8 สิงหาคม 2550 08:14 น.

รับ ไม่รับ

ตราชู

รับ ไม่รับ

(แรงบันดาลใจจากบทกวี กาลามสูตรสมัย ของ ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ในหนังสือ เพียงความเคลื่อนไหว ครับผม)

	รัฐธรรมนูญไทยโปร่งใสแท้
ถ้าไร้แง่งุนงงให้หลงฉงน
ไร้เล่ห์ลวงบ่วงล่อคล้องคอคน
และไร้ผลประโยชน์ชั่วชิดพัวพัน

	ลองคิดค้นคนไทย รับ ไม่รับ
โปรดอ่าน, ตรับ, ตรึกดูจนรู้มั่น
เขาอำพรางอย่างไรเราไหวทัน
ก้าวสำคัญสำหรับเราควรเข้าใจ

	ใช่ ไม่รับ เพราะมีใครสั่ง ไม่รับ
มาชี้นำกำกับบังคับได้
ใช่ ไม่รับ เพราะเขาจ้างเราไป
เอาเงินใช้ กำชับ ห้ามรับเชียว

	ใช่ รับ เพียงเสียงเขาคอยเป่าข่าว
อ้างคำกล่าวสอดคล้องมาข้องเกี่ยว
ใช่ รับ เพราะตามหมู่เพื่อนกรูเกรียว
ใครนำเหนี่ยวโน้มน้อมก็ยอมตาม

	ใช่ รับ เพื่อเอื้อคนที่ตนชอบ
สิ่งรอบรอบหลายแหล่ก็แลข้าม
ใช่ รับ เมื่อเชื่อวจีว่าดีงาม
ว่ามีความล้ำค่าไร้ราคี

รับ ไม่รับ ยับยั้งหยุดชั่งจิต
มองทางทิศก้าวทอดตลอดวิถี
อย่าเร่งรัดตัดสินใจ ตรองให้ดี
เพื่อพรุ่งนี้ เพื่อ ประชาธิปไตย

(๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)				
1 สิงหาคม 2550 16:00 น.

จตุสดมภ์

ตราชู

จตุสดมภ์
(แรงบันดาลใจจาก บทกวีชุด หมายเหตุร่วมสมัย ของ ท่านอาจารย์ไพบูลย์ วงศ์เทศ และงานของ ท่านคมทวน คันธนู ครับผม)
๑.	เวียง

อีทิสังฉันท์ ๒๐
	
	โอ....สยามสยองเพราะพ้องระยำ
คะคึกคระโหมกระโจมประจำ
ประจัญกล


	เมืองกระเหม่นกระหม่าผวากมล
ประจวบประจบประสบประจญ
กะปัจจา

	แรงพลังระดมผสมประดา
ละหมู่สิมุ่งถลุงสิมา
สมัครใจ

	หนึ่งก็ทวงประชาประภาพพิชัย
ทว่าริสร้างกระด้างนิสัย
ทุสันดาน

	ยั่วยุหวังณรงค์ประสงค์ระราน
สถุลจริตพินิจพิจาร-
ณจัญไร

	หนึ่งตริแผนอุบาทว์ฉกาจฉไกร
สะสมทหารสะท้านไฉน
ขนัดเวียง

	เล่ห์กระเท่ห์ประดังประนังเผดียง
คดีคระไลไถลเฉลียง
เฉลยหลอน

	ปวงประชาประดัก, กระอัก, กระดอน
กระเจิงกระเจิดเตลิดกระจร
ตระหนกจริง

	ร้อนอุราและหวาดมิอาจประวิง
คณาปิศาจฉกาจเกาะสิง
สยามโซ

	มองฉนัดฉะนี้ทวีมโน-
สลด, ระหวย, ระทวย อะโห!
ฤดีหาย

	โอ....กระโหยกระหนทุรนทุราย
เทวษถวิลมิสิ้นมิวาย
อุราวรณ์

๒.	วัง
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
		
	ดำเกิงผกายกนก, แก้ว
รุจิแผ้วทิฆัมพร
วังแสนพิสุทธิ์พระอดิสร
พิศสรรพประทับทรวง

	แต่....ศรีกษัตริย์พระฤจะสรวล
ขณะป่วนนราปวง
จอมหล้าเฉลิมนครหลวง
ธ จะล้าระอาเหลือ
	เวียงแซ่ประสานคณะกระสัน
เยอะแยะครันเพาะข่ายเครือ
ดวงใจมิเจอกุศลเจือ
ทุรจิตผนิดจินตน์

