซาบซึ้ง เมื่อได้รับฟังข่าวอันน่าประทับใจยิ่ง
เมื่อวาน ณ โรงพญาบาลศิริราช ประชาชนยังคงเฝ้าฟังพระอาการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเนืองแน่งสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เสด็จมาให้ผสกนิกรชื่นชมพระบารมีอย่างเช่นทุกวัน เมื่อองค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ลงจากอาคารชั้นที่ ๑๖ แล้ว ทรงมีพระราชปฏิสัณฐานกับราษฎรอย่างใกล้ชิด ทั้งยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานขนมแหละน้ำดื่มกับผู้มาเฝ้าฯ โดยทั่วถึงกัน รับสั่งว่า ขนมแหละน้ำเหล่านี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานด้วยทรงเป็นห่วงประชาชนที่มาเฝ้าพระอาการอยู่
ผมฟังแล้วตื้นตันใจล้นพ้นนัก รู้สึกว่า คนไทยโชคดีที่สุดในโลก ประเทศเราเหนือกว่าประเทศใดในโลก เพราะเรามีพระเจ้าแผ่นดิน และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงประเสริฐที่สุดในโลกนี้ ผมจึงเขียนร้อยกรองถวาย ด้วยความจงรักภักดีสุดดวงใจครับ
สิริราช
ขอโอนเกล้าสักการะแทบพระบาท
บรมนาถนาถาฉัตราเสถียร
ดวงใจเทียมธูปทิพย์ประทีปเทียน
น้าวน้อมเศียรศกราบร่วมกราบกราน
ขอเดชะ พระพุทธเจ้าข้า
รัฐสีมามวลมีฤดีสมาน
อุ่นอกเปรมเอมปริ่มเอื้ออิ่มปราณ
จึ่งดวงมาลย์ราษฎร์มั่นมิ่งขวัญกมล
บำรุงรัฐภาราประชาธเรศ
บำราศเภทภัยผองแผ้วผ่องผล
บันลือเรืองโลกาก้องสากล
บรรลายชลชนม์ชื่นเริงรื่นชัย
สิริยศพระบรรยงบรรจงแจ้ง
สิริแสงส่องสวัสดิ์นิรัติศัย
สิริถ้วนพสุธาทั่วฟ้าไทย
สิริราชราษฎร์ร่วมใจจงรักเรือง
สิริราช สิริราษฎร์โอภาสจรัส
ซึ้งมโนโสมนัสมานานเนื่อง
ปิ่นประมุขประมวลมาปรีดาเมือง
พระเกียรติเลื่องแหล่งหล้าเลิศลาวัณย์
กราบเบื้องบาทมหาบพิตรไพสิฐสม
พระบรมวงศานุวงศ์สรรพ์
สิริราชราชาฉัตรราชัน
สิริราษฎร์ตราบนิรันดร์อนันตกาล
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ ประพันธ์ถวาย ด้วยความจงรักภักดียิ่งชีวิต พระพุทธเจ้าข้า
-----------------------------------------------