1 กันยายน 2551 11:15 น.
ตราชู
คำสาปแม่โพสพ
แม่มีบุญคุณโขคือโพสพ
ครามครันครบ คูณค้ำทุกคำข้าว
ทุกข้าวคำย้ำกลืนชีพยืนยาว
ลูกค่อยก้าว ค่อยเขยิบ ค่อยเติบโต
แม่ข้าวเกื้อเอื้อเอิบอิ่มเติบใหญ่
รักโยงใยแผ่ขยายยิ่งสายโซ่
เลี้ยงลูกยากายินลูกภิญโญ
เพื่อลูกโผผันผายแรงกายเพ็ญ
เพ็ญแรงกายผายผันเพื่อสรรค์ประภพ
ให้บรรสบซึ่งสุขสิ้นทุกข์เข็ญ
ให้ชาติเราเขานิยม อยู่ร่มเย็น
ให้ชาติเป็นชาติประเทืองทุกเบื้องไป
ใช่ก่อเกื้อเอื้อลูกปั้นปลูกถนอม
จนกายย่อมลูกขยายเป็นกายใหญ่
เพื่อรบราฆ่าฟันโก่นบรรลัย
เพื่อลูกไทยไล่เถือล้นเหลือระทม
กินข้าวนาธานีไทยนี่หนอ
ไยแตกคอคุกคามคำรามขรม
เอาแค้นขัดอัดอุราเป็นอารมณ์
พาชาติล้มรวนเรเหมือนเนรคุณ
เมื่อชีพยังยั่งยืน ยังกลืนข้าว
อย่าแตกร้าวร้อนระอุอกคุกรุ่น
ข้าวจากแคว้นแดนไทยที่ได้ภุญช์
ก็ควรครุ่นคิดนึกตรองตรึกนำ
ใครกินข้าวด้าวไทยแต่ใจถ่อย
ยุให้คอยฆ่ากันเช้ายันค่ำ
ยังลุกลามหยามหยาบลืมบาปกรรม
ขอข้าวคำจงพิฆาต คมปาดคอ
(๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑)
หมายเหตุ
ผมฟังข่าวกลุ่มต่อต้านพันธมิตรจากต่างจังหวัดลงมากรุงเทพฯ แล้ว และขู่ว่าจะใช้วิธีโต้ตอบอีกฝ่ายหนึ่ง โอกาสที่ประชาชนจะปะทะกันจึงสุ่มเสี่ยงถ้าหากมีผู้จุดชะนวนหรือปลุกระดม ผมจึงเขียนงานชิ้นนี้ขึ้นครับผม
28 สิงหาคม 2551 10:53 น.
ตราชู
วิศาลี
(แรงบันดาลใจ ผมได้จากวรรณคดี สามัคคีเภทคำฉันท์ นิพนธ์โดยท่านชิต บุรทัต ครับผม)
สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙
ปางจอมมาคธไท้ ธ ใช้รณวิธี
โถมหล้า วิศาลี
สลาย
บันโดยแรงคุรุวัสสการกลอุบาย
สามัคคิมากมาย
มิคง
วนเวียนวาระยุแหย่กระแหน่กะเทาะยุยง
ราช ลิจฉวี หลง
ถลำ
จึ่งสูญเสียพสุธารสะท้านอุระระกำ
เงื้อมเงาเคราะห์เข้างำ
ทะงัน
คราอ่านสาระสะท้อนนุสรณ์พินิจธรรม์
พาโศกพิโยคศัลย์
สยาม
โอ! ไทยเทียบทุรยุคกระอุกกษณะยาม
ต่างตั้งพลังตาม
ตะบึง
โอ้โอ๋อุณร์ปะทุอกตระหนกธรณิอึง
โอดโอยคระโหยหึง
เพราะโหง
ต่างดึงต่างพลลากก็ยากกรชโลง
สามัคคิสืบโยง
พยุง
โอ้! ฤากาลขณะรัฐวิบัติปะทะกุรุง
หล่นผล็อยแหละลอยผลุง
ณ พลัน
แม้นไพรัชผิว์จะโรมคระโหมพยุหะรัน
รอนเขตนิเวศน์ขัณฑ์
นิคม
คงได้โดยลุสะดวกผนวกพิริย์ระดม
ทวยไทยก็ภัยถม
วิถี
โอ! อกหวาดและผวาประหว่าพระปฐวี
เปรียบหล้า วิศาลี
ละกล!!!
(๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑)
27 สิงหาคม 2551 09:22 น.
ตราชู
เชิญเถิด
โคลงจิตรลีลา
เชิญเหล่าผู้...............โลนผอง
เชิญเถิดปอง...............ป่ายปล้น
เชิญเถิดถอง...............โถมถีบ
เชิญล้อมร้น...............เร่งแรง
แปลงเปลี่ยนด้าว...............โดยแด
ลาญขื่อแป...............ป่นปี้
เชิญเถิดแถ...............เถือเหยื่อ
เชิญนิ้วชี้...............เชิดนำ
ทำถ่อยถ้วน...............ทางสถุล
ถอดทางบุญ...............ทุกเบื้อง
เคยถือสุนทร์...............ศานติ
มาย้ายเยื้อง...............ยับเยิน
เชิญเถิดเหี้ยม...............ทวยหาญ
เชิญรำบาญ...............บุกเข้า
เชิญวางฐาน...............ทอดต่อ
เชิญผ้ายเร้า...............รถถัง
พังโก่นม้วย...............กฎหมาย
จงฉิบหาย...............หั่นกลิ้ง
เชิญเถิดฉาย...............ฉานเดช
เชิญรื้อทิ้ง...............ราบถอน
มรณ์มอดม้วย...............เมืองไทย
ถอยหลังไป...............ไป่เขยื้อน
บรรลัยไหล...............ลงหล่ม
โรคเกลื้อนเรื้อน...............ระบาดครอง
หมองป่วยช้ำ...............ปวงชน
เขาเดินกล...............ก่อให้
รวมคนขน...............ขูขนัด
เพียงไว้ใช้...............ชั่วคราว
หาวหม่นม้วน...............เมฆี
มูลมองมี...............มืดหุ้ม
เลิกหวังศรี...............ตะวันส่อง
มืดคล้ำคลุ้ม...............ครอบสมัย ครองสมัย
(๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑)
หมายเหตุ
โคลงจิตรลีลา นี้ เป็นชื่อที่ ท่านคมทวน คันธนู ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อเรียก โคลง ๕ พัฒนา ซึ่ง ท่านจิตร ภูมิศักดิ์ รังสรรค์ไว้ครับผม
ข้อความฝากทิ้งท้าย
แม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมหลายๆอย่างของรัฐบาลชุดนี้ แหละได้แสดงออกแล้วเป็นระยะๆ ทว่า การกระทำของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่อ้างว่าอารยชน แต่กลับบุกรุก ยึดหน่วยงานราชการหลายแห่ง รวมถึงปีนเข้าไปในธรรมเนียบรัฐบาล ผมเห็นว่าไม่บังควรอย่างยิ่ง จึงขอตำหนิและประณามครับผม
22 สิงหาคม 2551 10:31 น.
ตราชู
โก-ลก โกลา
วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
ถมศพทบซ้อน
เวียนว่อนวุ่นวาย
เนืองกองนองก่าย
ยิ่งตาย...ยิ่งเติม
บุกล่า บ้าเลือด
แกว่นเดือดกว่าเดิม
ฉิบหายฉายเหิม
มืดหน...หม่นหาว
ครั่นหนาวคราวนี้
ยายีย่ำเหยื่อ
เหิมโลดโหดเหลือ
เลือดเพรื่อไหลพราว
โก-ลก โกลา
ถูกคร่าถึงคราว-
ลับเดือนเลือนดาว
กรรมดาลการณ์ดล
ไฟใต้ไฟต่อ
ลวงล่อลึกลับ
ซุกซ่อนซ้อนสรรพ
หลายกับ หลายกล
หลายเขต เลศข่าย
หลายค่าย หลายคน
วางผังหวังผล
แอบพร่ำอำพราง
วาดหวังวังเวง
คว้างเคว้งไขว่คว้า
สุขมี ศรีมา
รอท่าไร้ทาง
หรี่แสง แรงสิ้น
หวังวิ่นวายวาง
คราหมองครองหมาง
ปกมิดปิดเมือง!!
(๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑)
แด่โศกนาฏกรรม ณ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ครับผม
หมายเหตุ
ลีลาของวิชชุมมาลาฉันท์เยี่ยงนี้ ผมศึกษาจากงานกวีของ ท่านคมทวนคันธนู รวมถึงกวีอีกหลายท่านครับผม
20 สิงหาคม 2551 08:04 น.
ตราชู
อนาคตกรรม ณ เกียกกาย
(รูปแบบการเขียน ผมได้แรงบันดาลใจจากบทกวีชื่อ สั้นๆแต่ยืนยาว นิพนธ์โดย ท่านคมทวน คันธนู ในหนังสือ กำสรวลโกสินทร์ ครับผม)
โคลง ๔ สุภาพ
เขาสรวลแสนสุขส้อง...............เสพสรวง
ตามตักเติมตุนตวง...............ไต่เต้า
เราแรงร่อยรรรลวง...............โรยหล่น
ดังถูกกำลังเท้า...............ถีบทุ้งลงทัณฑ์
เขาหรรษ์เหินแห่งห้วง...............เวหา
สรรค์เพิ่ม รัฐสภา...............ใหม่แผ้ว
คิดขับเคลื่อนเราคลา...............ไคลถิ่น
หลากเหล่าปวงเราแล้ว...............สลดล้นเหลือหลาย
เกียกกาย เราไต่ก้าว...............ตะเกียกตะกาย
วันพรุ่งเกรงพลัดพราย...............พรากบ้าน
มองมองสิ่งปองหมาย...............ละเมอใฝ่
อนาคตคงยากค้าน...............ขัด โต้ ชะตาตน
กลอน
ถูกเขาย้ำย่ำอยู่หนอผู้ยาก
ถึงลำบากเกินเบี่ยง ได้เพียงบ่น
คล้ายดั่งเขาเข้าเข่นความเป็นคน
ต้องสับสน กำสรวล ซวดซวนเซ
พวกทำท่าสาไถยหวังไล่ที่
สิ้นเสรี เดือดร้อนด้วยร่อนเร่
เขาทึ้ง ล้วง ทวงล้ำถึงทำเล
ทุกข์ถมเถถาโถมครืนโครมสะเทือน
หกหันเห เคหาเขาหาให้
ก็ยังไม่แม้นมิตรสนิทเหมือน-
แหล่งเคยอยู่อู่เหย้าค่ำเช้าเยือน
โอ้! เขาเฉือนชีพเฉาเฉกเขาชัง
มา เชิญมวลชวนหมู่ชนผู้หมอง
มา แซ่ซ้องเสียงส่ำ ค้านคำสั่ง
แหล่งเราอยู่ อู่เหย้าของเรายัง
มาเหนี่ยวรั้งให้สัมฤทธิ์โดยสิทธิ์เรา
นี่ ลำเนาเราแน่หลายแหล่หน้า
ใช่สภาเพื่อพรรคสุนัขเผ่า
พวกใจบาป หยาบ บ้า ปัญญาเบา
อย่าโฮ่งเห่าฮึ่มแฮ่เฮแห่ฮือ
เราเคียดจนข้นจิตจึงคิดจ้วง
เถิด ประท้วงรวมทัพกำกับถือ-
ศรัทธาหมั่นมั่นหมายอย่าคลายมือ
ย่อมเลื่องชื่อลือชาปรีดาชัย
(๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑)
ข้อความฝากทิ้งท้าย
ผมฟังข่าว รัฐบาลมีมติจะสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งก็หมายความว่า จะต้องเวนคืนที่ดิน ก่อความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจำนวนไม่น้อยในบริเวณนั้น ทั้งๆที่อาคารรัฐสภาหลังเก่าก็ยังใช้การได้อยู่ ไม่รู้จะสร้างใหม่ทำไมกัน จึงเขียนงานชิ้นนี้ขึ้นครับผม