	ห่า, โหง, กระหัง มุหะระห่ำ
พฤติกรรมตะกายกิน
โกยทรัพย์สะสมอธิกสิน
ตะละส่ำขม้ำโซม

	แผ่นภูว์พะภัยทรสภาพ
ดุจราพณ์ตะลุยโรม
แท้ไทยกะไทยพลวะโถม
พสุธามิอาทร

	อาดูรอุดมธรณิด้าว
มหิร้าว อุรารอน
จอมไท้จุฑา ธบมิถอน
ทุกข์ท้นพระทน, ทาน

	๓. คลัง
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

	ดื้อดึงตะบึงแดก
เละเทะแหลกมโหฬาร
ผาดแผลงแสดงผลาญ
ตะกระพลันกระสันเพลิน

	บุก, บ้า ประสาบาป
มุขงาบกระหายเงิน
ห่าม, หาญ ทะยานเหิน
ประลุห้องคระลองหาว

	ชิงช่วงทะลวงฉวย
วสุรวยสง่าราว-
เด็ดได้พิไลดาว
มหเดชวิเศษดล

	หลักธรรมขยำทิ้ง
จรวิ่งตลบวน
ชั่วช้ามุสาฉล
กระจะชัดอุบัติชัง

	เศร้าโศกวิโยคแสน
ธนแคลน พินาศคลัง
วอดวายมลายหวัง
บุรวัฒน์จรัสวาม

	เงินบาทอนาถบ่ง-
ภยส่งชะตาทราม
อ่อนค่าผวาขาม
คุสิขีทวีคูณ

	๔. นา

เปษณนาทฉันท์ ๑๖ (ฉันทลักษณ์ซึ่งคิดประดิษฐ์ขึ้นโดย ท่านอาจารย์สุภร ผลชีวิน)

	เกษตรโศกใส่กษัยสินทรัพย์
สลอนสิ่งสรรพซิ่ลับสิ้นสูญ
พิการพอกพิษพิกฤตเพิ่มพูน
พิบากถมทูนพิบูลย์ทั่วไทย

	ระทึกร่ำไห้ฤทัยร่ำหา
เพราะหลงเสียท่าพิลึกสาไถย
กระเท่ห์โป้ปดกระทดป่าวไป
ละเมียดลื่นไหลละไมลิ้นลม

	แฉลบลับเลยเฉลยลวงเล่น
ประดาษขุกเข็ญประเด็นขื่นขม
กระหนาบซ้ำซ้ำกระหน่ำซวดซม
ระทวยจ่อมจมระทมจริงจัง

	พะวงไขว่คว้าผวาเคว้งคว้าง
มลักเวิ้งว้างมล้างแววหวัง
กระจัดแพ้พ่ายกระจายภินท์พัง
ประเนืองหนี้พรั่งประนังนองพรู

	แน่ะชาวนาไทยไฉนท่วมทุกข์
กระอักยืนยุคกระอุกยังอยู่
อนันต์แลดาษอนาถแลดู
ระรุ่มสิงสู่ฤรู้เสื่อมซา

	สยามยอกย้อนสยอนหยันยั่ว
สล้างมารชั่วสลัวมิจฉา
แหละใครแบ่งชั้นล่ะใครบัญชา
ประชิดตีตราประชาต่างตรอม

	๕. บทสรุป
วิชชุมมาลาฉันท์ ๘

	ราวทาส ราษฎร์ท้อ
กรรมส่อกำสรด
รับทัณฑ์ รันทด
นิ่งอดนิ่งออม
ถ่อยยื้อถือแย่ง
กลับแปลงกลายปลอม
แหลกเหลว เลวหลอม
เกิดหล้ากาลี

