12 ธันวาคม 2550 10:54 น.
ตราชู
โคลงกระทู้เมืองไทย
โคลงดั้นบาทกุญชร กระทู้โบราณ
ทะ มึนเมฆม่านม้วน...............มัวมน
ลุ่ม ลึกกลยุทธ์ลวง...............หลอกให้
ปุ่ม ปมติดตมปน...............เต็มเปี่ยม
ปู ธนบัตรทิ้งไว้...............หว่านวิถี
ทุ รชนเชิงเยี่ยมยิ้ม...............ยรรยง
สุ นัขสมุนมวลมี...............สมัครส้อง
มุ ทะลุโลดเริงหลง...............เถลิงอาสน์
ดุ ด่าใครแม้ข้อง...............ขัดใจ
อุ ดมอำนาจนั้น...............เนานาน
สา หัสประชาธิปไตย...............ต่ำต้อย
นา ครซึ่งไพศาล...............แสนผาก
รี จักษุร้ายพร้อย...............พร่างพราย
โก ลาหลมากแล้................หลายครา
วา ณิชกิจการขยาย................ขยิ่มโก้
ปา ริสุทธิ์สิ่งสรรพ์ซา-................โทรมเสื่อม
เปิด ม่านพวกกล้าโม้................เกลื่อนเมือง
จก ฝันอันเลื่อมรุ้ง................นิราศหวัง
จี้ จ่อเพลิงโพลงเรือง...............โรจน์จ้า
รี้ พลเผ่าทหารยัง...............ยืนหยัด
ไร เล่าอาจกู้ฟ้า................ก่อฝัน
(ร่างเดิม ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ แก้ไข ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
กระทู้โบราณเยี่ยงนี้ ผมเรียนรู้จากโคลงของท่านศรีปราชญ์ และผลงานของกวีร่วมสมัยหลายท่าน มี ท่านอังคาร กัลยาณพงศ์, ท่านศิวกานท์ ปทุมสูติ, ท่านไพวรินทร์ ขาวงาม เป็นอาทิ ครับผม
10 ธันวาคม 2550 11:31 น.
ตราชู
สิบธันวา
สิบธันวาครานี้อีกปีเหวย
วันหยุดเว้ยกูจะได้วิ่งไวว่อน
เดินเที่ยวเตร่เฮฮาหรรษาจร
เล่นตะลอนสนุกล้ำเริงสำราญ
กูประแป้งแต่งกายเฉิดฉายฉลวย
ไปอวดรวยหรูหรากินอาหาร
อย่าดูถูกลูกค้าภัตตาคาร
กูเชี่ยวชาญใช้จ่ายมิอายใจ
ต่อจากนั้นพลันรี่ไปตีกอล์ฟ
กูชื่นชอบโชฝีมือ รู้หรือไม่?
เรื่องสุขสรวลส่วนตัวหนักหัวใคร
กูกวาดได้รางวัลสำคัญมา
อ้าว! นี่วันรัฐธรรมนูญหรือ?
อ้อ! อือ อือ ตัวกูก็รู้ว่า
เขาเจาะจงบ่งกัน สิบธันวา
ไม่พึงน่าใส่จิตสักนิดเดียว
เห็นตั้งโอ่โอฬารไม่นานเนิ่น
พอฉุกเฉินฉีกกระจัดชั่วบัดเดี๋ยว
ฉีกแล้วสร้าง สร้างแล้วฉีก เอาอีกเชียว
ช่างลดเลี้ยวเล่ห์หลามเล่นตามสบาย
กูรู้ชัด รัฐธรรมนูญหรู
มีไว้ปูทางตีนให้ปีนป่าย
ใครอำพรางอ้างแอบเอ่ยแยบคาย
ก็ยืดกายยกก้นเลิศล้นเกิน
กูก็ได้ใช้สื่อหนังสือนี้
นั่งเก้าอี้ในสภาเชิดหน้าเหิน
จนปรากฏยศล้ำลาภจำเริญ
ใช้จ่ายเพลินเพื่อเหล่าพงศ์เผ่าพันธุ์
สิบธันวาพาให้หัวใจฮึก
กูนึกนึกกลอุบายมาดหมายมั่น
รัฐธรรมนูญนี้คุณมีอนันต์
ด้วยกูหมั่นใช้เนืองเนือง.....เป็นเครื่องมือ
ข้อความฝากทิ้งท้าย
ผมเชื่อว่า คนที่คิดอย่างนี้ มีอยู่มากมายในบ้านเมืองเราครับผม
9 ธันวาคม 2550 11:34 น.
