24 กันยายน 2549 11:54 น.
ตราชู
อำนาจเป็นของประดาประชาชน
(แรงบันดาลใจจากบทกวีชื่อ องค์นำในอำนาจ
ในหนังสือ เรียงถ้อยขึ้นร้อยถัก ของ ท่านคมทวน คันธนู
โคลง ๔ ดั้นบาทกุญชร
...ใครเห็นมันหมั่นเพ้อ..........ลำพอง
ใครต่อใครอยากโต..............เติบบ้าง
ใครต่อใครใคร่สนอง............สนุกเสพย์
ใครต่อใครคว้างคว้าง.........ไขว่หา
...ยกคนเป็นเทพได้.............บัดดล
ยกสู่เมืองเมฆา...................เขตแคว้น
ยิ่งงำยิ่งชวนฉงน................ฉงายหนัก
ไยเล่าคนคล้ายแม้น...........หมู่อมร?
...กลใดปักหลักแล้ว...........ลึกลง
หลักปักยากเปลี่ยนถอน....ถอดทึ้ง
เห็นตนเพ่งตนหลง.............ลอยผงาด
แบกยศศักดิ์อื้ออึ้ง..............โอ่เสมอ
...นี่แหละอำนาจนี้..............อนาถครัน
นี่แหละพาคนเผยอ............พยศกร้าว
นี่แหละที่คนกระสัน............เกินสัตว์
จนไป่ยอมน้อมน้าว.............นอบกาย
...อำนาจนำจรัสเรื้อง.........ดำรู
อำนาจนำตกตาย..............ต่ำต้อย
อำนาจโทษคุณขู................ควรตรึก
นำสุข, นำเศร้าสร้อย.........นิจศีล
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
ด่วนดั้นประดังรถยด้นธิ์..........ตะละตนระเร่งตีน
ปั่นป่วนปะปนวิจลปีน.............บทป่ายกระหายปอง
ได้มาก็หมายสถิตย์มั่น...........ปิติครันสราญครอง
ยวดยงทะยานจิตผยอง..........ฐิตย้ำประจำยาม
มีสัจกษัยวจนสัจ......................เพราะมนัสทะนงนาม
หลงลาภ, ตลอดกิรติหลาม.....วจิหลายละลายเลือน
เมินหมางมิมองนิกรหมู่............สติฟูซิ่ฟั่นเฟือน
ไล่เชือดกระชากพลวเฉือน......ปะทะฉินท์ชิวินชน
กี่ครั้งก็ครั่นหทยคร้าม..............มนะหวามแหละกังวล
คนเหลิงละลิ่วนยน์ถลน............มิละลดสลดเหลือ
กาพย์ฉบัง ๑๖
ก่อนนั้นมรสุมคลุมเครือ.........อดีตหวนทวนเมือ
มาย้อนยังถวิลวิญยาณ
ปางเก่าคราวเกิดเผด็จการ....กาจไกรใช้ทหาร
โหมเพลิงพันลึกฮึกฮือ
คึกคำรามลั่นบันลือ................มากมายหลายมือ
มาเข่นมาฆ่าประชาคาม
ปวงชนล้นหลายตายตาม.......เติมเลือดเดือดลาม
รินไหลไล้หล้าธาตรี
ปัจจุบันผันร้ายกลายดี............โดยทหารหาญมี
มานัสผดุงรัฐภารา
กวาดล้างเผด็จการพาธา.......ธำรงอาณา
อำนาจอาจนำอำนวย
ถ้วนทั่วท่วมท้นชนทวย.............อื้ออึงเอออวย
เอิกศัพท์แซ่ซั้นสรรเสริญ
พร้องพรเพรียกพร่ำจำเริญ......จงด้าวก้าวเดิน
ดลชาติประชาธิปไตย
กลอนสุภาพ
กุหลาบปรายรายดื่นรวยรื่นดอก
คล้ายดั่งบอกบ่งคำขานร่ำไข
เรารักท่าน ทหารผู้กอบกู้ไทย
จงจริงใจจำถนัดในสัจจา
เมื่อสรรจัดรัฐบาลเสร็จการแล้ว
อย่าคลาดแคล้วคำมั่นในวันหน้า
คืนอำนาจราษฎร์นั้นพ้นพันธนา
เพื่อประชาธิปไตยจักได้เต็ม
ใช่เพียงลวงล่วงลับก็กลับกลอก
พกดาบหอกห้ำหั่นหลายพันเล่ม
ค่อยค่อยเถือเหยื่อแทะเที่ยวและเล็ม
ดวงตาเข้มเครียดเคร่งคอยเพ่งมอง
อำนาจใช่ให้ลองเหมือนของเล่น
อย่าขู่เข็นเข้มข้นเหนือคนผอง
อย่ายึดเขาเอามาเพื่อคว้าครอง
เพื่อลอยล่องเริงร่าไม่ราแรง
เรารักท่าน ทหารกล้าบรรดาแกล้ว
ท่านรู้แน่วในหลักประจักษ์แจ้ง
อย่าให้เราเฝ้าหวังกลับพลั้งแพลง
ชีวิตแห้งแล้งหายไม่วายเว้น
อำนาจแท้แน่นั่นใครนั้นถือ
อำนาจคือของของใครมองให้เห็น
อำนาจใครได้ครองควรตรองประเด็น
อำนาจเป็นของประดาประชาชน
-------------------------------------------------------------------
20 กันยายน 2549 14:06 น.
ตราชู
โคลงจิตรลีลา
ดังเพิกด้าว............ผืนดิน
ดลธานิน.............สนั่นก้อง
ปานภูว์ผิน...........ผันผก
ทั่วทั้งท้อง............ถิ่นฐาน
มารมุ่งม้วน........เขมือบโกง
ยกพวกโหง........ห่ามเหี้ยม
ดวงตาโพลง........ลิ้นแผล็บ
คิดสร้างเสี้ยม......ศึกเสริม ส่งเสริม
เหิมหนักแล้ว.....แลหนอ
ใครไป่รอ...........รุกต้าน
ลูกไล่ผลอ..........พลอดเอ่ย
ใครโต้ค้าน........ข่มเขา ขู่เขา
เมาห์โลดหล้า.....โลดลอย
เดินดุ่มทะยอย....เหยียบย้ำ
หลายคนถอย-....แถวถด
ร้าวเจ็บกล้ำ.........กลบกลืน
ขืนข่มแท้..........เกินทาน
จึงก่อการ..........กอบกู้
จึงรวมหาญ......หาญหัก
จึงเข้าสู้............สิ่งทราม
ขามคร้ามยั่น.....เยงไย
ไทยคือไทย.......ที่แกล้ว
ไทยใช่ใหล-.....หลับตลอด
รู้ตื่นแผ้ว...........แผ่นดิน
ภินท์พวกพ้อง....พาลา
พังยักษา.............ย่ำเสี้ยน
จำเป็นมา...........ประมวลหมู่
หั่นให้เหี้ยน......หดหาย เหือดหาย
อีทิสังฉันท์ ๒๐
จึงพิรีย์ขนัดสมรรถขจาย
พลังพิลึกอธึกทลาย......................ทุชนลาญ
ลาญริปูอธรรม์มหันตพาล
ประทุก, ประเทิง ระเริงสถาน......สถุลพรรค์
พรรค์ปิศาจฉกาจไฉกรฉกรรจ์
ธนาเสาะหา, อุราน่ะหรร-............ษฮือเหิม
แผ่ประภาพเผด็จประเทศเผดิม
ฉลาดฉลุยตะลุยเฉลิม..................โฉลกตน
ตูสิใหญ่ผิว์ใครจะใคร่ผจญ
ณรงค์ก็พ่ายมลายเพราะพล..........พิทักษ์ตู
สูงและต่ำมิคิดพินิจและดู
ระหงระเหิดจะเชิดจะชู................จะชุบตัว
ร่านขย่มระริกขยิกระรัว
กระหังกระหายระราย ณ หัว-......ระแหงเห็น
สร้างยุบลตะบิดประดิษฐ์ประเด็น
ประชาซิ่ป่วนละล้วนจะเป็น.........ประลัยกาล
แตกสมานสมัครอะดักก็ดาล
ผิว์ปล่อยฉะนี้บุรีพิศาล.................สะเทือนครืน
จึงทหารถนัดสมรรถก็ยืน
เถลิงผงาดพิลาส ณ ผืน..............ไผทพลัน
กาพย์ยานี ๑๑
แค้นเคืองคนเขื่องโข..................ยิ่งเติบโต ยิ่งตีบตัน
ใครแข่ง ใครแข็งขัน...................ก็ขบเขี้ยวคอยเคี้ยวคน
ย่างผ้ายเยื้องย้ายผิน...................โลดลิ่วบินลอยลมบน
พวกผีพ่วงพีผล- .........................ประโยชน์ผองพวกพ้องพูน
สร้างภาพให้ทราบผ่อง...............แท้หม่นหมองมากมองมูล
สิ้นทรัพย์ สิ่งสรรพสูญ..............ด้วยหมู่ทรามมูมมามโซม
ตวงชั่งให้ต่างชาติ.......................มาย่างยาตรเหมือนญาติโยม
ซ้องแห่เซ็งแซ่โหม....................มาซ้องฮือ มาซื้อหา
เลวฉายทำลายชาติ......................อวดลีลาศ โอ่ลีลา
โสมมสั่งสมมา...........................เสพสามานย์ซึมซ่านมอม
ถึงทีพวกผีท้น.............................ต้องยับย่น ต้องยินยอม
กำลังไหลหลั่งหลอม..................จักกวาดหล้า กวาดกาลี
กลอนสุภาพ
พิรุณหลั่งพรั่งลงบรรจงล้าง
ให้เสื่อมสร่างคาวอสัตย์ คาวบัดสี
หวังผืนแดนแผ่นดินคงยินดี
ทุกชีวีหวังไว้วับไววาว
ขอแสงฉายพรายเฉิดพริ้งเพริศช่วง
ขอหนห้วงหาวแห่งเจิดแจ้งหาว
ขอแก้วก่ำล้ำเกิดกำเนิดสกาว
ขอรอยร้าวรอยรานบรรสานรอย
วารวันใหม่ไม่หม่นมืดมนมิด
จงสืบทิศศรัทธาไม่ซาถอย
ดวงใจที่พลีถั่งย่อมหลั่งทอย
ลบความถ่อยที่ทาบที่ฉาบทา
ถึงนับหนึ่งพึงน้อมพึงพร้อมนับ
เพื่อสร้างสรรพเสริมสรรค์สิ่งหรรษา
ประชายืนขึ้นหยัดท่ามรัถยา
สืบสัมฤทธิ์อิสราปรีดารมย์
ไทยสร้างไทยใสถ่องทุกท้องที่
สร้างสิ่งศรีแสวงเสาะโดยเหมาะสม
คนเคลื่อนขับคับคั่งสร้างสังคม
เพื่อชื่นชมเฉิดฉันนิรันดร์ชัย
(เขียนไว้ในช่วงวันที่ ๑๙ ถึง ๒๐ กันยายน วันปฏิรูปการปกครองอีกครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย)
19 กันยายน 2549 11:24 น.
ตราชู
การประท้วง
(แรงบันดาลใจจากบทกวีชื่อ การเมือง ประพันธ์โดย ท่านอาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ในคอลัม ข้างคลองคันนายาว หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
การประท้วงมิใช่ทำอย่างพร่ำเพรื่อ
การประท้วงมิใช่เถือไม่ยอมถอย
การประท้วงมิใช่ขู่ไม่รู้คอย
การประท้วงมิใช่ต้อยกันตามตาม
การประท้วงมิใช่ก่อโดยไร้แก่น
การประท้วงมิใช่แผนอันผลีผลาม
การประท้วงมิใช่เหลิงเป็นเพลิงลาม
การประท้วงมิใช่ข้ามขอบเขตใคร
การประท้วงต้องทำโดยรู้เท่า
การประท้วงต้องเพลาต้องผ่อนได้
การประท้วงต้องรอไม่ท้อใจ
การประท้วงต้องใคร่ต้องครวญคิด
การประท้วงต้องหนักในหลักแก่น
การประท้วงต้องแผนไม่พลาดผิด
การประท้วงต้องสุขุมคุมเข็มทิศ
การประท้วงต้องไม่ติดในอัตตา
แหละนี่คือหลักการ การประท้วง
มอบแด่ปวงวีรชนคนแกล้วกล้า
ผู้โบกธงบ่ายทัพสรรพโยธา
เพื่อมุ่งหน้านำชัยให้มวลชน
[ 13 ธ.ค. 2548 เวลา 16:34 ]
18 กันยายน 2549 09:00 น.
ตราชู
เพื่อนๆทุกท่านครับ ก่อนที่ท่านจะอ่านผลงานชิ้นต่อไปของผม ผมขออนุญาตชี้แจงถึงแรงบันดาลใจบางประการ ในการสร้างงานสักน้อยหนึ่งเถิดครับ
บัดนี้ เป็นที่สังเกตว่า สำนักสงฆ์ และอาวาส ได้เข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้งทางการเมืองด้วย ฝ่ายสันติอโศกก็พวกหนึ่ง ฝ่ายวัดสวนแก้วก็อีกพวกหนึ่ง ผมสะเทือนใจอย่างยิ่งยวด ที่บรรดาแกนนำของฝ่ายการเมืองทั้งสองพวก พยายามดึงพุทธจักร ให้มาวุ่นกับอาณาจักร โดยกิจกรณีย์ทั้งหลายนั้น หาได้เกี่ยวกับสมณสงฆ์แม้สักน้อยไม่ จริงอยู่ แม้มีบางท่านอ้างอิงโยงใยไปถึงโบราณกาลว่า ในยามสงคราม พระสงฆ์องคเจ้าท่านยังเปลื้องผ้าเหลืองมากุมดาบ แต่..... บัดนี้ บ้านเมืองเราวิกฤตขนาดนั้นแล้วหรือ? ต้องเดือดร้อนถึงเพศบรรพชิตแล้วหรือ? ผมยังเชื่ออยู่เสมอว่า ด้วยแรงฆราวาสก็น่าจะเพียงพอแล้ว อย่าให้ร้อนรนถึงบุตรพระพุทธเจ้าท่านเลยครับ
สันติ ณ สวนแก้ว
จุดธูปเทียนเวียนทัศน์ถึงสัจแท้
โลกนี้แลโกลาการล่าไล่
แข่งก่อฟืนขึ้นฟูมแล้วสุมไฟ
จึงลามไหม้หมองหม่นผู้คนมวล
ท่านคือสงฆ์ทรงศีลผู้สิ้นเศร้า
แม้หมอกเทาสมทบคลุมภพถ้วน
ท่านถือธรรมงามถ่องไตร่ตรองทวน
ย่อมไม่ด่วนบันดลกังวลแด
โลกร้อนสุมรุมสู่มิรู้สร่าง
ทุกสิ่งสร้างสิ่งส่ำจากกรรมกระแส
เมื่อรู้หลักตระหนักแล้วนิ่งแน่วแล
ก็รู้แน่, รู้หน่ายมากมายมนุษย์
ท่านควรเร้าเร่าเรียนเพื่อเพียนรู้
เพื่อเพียรสู่ผ่องใสเพ็ญไพสุทธิ์
ท่านผู้พึงพึ่งภักดิ์ในหลักพุทธ์
โลกหมุนรุดเร่งเร่าอย่าเร้ารน
เรื่องการเมืองเรื่องมัวเรื่องมั่วมาก
ต่างฝ่ายพากเพียรเพื่ออวยเอื้อผล
เห็นแก่ตัว, ชั่วติดใกล้ชิดตน
ปลอมแปลงปนเปป่ายวุ่นวายไป
ท่านคือสงฆ์ทรงศีลผู้สิ้นโศก
ย่อมละโลก, ล้างเลว, ล้างเหลวไหล
ใครใคร่ครองปองคลั่งก็ชั่งใคร
ท่านพิไลธรรมเลิศประเสริฐแล้ว
ขอสันติผลิตามงดงามต่อ
ไร้เรื่องก่อรบกวนในสวนแก้ว
สันตินำธรรมน้อมพริ้งพร้อมแนว
สวนแก้วแพร้วพรูพร่ำศีลธรรมพราย
สุขในท่ามความทุกข์ย่อมสุขท้น
เมื่อโลกวนแต่ละวันผวนผันว่าย
ขอสันติผลิแต่งอย่าแล้งตาย
สวนแก้วรายร่มรื่นฉ่ำชื่นนิรันดร์
15 กันยายน 2549 08:59 น.
ตราชู
กุหลาบแก้ว
โคลง ๔ สุภาพ
บานเถิดบานกุหลาบแก้ว ผกาพราว
บานเพื่อผืนภูมิสกาว ก่องสร้อย
บานสรรค์เพื่อสืบสาว ความพิสุทธิ์
บานเพื่อมาลาร้อย อร่ามเรื้องเรืองหรู
บานพบูบงเฉิดชี้ ชวนชม
เฉกเช่นความดีฉม ชื่นฟุ้ง
มวลชนทุกหนนิยม ยงอยู่
ดังสุริยาสว่างคุ้ง เขตห้วงหาวสถาน
อย่าบานเลยกุหลาบแก้ว ผกาทราม
บานเพื่ออวดเลวลาม ล่อล้อ
บานเพื่อเผ่าพันธุ์หลาม เลวเสพ
บานเพื่อคนเขื่องข้อ เขื่องขึ้นค้าขาย
แสนอายยามโอ่แย้ม เพยียยล
เพียงเพื่อคนบางคน แค่นั้น
เพียงเพื่อเพิ่มพูนผล ประโยชน์แผ่
เพียงเพื่อผิดปิดกั้น ไป่กล้าประกาศเผย
พุชงคประยาตฉันท์ ๑๒
กลีกับ กุหลาบแก้ว อนาถแล้วไฉนเลย
ถวิลชังมิหวังเชย เพราะมุ่งเชิดละเมิดชน
ก็คนห่ากะค้าหุ้น ประยุกต์ตุนประโยชน์ตน
คะนึงค่า ธนาขน คะเนคิดผนิดความ
ขม้ำหมายขมายหมด พยุงยศพยายาม
ผิว์ถูกท้วงฤทวงถาม ตะแบงถ้อยตะบอยเถียง
สฤงคารสราญโข โขมงโว, เขมือบเวียง
ระรายรุ่นสมุนเรียง ทะยอยร่าน, ทะยานรวย
ประโลมนายก็หลายนัด และออกอัตถะเอออวย
เสลาสร้างสล้างสวย สลอนภาพกุหลาบพันธุ์
กลีกับ กุหลาบแก้ว มิเลิศแวววิลาวัณย์
สถิตเขตประเทศขัณ- ฑเพื่อคนทุผลคาว
-----------------------------------------------------------------------