	ช่างเยียบเฉียบยิ่ง
หลากสิ่งหลายส่วน
หันเซเหซวน
ทบทวนท่าที
พวกโลนโผนเล่น
อุณห์เข็ญอัคคี
บาปซัด บัดสี
เบียนซ้อนบ่อนแซง

	เพียงใจไพจิตร
ไพสิฐผ่องใส
มากฝันหมั่นใฝ่
เรืองไรเริงแรง
ล้างทรามลามสุม
ชั่วคลุมชวนแคลง
รัตน์ส่องรองแสง
เศร้าห่างสร่างหาย

	จุดให้ใจหาญ
ด้วยมานแดมุ่ง
หวังพราววาวพรุ่ง
ดาวรุ่งดื่นราย
สรรมาสามารถ
ไม่คลาดไม่คลาย
แก้วผ่องก่องภาย-
ผืนแดนแผ่นดิน

	เลิกถด ลดท้อ
สานก่อสร้างกิจ
สุขร่ำสัมฤทธิ์
ทุกทิศ ทุกทิน
เพ็ญสบภพสุนทร์
ไร้ขุ่นราคิน
ทูนเชิดเทิดฉิน
ชาติไทยชัยเทอญ




(๒๑ ถึง ๓๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)				
28 กรกฎาคม 2550 10:08 น.

รำพึงถึงพระพุทธเจ้า

ตราชู

รำพึงถึงพระพุทธเจ้า

ร่ายยาว
	ปางบุรพสมัยเมื่อโพ้นเพรงพุทธกาล กษณะคคนานต์นวลสกาวด้วยนิสากรกระจ่างสวรรค์ ครั้งนั้น สมเด็จพระสรรเพชญผู้ทรงสุนทรคุณอนรรฆเป็นบรมโลกนาถ ทรงสำแดงอุตโมวาทวาทีโปรดปัญจวัคคีทั้งห้า ยังมหพนานามอิสิปตนะมฤคทายวัน ทรงแถลงพุทธธรรม์ถ่องแท้คือวิถีจตุราริยสัจสี่ประการ พลันก็บันดาลเมทินีกัมปนาทบันดลตลอดสกลจักรวาลัย พระรัตนตรัยก็ตรูตระการ ปรากฏโชติชัชวาลวิโรจน์รังสี เหนือรังสิมันตุ์รัศมีเพลามัชฌันติกวารชวลิต ยังจักรแห่งธรรมให้คระไลไปทั่วทิศานุทิศทั้งโลกา ณ อาสาฬหมาศบุณมีอันเป็นอดิเรกดิลกดิถี นั้นแล

	ข้าแต่สมเด็จพระจอมธรร ในเบื้องปรัตยุบันพระพุทธศาสนาล่วงมาได้สองพันห้าร้อยห้าสิบศก นาครอันยอยกขึ้นโดยนามว่าสยามประเทศ ประกาศเกียรติเป็นนคเรศนิเวศน์พระสัมพุทธ์ แต่.....โอ.....ข้าแต่พระวรัญญูผู้สูงสุดอัครศาสดาจารย์ ไฉนพระพุทธศาศน์ไพศาลไพเศษในเขตขัณฑสิมานี้ จึ่งดูประหนึ่งเศร้าหมองศรีเสียได้เล่า พระมกุฎเกศเกล้าของโลกเอ๋ย กระไรเลยอริยสัจสี่ชาวพุทธ์หลายเผ่าราวมิยินดีสดับ กลายกลับหลงเลือนกุศลานิสงส์เสียเกือบสิ้น จอดจ่ออาจิณในอาจม งงงวยงุนงมเห็นไสยศาสตร์ว่าแสนงามจนเซื่องงัน ระบมบ่มจาบัลย์ตลอดบุรีสยามรัฐ ฤาถึงยุคพิบัติหายนะบีฑา ทำลายพื้นพสุนธรานี้แล้วแล