ตราชู
ท่านผู้อ่านที่เคารพทุกท่านครับ ผมเขียนงานชิ้นนี้จบตั้งแต่ ๔ ธันวาคมแล้ว โดยมีที่มาจากพระราชดำรัสแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนั้น พระองค์ตรัสถึงโทษของการขาดความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ และรับสั่งคำว่า ล่มจม อยู่หลายครั้ง ผมเกิดแรงบันดาลใจทำให้เขียนโคลงขึ้น ครั้นเขียนเสร็จก็เก็บไว้ เพราะจะนำมาลงในช่วงเวลานั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงขอนำมาลงไว้ในวันที่ใกล้กับวันรัฐธรรมนูญแล้วกันครับผม
ล่มจม
โคลงจิตรลีลา
ไทยหากทิ้ง...............ทวยไทย
มัวหลับใหล...............ตลอดหล้า
ปราศสิ่งใด...............ผดุงอยู่
ไทยด้อย, ล้า...............ล่มจม
ชมชื่นท้น...............ทุนทูน
พอกพิษพูน...............แผ่ถ้วน
จนเสื่อมสูญ...............ศีลสัตย์
ไทยนั้นล้วน...............ล่มจม
ถมถืดแท้...............ทวยอธรรม
บังเกิดกรรม...............กาจแกล้ง
ผลาญทรัพย์หนำ...............โซมหนัก
ไทยแห้งแล้ง...............ล่มจม
สมคบด้วย...............ต่างแดน
หวังวางแผน...............เพื่อห้ำ
สำเริงแสน...............กระสันเสพ
ไทยร้ายล้ำ...............ล่มจม
ขมขื่นแค้น...............เข็ญเคือง
คือการเมือง...............มั่วจ้าน
ราษฎร์หน้าเหลือง...............ซมสลบ
ไทยล้านล้าน...............ล่มจม
รมย์รื่นทิ้ง...............วิถีบรรพ์
วัฒนธรรม์...............ถอดขว้าง
ไม่ยอมหัน...............หวนกลับ
ไทยด้าวมล้าง...............ล่มจม
จงบ่มสร้าง...............เกษมศานติ์
โดยบันดาล...............เด่นแก้ว
คือใจสมาน...............มาสมัคร
คลายเศร้าแล้ว...............ไล่หมอง
ตรองตรึกด้วย...............ดวงฤดี
สามัคคี...............ข่ายห้อม
ไพรีหนี...............แหนงหน่าย
สรรค์รั้วล้อม...............แหล่งสยาม เลอสยาม
(๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
โคลงจิตรลีลา เป็นชื่อที่ ท่านคมทวน คันธนู ใช้เรียกโคลง ๕ พัฒนา ซึ่ง ท่านจิตร ภูมิศักดิ์ ริเริ่มไว้ ทั้งนี้ เพื่อยกย่อง และเชิดชูเกียรติกวีแม่แบบครับผม
5 ธันวาคม 2550 09:00 น.
ตราชู
แปดสิบพระชนม์พรรษา อาศิรวาท
ภัททกะฉันท์ ๒๒
วาระเฉลิมฉลอง
สุริยะผ่องประภา
อุตมมิ่งสิมา
รุจิพิมล
แปดทศพรรษพิพัฒ-
นระบุชัดพระชนม์
นฤป ภูมิพล
วรวิภู
เบ็ญจ ณ ธันวฤกษ์
บุษปะเบิกพบู
ปฐพิแดนผิว์ดู
ก็ปิติดาล
มวลมนะไทยจะเทิด
กุศลเกิดตระการ
ประดุจภูมิบาล
วจน์ยุบล
ขอปฏิญาณแหละย้ำ
ประพฤติกรรมตระกล
มิทะเลาะจู่ประจญ
มุหะประจัญ
ใจตะละใจประจักษ์
สหพิทักษธรรม์
ตริทะนุชาติลุฉันท์
ประชุมพิชัย
เพื่อสุขสันติ์ประสบ
ศุภประภพประไพ
วิยนราดิศัย
วรประสงค์
ขอนรนาถอเนก-
บวรเอกพระองค์
สถิตยืนและยง
ยศนิยม
ขออธิเดชะเบิก
กิรติเกริกวิกรม
ธ มละทุกข์ระทม
รุจิระเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายชูพงค์ ตรีวัฒน์สุวรรณ เขียนถวาย เนื่องในมหามงคลวโรกาสเฉลิมพระชนม์แปดสิบพรรษาแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท พระพุทธเจ้าข้า
(๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
ภัททกะฉันท์ ๒๒ นี้ ผมยึดตามตัวอย่างแบบแผนอันปรากฏในตำราแต่งฉันท์วรรณพฤติและมาตราพฤติ พระนิพนธ์ใน สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ครับผม
28 พฤศจิกายน 2550 10:12 น.
ตราชู
เรื่องน้ำน้ำ
(กลอนเพลงพื้นบ้านรูปแบบนี้ ผมเรียนรู้จากบทกวีของ ท่านเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ และกวีท่านอื่นๆครับผม)
เดือนสิบเอ็ดน้ำนอง
เดือนสิบสองน้ำทรง
สายน้ำใสไหลส่ง
ซึมซอกซอน
คำโบราณท่านเน้น
ถึงประเด็นเรื่องน้ำ
เกณฑ์กำหนดกฎนำ
ก็แน่นอน
โอ้ปีนี้เมืองไทย
แถกถูไถผิดท่า
ไข้ระอุพสุธา
แสนอาทร
ช่างกระไรน้ำมัน
คอยคอยวันลดมั่ง
คงไม่มีหรอกกระมัง
เจียนม้วยมรณ์
พ่วงสินค้าพาเขยิบ
ยิ่งกำเริบเร่งขยับ
เดี๋ยวขึ้นยุบขึ้นยับ
ไม่หยุดหย่อน
เบียดเบียนเหลือเบื่อล้า
นี่ก็หน้าน้ำลาย
พวกตอแหลแหล่หลาย
เที่ยวตะลอน
นโยบายเอี้ยมเฟี้ยม
ฟังแล้วเอี่ยมอ่องฟ้อ
นานนานไปใจฝ่อ
เพราะเฟะฟอน
อีกน้ำโคลนข้นขุ่น
ก็เคยคุ้นสาดเข้า
โฆษณาด่าเขา
กลางนคร
ถ้ามิใช่พรรคตู
มึงต้องอยู่ต่ำต่ำ
กูกระหยิ่มทิ่มตำ
ไปทุกตอน
นี่ก็ใกล้เดือนอ้าย
ยังกลิ่นอายเหม็นอวล
โอย! กระอักชักกระอ่วน
หัวอกอ่อน
น้ำมันแพงแรงกระจาย
แล้วน้ำลายเรี่ยกระเจิง
ซ้ำน้ำโคลนข้นเจิ่ง
หนทางจร
ร้องไห้โฮโศกา
เสียจนตาแดงก่ำ
โธ่เอ๋ยกรรมกรรมกรรม
ประชากร!
(๒๗ พฤศจิกายน พ.ษ. ๒๕๕๐)
หมายเหตุ
เดือนสิบเอ็ดน้ำนอง เดือนสิบสองน้ำทรง เป็นประโยคคล้องจองที่โบราณท่านผูกขึ้นจากการสังเกตธรรมชาติ เท่าที่ผมจำได้จากผู้ใหญ่ท่านร้อง และจากการอ่านหนังสือ รู้สึก ข้อความจะมีว่า
เดือนสิบเอ็ดน้ำนอง เดือนสิบสองน้ำทรง พอเดือนอ้ายเดือนยี่ น้ำก็รี่ไหลลง
หากผมจำคลาดเคลื่อนประการใด ขอกราบขอขมาท่านผู้ใหญ่ทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับผม