5 กุมภาพันธ์ 2554 17:30 น.
ตราชู
ติง เตือน
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
เหตุแห่งหายนะถมระทมนครไทย
มองชิด วินิจฉัย
ชะตา
เศิกไทยในบุระหม่นกมลกระอุฉมา
เศิกเทศก็เจตน์ถา
ทะยาน
ไทยยังแผกคณะผัน เพาะพันธุทิฐิพาล
เพลิงชังระยังฉาน
เผชิญ
ควรเราคิดยุติมั่ว มิมัวมุทะลุเมิน
รักหายกระจายเหิน
ระโหย
เราควรรวมตะละไดจะได้พลวโดย
เรี่ยวแรงมิแล้งโรย
ฤดี
ไทยกับไทยทะเลาะลั่นถลันประลุกลี
ยากนักจะผลักหนี
อนล
ไทยโถมไทย ณ สถานสะท้านภพสะทน
ซ้อนซับซะสับสน
พิศาล
เศิกใน, นอก ผิวบ่าแหละบ้ารณรบาญ
ยากลี้ บุรีลาญ
ประลัย
(๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔)
3 กุมภาพันธ์ 2554 09:09 น.
ตราชู
หวังไว้
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
นึกคิด ลิขิตพจนขอ
สิวะก่อระหว่างกัน
ซาบซ่านกศานติ์สมิตสันต์
กุธซา สิขาโทรม
รอบก้ำระกำจิตมิก่อ
รติหล่อชโลมโลม
ห่อนห้ำระห่ำพหลโหม
ฉุปโหดพิโรธฮือ
ไป่ลวงแหละล่วงปะทะถลัน
อธิขันตินี่คือ-
สิ่งที่วิถีวิสิฐถือ
สุขแท้มิแปรทาง
ทั่วถ้วนจะทวนวิสยทัศน์
ศุภวัฒน์วิไลวาง
รักทอดละถอดวิฆนะ ถาง-
บถทอลออทอง
ถอนทัณฑ์กระทั้นทวิประเทศ
นคเรศเมลืองรอง
เนืองนิตย์สนิทกิจสนอง
กรณีย์ทวีนันท์
หวังไว้ ไสวบุษปะหว่าน
จิรวารบเว้นวัน
หวังไว้ ไสวสุวสวรรค์
สุทิวาสถาวร
(๒ ถึง ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๔)
ถ้อยฝากถึง:
สงครามเป็นทางสุดท้าย วิเทโศบายใช้สันติเทอญ
1 กุมภาพันธ์ 2554 13:46 น.
ตราชู
นครสิงคลี
กลอน ๖ กลอักษรถอยหลังเข้าคลอง (ในที่นี้ เขียนโดยถอดกลเสร็จสมบูรณ์แล้ว)
หมาหมู่ขู่คึกฮึกสู้
สู้ฮึกคึกขู่ หมู่หมา
พลันมาถากลาดดาษดา
ดาดาษกลาดถามาพลัน
สรรค์เลศเหตุผลดลเภท
เภทดลผลเหตุเลศสรรค์
ดึงดันรั้นแกล้งแย้งยัน
ยันแย้งแกล้งรั้นดันดึง
ผึงขาด มาดคิดมิตรฆาต
ฆาตมิตร คิดมาดขาดผึง
ชัดอึงขึงขังตังตึง
ตึงตังขังขึงอึงชัด
สัตย์ไร้ ไหลเลื่อนเคลื่อนไถ
ไถเคลื่อนเลื่อนไหล ไร้สัตย์
รุมกัดนัดหมายป่ายฟัด
ฟัดป่ายหมายนัดกัดรุม
หลุมขุด รุดโรมโหมยุทธ์
ยุทธ์โหมโรมรุด ขุดหลุม
เมืองสุมคลุ้มทึมครึ้มธุม
ธุมครึ้มทึมคลุ้มสุมเมือง
เขื่องม็อบรอบกร่างวางกรอบ
กรอบวางกร่างรอบ ม็อบเขื่อง
นองเนืองเรื่องขวางสร้างเคือง
เคืองสร้างขวางเรื่องเนืองนอง
ผองไทยไขว่ขวัญหวั่นไหว
ไหวหวั่นขวัญไขว่ไทยผอง
กรรมกองต้องตรำจำจอง
จองจำตรำต้องกองกรรม
(๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔)
หมายเหตุ:
๑. การเล่นกลอักษร "ถอยหลังเข้าคลอง" กับกลอน ๖ ผมศึกษาแบบอย่างจากหนังสือ "กฎบนกลบท" รจนาโดย "ท่านคมทวน คันธนู" ครับ
๒. สถานการณ์บ้านเมืองยามนี้ซับซ้อนเหลือเกิน มิรู้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายใด ข่าวลือข่าวลวงมากมาย ฟากที่เคยเป็นมิตรกันกลับผันมาเป็นศัตรู ผลัดกันแสดงละครการเมืองลวงหลอกประชาชนอยู่ตลอดเวลา นี่เป็นสาเหตุให้ผมกลัดกลุ้มแหละเขียนงานชิ้นนี้ขึ้น ครับผม
9 มกราคม 2554 11:41 น.
ตราชู
มโนสยาม
สยามมณีฉันท์ ๘
มโนสยาม ณ ยามจะยุ่ง
สยามกุรุงสะดุ้งน่ะหรือ
ชะ ใครล่ะไม้เกาะไว้กะมือ
แหละใครล่ะคือทุกรประเคน
ผิชาวสยามมิคร้ามขยาด
ก็ไป่มุมาดวิวาทเขมร
ปะเหตุระเร่าระเร้าพิเรนทร์
ฤวาระเกณฑ์ระเนนทะกรรม
ลุปีกระต่ายกระวายกระตุก
ประเทศมิลุก กระคุกถลำ
แน่ะเหลืองจะเบ่งระเบ็งระบำ
เจอะผีก็ซ้ำ เจอะด้ำก็โซรม
อโหสยามสิขามแขยง
เพราะแต่ละแห่งพะแรงกระโหม
ริปูเจาะจ้องจะจองกระโจม
มลินชโลมโพยมอุฬาร
มโนสยาม ณ ยามกระย่อน
สะเทือนสะท้อนสยอนสถาน
ประมาทคละเหม่อละเมอวิมาน
สนุกมินานก็รานมโน
(๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔)
หมายเหตุ:
สยามมณีฉันท์ เป็นฉันท์ซึ่งพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ (น.ม.ส.) ทรงประดิษฐ์ขึ้น แหละผมเขียนงานชิ้นนี้ โดยได้แรงบันดาลใจจากบทพระนิพนธ์ ชโยสยาม ในพระองค์ท่าน ที่ตนเองเคยเรียนสมัยศึกษาอยู่ชั้นมัธยม ๕ ณ โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ครับผม
29 พฤศจิกายน 2553 17:26 น.
ตราชู
ประจานลักษณ์ ประจักษ์ลือ
ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
อนาถชี้อะนี้ชัด
อบายซัด อุบาทว์ซวย
ไถลแสร้งแถลงสวย
ประพจน์ศิลป์ประพิณสรรค์
แน่ะเริงร่า นรารู้
สุภาหมู่สิพวกมัน
มลักทางมล้างทัณฑ์
กระแหน่เท็จกระเหน็จทำ
ผลิผิดผลผละพ้นผิด
กระหยิ่มฤทธิ์ กระหยับรำ
ระเริงนาน ระรานหนำ
กระเลียดนี่กระลีหนอ
ประทบเหตุประเทศไห้
วิลาสไร้ วิลัยรอ
ขนัดบ้าคณาบอ
สนัดบุกสนุกเบียน
อสัตย์ทูน อสูรถม
เจอะอาจมจะอาเจียน
สยบซอนสยอนเศียร
กระสือซั้นกระสันสรวล
เขมือบซ้ำขม้ำสิ้น
ขยอกกินขยำกวน
ประเชิญม่าห์ ประชามวล
กระหม่าหม่นกระมลมัว
กิเลสแท้ก็แลถ่อง
สุภาผองซิพันพัว
กระดกริกกระดิกรัว
ประยูรโรจน์ ประโยชน์หรู
ประเดพิษประดิษฐ์พ่น
ขยองฉลขยันชู
แสดงร่ำ เสาะดำรู
มุอุ้มร้าย มิอายหรือ?
ระลวงนึกระลึกหน่วง
ธเรศปวงทุเรศปือ
ประจานลักษณ์ ประจักษ์ลือ-
สะพัดหล้า สุภาลวง
(๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓)