12 กรกฎาคม 2550 07:49 น.
ตราชู
บิ๊ก บัง
บังใด หรือบดด้าว...............บังดิน
บังเท็จมวลมลทิน...............โทษป้าย
บังโฉดชั่วกังฉิน...............เชิงฉกาจ
บังเคลือบคลุมคลับคล้าย...............เคลื่อนคลุ้มหมอกควัน
บังธรรม์โดยบอกถ้อย...............เท็จประดัง
ยิ่งบิ๊กยิ่งกำบัง...............บด, ห้อม
ยิ่งวารยิ่งความหวัง...............วายดับ
ยิ่งหลอกเหมือนยิ่งล้อม...............แหล่งหล้าแลสลัว
ตนตัวย่อมตระหนักแจ้ง...............ใจตน
กลก่อคิดซ่อนกล...............เก็บเกลี้ยง
วันผันย่อมเผยผล...............พิสูจน์สัตย์
ถูก, ผิด, ปรากฏเพี้ยง...............พลิกพื้นแผ่นหิน
ดวงจินตน์จำรัสเรื้อง...............จำเริญ
คนแซ่ศัพท์สรรเสริญ...............ไป่สิ้น
จิตโหดใคร่ลอยเหิน...............เวหาศ
ชนย่อมลือโดยลิ้น...............ด่าแล้วรุมประจาน
คนหาญ หาญเด่นด้วย...............ความดี
ใช่เสาะหาศักดิ์ศรี...............สืบสร้าง
ดวงใจแจ่มรูจี...............รจิตจิต
จึงรุ่งเรืองห่อนร้าง...............ห่อนไร้ภายหลัง
(๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)
4 กรกฎาคม 2550 15:44 น.
ตราชู
ถามเทพี
แลโอฬารตระกาลลักษณ์ทรงศักดิ์เลิศ
ต่างทูนเทิดคอยถวิลทุกถิ่นที่
ฟังขานชื่อสื่องามถึงความดี
ว่า เทพีสันติภาพ เหมือนปราบภัย
มารำงับดับเรื่องขุ่นเคืองเข็ญ
ให้โลกเห็นหนทางทุกอย่างไสว
ให้เพลิงลุก ทุกข์ระทดถอนหมดไป
ให้โลกใสด้วยศานติ์สำราญรมย์
แต่.....ประเทศเขตที่เทพีสถิต
ยังครุ่นคิดก่อสงครามคำรามขรม
ยังยาวยืดมืดโมห์ความโสมม
ยังเที่ยวข่มนครอื่นอย่างครื้นเครง
เทพีเอยเคยกมลหมองหม่นไหม
ยามอยู่ใกล้คนกลุ่มชอบกุมเหง
ปล้นเมืองอื่นสะอื้นหนัก เป็นนักเลง
ชอบสร้างเพลงมรณา น้ำตานอง
เมื่ออินทรีรี่ถลาโอ่อ่าศักดิ์
รวมพลพรรคพร้อมพรั่งสิ้นทั้งผอง
ศพก็กลาดดาษกายล้มตายกอง
นกร้ายเหินเพลินผยองลำพองโพยม
เทพีเอ๋ยเคยไหมทรวงในสะทึก
คราวเพลิงฮึกเหิมระห่ำกระหน่ำโหม
หลายแผ่นดินดิ้นเดือด แดงเลือดโลม
เสียงครืนโครมเมื่อคราคนฆ่าคน
อยู่สุขไหมในแคว้นดินแดนนี้
แดนอินทรีย์ปีศาจสัญชาติฉล
แดนที่มั่วชั่วทรามร้อนลามลน
ฉันท่วมท้นสนเท่ห์.....ถามเทพี
(๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
บทนี้เขียนไว้สำหรับวันชาติของสหรัฐอเมริกา ๔ กรกฎาคม ครับผม
23 มิถุนายน 2550 09:26 น.
ตราชู
กราบครู กาพย์ครู
ไพร่ฟ้าประชาชี
ชาวบุรีก็ปรีดา
ทำไร่เขาไถนา
ได้ข้าวปลาแลสาลี
อยู่มาหมู่ข้าเฝ้า
ก็หาเยาวนารี
ที่หน้าตาดีดี
ทำมโหรีที่เคหา
ค่ำเช้าเฝ้าสีซอ
เข้าแต่หอล่อกามา
หาได้ให้ภริยา
โลโภพาให้บ้าใจ
ไม่จำคำพระเจ้า
เหไปเข้าภาษาไสย
ถือดีมีข้าไท
ฉ้อแต่ไพร่ใส่ขื่อคา
คดีที่มีคู่
คือไก่หมูเจ้าสุภา
ใครเอาข้าวปลามา
ให้สุภาก็ว่าดี
ที่แพ้แก้ชนะ
ไม่ถือพระประเวณี
ขี้ฉ้อก็ได้ดี
ไล่ด่าตีมีอาญา
ที่ซื่อถือพระเจ้า
ว่าโง่เง่าเต่าปูปลา
ผู้เฒ่าเหล่าเมธา
ว่าใบ้บ้าสาระยำ
ภิกษุสมณะ
เล่าก็ละพระสะธำม์
คาถาว่าลำนำ
ไปเร่ร่ำทำเฉโก
ไม่จำคำผู้ใหญ่
ศรีสะไม้ใจโยโส
ที่ดีมีอักโข
ข้าขอโมทนาไป
พาราสาวะถี
ใครไม่มีปรานีใคร
ดุดื้อถือแต่ใจ
ที่ใครได้ใส่เอาพอ
ผู้ที่มีฝีมือ
ทำดุดื้อไม่ซื้อขอ
ไล่คว้าผ้าที่คอ
อะไรล่อก็เอาไป
ข้าเฝ้าเหล่าเสนา
มิได้ว่าหมู่ข้าไท
ถือน้ำร่ำเข้าไป
แต่น้ำใจไม่นำพา
หาได้ใครหาเอา
ไพร่ฟ้าเศร้าเปล่าอุรา
ผู้ที่มีอาญา
ไล่ตีด่าไม่ปรานีฯลฯ
ลายสือสารสื่อรู้
สุนทรภู่ ท่านพาที
ไขขานมานานปี
ถึงสิ่งมีซึ่งสามัญ
ดูในเมืองไทยนี้
พวกกาลียังโรมรัน
โมโหมืดโมหันธ์
เข้าครอบขัณฑ์ครามครันครอง
สังคมแสนขมขื่น
ทั่วภพผืนภูตลำพอง
หมักหมมโสมมหมอง
ยังมูลมองเนืองนองมี
รำร่อนรุมร้อนเร่า
ไล่ล่าเยาวนารี
อักโขกามโลกี
ในเมืองนี่เกินพรรณนา
ผู้ชายออกลายชั่ว
จับกลุ่มมั่วแต่กามา
หื่นหรรษ์โหมตัญหา
สำเริงร่าในอารมณ์
ผู้หญิงก็ยิ่งยั่ว
ให้ชายชั่วชื่นเชยชม
ครื้นครั่นเสียงลั่นขรม
เพลงความใคร่ขวักไขว่ครัน
ไม่จำคำพระเจ้า
มั่วมึนเมาแลเมามัน
เชื่อไสยแทรกใส่สรรพ์
ครั้นไฟคุก็ จตุคามฯ
ลางสงฆ์ไม่ทรงศีล
ล่วงป่ายปีนจนลามปาม
บัญญัติก็ขัด, หยาม
ด้วยยุ่มย่ามลาภยศโยง
ขี้ฉ้อยิ่งล่อฉล
แปลกปลอมปล้นเรื่องเปิดโปง
ผีห่าบรรดาโหง
จุดเพลิงโพลงบันดาลภัย
พาราสาวะถี
ใครไม่มีปรานีใคร
มองเทียบเมื่อเปรียบไทย
ก็ใกล้ใกล้ไม่แผกกัน
หิวเงินจนเหินงาบ-
สินบนคาบเป็นสำคัญ
ทุกยามเย้ยหยามหยัน
แต่คนยากลำบากยล
พูนผลพวกคนผิด
มีเงินติดก็รอดตน
หลากแห่งหลายแหล่งหน
มันโห่เห่มุ่งเฮฮา
คนถูกเข็ญทุกข์ถม
ต้องตรอมตรมไร้เงินตรา
ตรวนขึงผูกตรึงขา
ตรึงแขนคา เต็มราคิน
พาราสาวะถี
ทุกถิ่นที่ท่วมมลทิน
พัวพันยากผันผิน
พ้นปวงภัยโจรใจพาล
รำพึงคิดถึงภาพ
ในคำกาพย์บรรจงกานท์
อักษรสุนทรสาร
สุนทรภู่ พ่อครูเพียร
กราบครู คำกาพย์ครู
สั่งศิษย์รู้ สอนศิษย์เรียน
ถ้อยคำท่านร่ำเขียน
คือคำเธียรคงคู่ไทย
(๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
กาพย์พระชัยสุริยา ของ ท่านสุนทรภู่ คัดข้อมูลจาก
http://www.beourfriend.org/nat/rt/?p=320
ครับผม
21 มิถุนายน 2550 16:48 น.
ตราชู
ไหว้องค์จตุคามรามเทพ
(แรงบันดาลใจจากบทกวี ไหว้ โดย ท่านคมทวน คันธนู ในหนังสือ กำสรวลโกสินทร์ ครับผม)
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
โอม...องค์พ่อจตุคามอร่ามอมรคุณ
ลือศักดิ์ประจักษ์สุนทร์
สุภณ
ดำเกิงเกียรติระบือกระพือสุรยุบล
มากมายละม้ายมนต์
มหันต์
จำรัสเรืองกระจะจ้ารุจามหศจรรย์
เวียนว่ายมิวายวัน
ทวี
ใครคิดหาธนะท้นก็ค้นกลวิธี
สร้างเหรียญระเมียรมี
มิเพลา
หลายรุ่นเหรียญน่ะทะลักมิพักยุติ, ทุเลา
ขายค้ามุสาเขา
ฤขาม
คนพลอยคลั่งกระอุไข้อะไรก็จตุคาม-
องค์รามเทพราม
จรูญ
อัญเชิญองค์จตุคามวิรามธอนุกูล
กลับสู่พิมานพูน
ประภา
โปรดผ่อนอิทธิผชุมละลุมจิตประชา
เพื่อไสยศาสตร์ซา
สลาย
อย่าลวงล่อนรหลงพะวงสติละลาย
มัวโมหะเมามาย
กมล
โปรดหยิบยื่นชุติญาณประทานมนุชยล
สัมพุทธ์พิสุทธิ์ผล
พระธรรม
ก่อสัมมาทิฐิเกิดประเสริฐกุศลกรรม
จำหลักประจักษ์จำ
จิรัง
(๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
16 มิถุนายน 2550 13:03 น.
ตราชู
เดรัจฉาน
โคลงจิตรลีลา
ภูมิถิ่นนี้...............นามไทย
แดนอาศัย...............สุขเอื้อ
รัฐเรืองไร...............อิสระ
ล้วนชาติเชื้อ...............เหล่าชน
ดลโสตถิ์ด้วย...............บุญผดุง
รมย์รื่นปรุง...............ปราศร้อน
ชนอำรุง...............รักษ์สงบ
เปรมแปล้ป้อน...............เปี่ยมหทัย
ใครด่าพื้น...............แผ่นดิน
อันอยู่, กิน...............ใหญ่กล้า
อันอวยสิน-...............ทรัพย์เอ่อ
มันนี้ช้า-...............ชั่วฉกรรจ์
มันปลุกพ้อง-...............พวกพล
คิดปั่นกล...............ป่วน, กร้าว
สร้างสับสน...............แสนระส่ำ
จ้างต่างด้าว...............ด่าไทย
มันใช้สิ่ง...............สามานย์
ส่อสันดาน...............ดิบสร้าง
เดรัจฉาน...............ชัดประจักษ์
เราต้องล้าง...............ไล่มัน
สรรค์เสกให้...............หรรษา
เพื่อภารา...............รุ่งแผ้ว
ไพสิฐผา-...............สุขแผ่
สูญสิ้นแล้ว...............เหล่าอสูร เลวอสูร
(๑๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
ชื่อ โคลงจิตรลีลา นี้ ท่านคมทวน คันธนู เป็นผู้คิดขึ้น เพื่อยกย่อง โคลง ๕ พัฒนา ซึ่ง ท่านจิตร ภูมิศักดิ์ รังสฤษฎิ์ไว้ครับผม