10 ธันวาคม 2550 13:54 น.
ตมิสา
ดาวน้อยฤาอาจเอื้อม.....แข่งจันทร์
ตระหนักเพียงแสงอัน........หนึ่งน้อย
มิอาจเทียบเปรียบจัน-........ทรเด่น
ริบหรี่แสงละห้อย.............เคลื่อนคล้อยมองจันทร์
ดารกาเพียงผ่องแผ้ว.......จินดา
ระยับท่ามเวหา................แผ่นฟ้า
จำรัสแจ่มแสงดา-.............ราเด่น
พราวละมุนเลอหล้า.........ฟากฟ้าแดนสรวง
9 ธันวาคม 2550 14:06 น.
ตมิสา
หลงเอ๋ย เธอว่า คือรัก
หลงปัก จิตทรวง หวนไห้
หลงเอย หลงเขา ปักใจ
วอนให้ เธอเอ๋ย รู้ตัว
รักถอน ง่ายกว่า ลืมหลง
เธอจง ใคร่ครวญ ตรองใหม่
รักแท้ คือยอม มอบใจ
ครองใจ คือหลง มัวเมา
5 ธันวาคม 2550 14:22 น.
ตมิสา
ฉันเป็นผู้เฝ้ามองอยู่แต่เพียงห่าง
ใจว่างว่างเพียงเศร้ากับหวั่นไหว
ด้วยตระหนักไกลเกินกว่าเอื้อมใจ
เก็บรักไว้เฝ้าฝันนิทรารมย์
ดับใจเศร้าเลิกรักทีได้ไหม
รักกร่อนใจเกินแบกรับทุกรอยปร่า
ทำใจเราเศร้าหมองครองน้ำตา
เพียงชีวาดับดิ้นลงสิ้นใจ
4 ธันวาคม 2550 18:01 น.
ตมิสา
อกสะท้อนไหวหวั่นลำนำโศก
ครวญวิโยคหวนไห้คำนึงถึง
ใจเจ็บหวนรัญจวนเฝ้ารำพึง
เสียงอลอึงยังกึกก้องทุกวันวาร
เพียงคำรักพัดผ่านใจพลิกพลิ้ว
หากปลิดปลิวด้วยความลวงนึกสงสาร
กล่อมใจเอยจงเจ้าอย่าทรมาน
เพียงลมพานผ่านพัดไม่ย้อนคืน
ยามนิทราหลับฝันพักกับหมอน
ใจรอนรอนมิวายเว้นสร่างสะอื้น
ตอกย้ำเอาหลับฝันเพียงชั่วคืน
ใจยังรื่นขื่นทรวงด้วยพิษลา
เหลือบฝันพร่างพรายพรมห่มใจเหงา
รอยรักเศร้าตราตรึงเจ็บเพียบหนักหนา
รอยน้ำตาหวั่นไหวรักพัดพัดลา
โปรยน้ำตาร่วงรินลับดับใจรอน
4 ธันวาคม 2550 17:13 น.
ตมิสา
ลมหนาว..หนาวอกล้า.............ขื่นขม
ลมรวด...ร้าวใจระทม................สุดช้ำ
ลมแรง...ยิ่งแรงลม.............ใจแผ่ว ใจรอน
ลมพัด...พัดใจย้ำ..............ยอกย้อนเยือกใจ
ลมพราย..พรายพัดพลิ้ว.....ผิวเนื้อ
เจ็บยิ่ง...เจ็บอกเหลือ............ขื่นเศร้า
ยิ่งทุกข์ระทมเจือ..................ใจโศก เศร้านา
หวั่นหวั่นน้ำตาเคล้า.............พ่ายแพ้ใจเรียม