	อันว่าเพ็ญแขขจิตคคนางค์สว่างไสวปางสมัยอาสาฬหมาศเวียนมาประจบอีกคำรบหนึ่ง ข้าน้อยนิ่งคำนึงถึงพระพุทธคุณพ้นคณนา เทิดพระตรัยรัตน์จรัสรุจิรานันต์เหนืออื่นใด ขอพระพุทธ์, พระธรรมอำไพอำพนโอภาส โปรดช่วยประเทาทุรภัยพินาศนี้สักน้อยหนึ่งเถิด ขอพระภิกษุสงฆ์จุ่งประเสริฐปราศจากกิเลสลามกหม่นหมอง ช่วยฉุดนรชนผองพ้นจากภยันตรายร้ายแรงแห่งอวิชา ยังพุฒิปัญญาให้ยรรยงยอดยิ่ง ขอสิ่งอันเสื่อมทรามค่อยสร่างเซาแลสูญสลายในท้ายที่สุด บังเกิดปิติโสมนัสในใจมนุษย์ทุกรูปทุกนาม ครุวนาดังหนึ่งศศิวิรามวราภาท่ามราษตรีอาสาฬหะ ในวาระนี้ด้วยเทอญ
  
(๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
ร่ายยาวนี้ เป็นฉันทลักษณ์ซึ่งผมเรียนรู้จาก ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก ๑๓ กัณฑ์ ครับผม				
24 กรกฎาคม 2550 12:09 น.

มีสิทธิ์

ตราชู

มีสิทธิ์


	พวกเราเหล่านี้มีสิทธิ์
ทำ, คิด ดื้อแพ่งแข็งข้อ
มีสิทธิ์ไล่ คมช.
หนุน นปก. ก้าวไกล

	มีสิทธิ์สำรากปากอ้า
ด่าป๋า ปาวปาวกล่าวไข
มีสิทธิ์รุดหน้าฝ่าไป
ทางใดก็ได้ทุกทาง

	มีสิทธิ์ทำร้ายตำรวจ
รุมหวดโหมฮึกคึกขว้าง
มีสิทธิ์ต่อสู้อยู่กลาง-
ผู้ขวางการบุกทุกคน

	มีสิทธิ์พุ่งใส่ไม่เลี่ยง
ทุบข้าวของเปรี้ยงแตกป่น
มีสิทธิ์คิดสร้างจลาจล
บัดดลสำแดงแรงฤทธิ์

	บรรลัยใครบ้างช่างเขา
พวกเราทั้งหลายไม่ผิด
กฎหมายมีไหมไม่คิด
รู้แค่มีสิทธิ์เสรี

(๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)				
21 กรกฎาคม 2550 10:25 น.

เงินบาท: เงินบาด

ตราชู

เงินบาท: เงินบาด

	สังเกตมองเศรษฐกิจ
ราวพ้องฤทธิ์ผีร้ายรุม
เหมือนส่อเค้ามรสุม
ซัดสิ่งส่ำซวดซ้ำเซ

	ดูยิ่งร่วงดิ่งแย่
ยังเปลี่ยนแปรอย่างปรวนเปร
เผียนหกแล้วผกเห
เลยผันหวนแล้วผวนหัน

	เวียนกาลเมื่อวารก่อน
เคยเร่าร้อนรุกโรมรัน
หลายส่วนกำสรวลศัลย์
แต่....ลางส่วนสันต์สรวลสม

	คับแค้นคราวแคลนขาด
เมื่อเงินบาทมาบาดระบม
ทุกข์ใจเมื่อไทยจม
ถมความเจ็บกลืนเก็บจำ

	ครั่น, หนาว หนอคราวนี้
ใครเล่าที่เลวร้ายทำ?
ใครกุม? ใครคุมกำ?
ใครโกยตัก? ใครกักตุน?



	เงินบาท เป็น เงินบาด
ทำร้ายราษฎร์โดยทารุณ
โศกเนาความเศร้าหนุน
ไทยถ้วนหน้าทั้งธานี

	ขัดขวางก็คว้างเคว้ง
ช่างวังเวงในชีวี
เมื่อไหนจึงได้หนี
พ้นทุกข์นี้เสียทีหนอ???

(๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๐)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟตราชู
Lovings  ตราชู เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงตราชู