1 ตุลาคม 2553 23:06 น.
ตรากลม
..........
..........จบไปแล้วอีกวันผันแปรเปลี่ยน
..........บันทึกเขียนความหมายลายอักษร
..........เขียนวันนี้วันหน้ากลับมาย้อน
..........ว่าคราวก่อนเคยย้ำทำอะไร
..........เดิน นั่ง นอน มอง คิด พินิจดู
..........สัมผัสรู้เข้าออกนอกส่วนไหน
..........ภาพเหตุการณ์ผ่านลึกบันทึกใจ
..........จึงเก็บไว้รวมลงในทรงจำ
..........วันฝนตกเมื่อตอนเปียกปอนหนัก
..........หลับตาพักนอนคิดปล่อยจิตพร่ำ
..........ละอองฝนหล่นล่วงกระเซ็นพรำ
..........เป็นสายน้ำไหลหรี่นองที่ทาง
..........กระบะน้อยบัวดินกินเกินไหว
..........น้ำฝนใสเอ่อขังทั้งกระถาง
..........ริ้วเรียวใบก้านแผลงอ่อนแรงบาง
..........คงเจ็บร้างเมื่อยขบกระทบกาย
..........อย่าเจ็บปวดเลยเจ้าเดี๋ยวเดียวออก
..........ไม่นานหรอกฝนนั้นคงพลันหาย
..........เดี๋ยวข่าวดีเริ่มมาหลังฟ้าร้าย
..........ไม่มีคำว่าสายหากใจไม่เปลี่ยนแปลง
................จ ะ ร้ า ย ห รื อ ดี
................คื อ เ ว ล า ที่ มี ค่ า
................ใ น คำ ว่ า ชี วิ ต
.
18 มกราคม 2553 00:07 น.
ตรากลม
..........โอกาสพร้อมเบ่งบานตระง่านช่อ
..........ผุดออกกอ...ชูชันสีสันสวย
..........ก้านดอกเพรียวเรียวยาวไหวระทวย
..........แมลงน้อยรวยรินหลงกลิ่นชม
..........กลีบดอกใหญ่สีหวานผ่านหกแฉก
..........ชมพูแทรกขาวนวลเย้ายวนสม
..........ปุยเกสรเสน่หาน่าภิรมณ์
..........อยากดอมดมใกล้เจ้าเฝ้ามองดู
..........เป็นสิบเดือนกำชับที่นับคอย
..........ตั้งแต่บ่อยพรวนดินเคยชินอยู่
..........ยิ้มดีใจใบแรกเริ่มแตกพรู
..........ยังไม่รู้ดอกหนอ...ออกเมื่อไร
..........จนคราวรอจากนั้นถึงวันนี้
..........วรรณฉวีอาทรละอ่อนไหว
..........สาสมแล้ววาดหวังอย่างตั้งใจ
..........โฉมชะไมยามเห็นระเด่นตา
..........นามบัวดินยินยลผู้คนกล่าว
..........สี ชมพู-ขาว-เหลือง เรืองบุปผา
..........แรกสัมผัสดั่งกลต้องมนตรา
..........ข้องอุราดวงแดแก่เจ้าเอย
.....บั ว ดิ น ชื่ อ อ ยู่ น้ำ ใ ย อ ยู่ พื้ น ดิ น
.....ค ว า ม รั ก ง า ม จิ น ต์ ใ ย ทำ ร้ า ย ค น
.
13 พฤศจิกายน 2552 13:29 น.
ตรากลม
...
.......... ไม่พ้นเลยที่ต้องเก็บมาคิด
.......... กับสิ่งที่เคยประติดประต่อ
.......... ภาพทรงจำ-คำพูด-เคยเคลียคลอ
.......... เล่นหยอกล้อสนุกเป็นสุขใจ
.......... แม้ทุกอย่างกลับข้างเป็นอดีต
.......... เราได้ขีดแบ่งกั้นแบ่งใจใหม่
.......... แบ่งความรู้สึกขนานกันออกไป
.......... เหลือเพียงน้อยเก็บไว้ยังไม่ลืม
.......... คือความปรารถนาที่ดีดี
.......... เราต่างมีให้กันฉันยังปลื้ม
.......... หลายคราคิดคำหวานได้แอบยืม
.......... คำเธอมาดื่มด่ำยิ้มร่ำนาน
.......... แค่คิดถึงพล่ามไปยามเมื่อเหงา
.......... ไม่ได้หวังคืนเก่าจะประสาน
.......... ปล่อยใจไปบางครั้งอย่างต้องการ
.......... ออกจากกรอบรอบด้านกำแพงใจ
.......... อยากจะคิดอะไรให้มันง่าย
.......... เผื่อจิตใจสบายดูสดใส
.......... แต่ความฝันมันต่างความจริงไกล
.......... เราต่างมีหัวใจคนละดวง
........ห ล า ย สิ่ ง ก ลั บ มี ค ว า ม สำ คั ญ
........เ มื่ อ มั น สู ญ เ สี ย ไ ป แ ล้ ว
.
20 สิงหาคม 2552 16:15 น.
ตรากลม
...
......................ไม่จำเป็นต้องมีกี่เหตุผล
......................สืบค้นหาอะไรมาขยาย
......................พูดโต้ตอบสอบถามเสียมากมาย
......................อธิบายกันยาวเปล่าสิ้นเปลือง
......................ถ้ายังคิดปิดกั้นกันตลอด
......................ทำใบ้บอดไม่แคร์ไม่รู้เรื่อง
......................ปรับปลี่ยนใหม่แต่ใจเธอยังเคือง
......................ไม่กระเตื้องไปสู่ทางที่ดี
......................เป็นคนผิดติดตัวชั่วมลาย
......................คือคนร้ายทำเธอเหม่อทุกขี
......................สิ่งผ่านมาไร้ค่าในวันนี้
......................มิอาจที่ทดแทนลบล้างกัน
......................ต้องสิ้นสุดจบไป - จบไป - จบไป
......................คำนี้หรือท่องไว้ให้กับฉัน
......................ดีเหลือเกินขอบคุณฉันรับมัน
......................ถึงเวลาลงทัณฑ์เธอเอาคืน
......................ไม่หวงห้ามตามใจเธอจะคิด
......................หรือปิดกั้นดื้อรั้นยังจะฝืน
......................แค่รู้ไว้ฉันคนนี้ที่หยัดยืน
......................ใช่คิดอื่นนอกจาก...ปรารถนาดี
..,,,,,,,.....,,,,,.เ ธ อ พ ย า ย า ม ปิ ด กั้ น . . . . .
....................แ ต่ ฉั น พ ย า ย า ม ป ล่ อ ย ว า ง
...........
14 สิงหาคม 2552 08:59 น.
ตรากลม
...
..........คงจะเป็นเช่นนี้ไปอีกนาน
..........มีอาการราวกับยังสับสน
..........เป็นอะไรตอบมิได้ในตัวตน
..........แต่ละวันเหมือนวกวนอยู่ที่เดิม
..........พิจารณาตรวจดูความรู้สึก
..........หลายหนนึกสืบค้นเหตุผลเพิ่ม
..........ย้อนทบทวนสิ่งไหน เก่า-ใหม่ เติม
..........แรกที่เริ่มก่อตัวเป็นขั้วนำ
..........ไม่อยากให้สิ่งไหนคอยปิดกั้น
..........ขนานคั่นออกไปไกลถลำ
..........อยู่กับความเป็นจริงสิ่งชอบธรรม
..........ยถากรรมที่ต่างเราสร้างมา
..........คุยกันเถอะและเอ่ยเปิดเผยใจ
..........อย่าเก็บไว้ให้มันเป็นปัญหา
..........ต่างคนเงียบมิเอ่ยเมินเฉยชา
..........ใช่ว่าจบหายเคืองหมดเรื่องราว
..........หนีความจริงกฏเกณฑ์ที่เป็นอยู่
..........หลอกใจว่าไม่รู้เจ็บร้อนหนาว
..........จนวันนี้กี่ครากี่ครั้งคราว
..........ที่เจ็บร้าวเนืองเนืองในเรื่องเดิม
...ตราบใด...ที่ ยั ง ไ ม่ ย อ ม รั บ ค ว ม จ ริ ง
...หั ว ใ จ ยั ง มี สิ่ ง ติ ด ค้ า ง อ ยู่ ...ตราบนั้น
.